วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2020                   

ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ
LIVING BY FAITH

เพราะว่าเราดำเนินโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น (2 โครินธ์ 5:7)

ถ้อยคำอันลึกซึ้งของพระวิญญาณที่อัครทูตเปาโลเขียนถึงคริสเตียนชาวโครินธ์ให้ภาพรวมสั้นๆ และชัดเจนเกี่ยวกับชีวิตคริสเตียน นั่นคือเราดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ไม่ใช่ด้วยการรับรู้ทางประสาทสัมผัส ความจริงแบบเดียวกันนี้ถูกย้ำในโรม 1:17 ว่า “…คน​ชอบ​ธรรม​จะ​มี​ชีวิต​ดำ​รง​อยู่​โดย​ความ​เชื่อ (ของเขา)

เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจว่าคริสเตียนคือชีวิตแห่งความเชื่อ นั่นคือมันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประสาทสัมผัสของคุณเลย คุณบังเกิดใหม่โดยความเชื่อ และคุณสามารถดำเนินชีวิตคริสเตียนอย่างประสบความสำเร็จได้โดยความเชื่อ ไม่มีวิธีอื่น!

ความเชื่อคือวิถีชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่คุณหยิบมาใช้เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการได้รับบางสิ่งบางอย่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า คุณสามารถทำให้ความเชื่อของคุณเข้มแข็ง กระตุ้น ทำให้เติบโตหรือเพิ่มพูนขึ้นได้

การดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อคือการดำเนินชีวิตจากวิญญาณของคุณตามพระคำของพระเจ้า คุณมองเข้าไปในกระจกของพระเจ้าและได้รับการเปลี่ยนแปลง (เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนร่าง) ไปสู่พระฉายแบบเดียวกับพระสิริของพระเจ้าที่คุณเห็นจากพระสิริสู่พระสิริ (2 โครินธ์ 3:18) ขณะที่คุณทำเช่นนี้พลังแห่งชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้าก็จะถูกเปิดเผยต่อคุณและถูกปลดปล่อยเข้าไปสู่โลกของคุณ สิ่งเหล่านี้ทำงานภายในคุณและดึงดูดคน ทรัพยากร สถานการณ์และวัสดุที่สอดคล้องกับธรรมชาติใหม่ในพระเยซูคริสต์ของคุณ เมื่อคุณป่าวประกาศว่าคุณมีอำนาจเหนือมาร โลก และสภาพแวดล้อมของมัน ความเป็นจริงนั้นจะถูกสถาปนาขึ้นขณะที่คุณป่าวประกาศ ฮาเลลูยา

ฮีบรู 11:6 กล่าวว่าถ้า​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​แล้ว จะ​ไม่​เป็น​ที่​พอ​พระทัยของพระเจ้า​เลย นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถดำเนินชีวิตเพื่อพระองค์ได้ การทำให้พระองค์พอพระทัยคือการดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อทุกวัน หมายความว่าทุกสิ่งในชีวิตของคุณได้รับการชี้นำตามพระคำของพระองค์ ความมั่นใจของคุณขึ้นอยู่กับความเป็นจริงนิรันดร์ของแผ่นดินของพระเจ้า และไม่ใช่สถานการณ์ของชีวิตในโลกที่ไม่ยั่งยืน ชั่วคราวบนโลก (2 โครินธ์ 4:17) ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

การกระทำ ปฏิกิริยา ความคิด คำพูด และการตอบสนองต่อสถานการณ์และสภาพแวดล้อมของฉันจะสอดคล้องกับน้ำพระทัยที่สำแดงออกของพระบิดาโดยพระคำ ไม่ใช่ตามการรับรู้ทางประสาทสัมผัส ชีวิตของฉันถูกควบคุมโดยความเป็นจริงนิรันดร์แห่งแผ่นดินของพระเจ้า และพระพรในนั้นถูกปลดปล่อยออกมาสู่โลกของฉัน ฉันดำเนินชีวิตอยู่อย่างมีชัยทุกวัน ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

2 โครินธ์ 4:18; ฮีบรู 11:1

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 1 ปี

ยอห์น 7:25-8:1-11 & 1 พงศ์กษัตริย์ 18-19

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 2 ปี

1 โครินทร์ 9:20-17 & สุภาษิต 12


วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2020                  

ถูกยกขึ้นสู่พระสิริในพระองค์
GLORIFIED IN HIM

และบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ก่อนนั้น พระองค์ทรงเรียกมาด้วย และผู้ที่พระองค์ทรงเรียกมานั้น พระองค์ทรงให้เป็นผู้ชอบธรรม และผู้ที่พระองค์ทรงให้เป็นผู้ชอบธรรมนั้น พระองค์ก็ทรงให้มีศักดิ์ศรีด้วย (โรม 8:30)

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นความสว่างไสวแห่งพระสิริของพระบิดา เป็นพระฉายที่สำแดงออกแห่งความเป็นของบุคคลของพระองค์ (ฮีบรู 1:3) และนั่นคือสิ่งที่พระองค์สร้างให้เราเป็น เราได้รับการยกขึ้นสู่พระสิริในพระองค์ พระองค์กล่าวไว้ในยอห์น 17:22 ว่า “เกียรติ​ซึ่ง​พระ​องค์​ประ​ทาน​แก่​ข้า​พระ​องค์​นั้น ข้า​พระ​องค์​มอบ​ให้​แก่​พวก​เขา เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ได้​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน ดัง​เช่น​พระ​องค์​กับ​ข้า​พระ​องค์”

คริสเตียนเป็นผลแห่งการทนทุกข์ของพระคริสต์ พระคัมภีร์กล่าวถึงพระ​สิริ​ที่​จะ​มา​ภาย​หลังการทน​ทุกข์​เหล่า​นั้นของพระองค์ (1 เปโตร 1:11) เราเป็นพระสิรินั้นเป็นความชื่นชมยินดีที่พระองค์เห็น ซึ่งทำให้พระองค์อดทนต่อไม้กางเขนและดูหมิ่นความอับอาย (ฮีบรู 12:2) ดังนั้นคริสเตียนจึงไม่มีความละอายอีกต่อไป เพราะว่าพระเยซูได้แบกความอับอายของคุณแล้ว พระองค์จ่ายราคาเพื่อให้คุณดำเนินชีวิตที่เปี่ยมด้วยพระสิริ ทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จของคุณได้ถูกทำให้สำเร็จแล้ว พระองค์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อให้คุณสามารถดำเนินชีวิตที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี และความเป็นเลิศ ฮาเลลูยา!

ส่วนที่งดงามที่สุดของการสละชีวิตแทนของพระองค์ก็คือมันไม่ได้จบลงที่หลุมศพ พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตายอย่างมีชัยในวันที่สาม สาธุการแด่พระเจ้า! เช่นเดียวกับที่ความตายไม่สามารถยึดพระองค์ไว้ได้ วันนี้ก็ไม่มีสิ่งใดสามารถขัดขวางชีวิตที่เปี่ยมด้วยพระสิริของคุณในพระองค์ได้ ถ้าคุณไม่สามารถเดินได้ จงลุกขึ้นและเดิน! จงเดินออกจากความเจ็บป่วยนั้น เพราะว่าพระสิรินั้นได้มาถึงแล้ว นั่นคือพระคริสต์ในตัวคุณ ความหวังแห่งพระสิริ (โคโลสี 1:27)

นี่คือข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ พระองค์ได้นำชัยชนะ ความสำเร็จ สุขภาพและความเจริญรุ่งเรืองมาให้แก่เรา พระองค์ได้นำเราเข้าไปสู่พระสิริของพระองค์และกำหนดให้เราสำแดงสิ่งเดียวกันนี้ในแผ่นดินโลก แต่​พวก​ท่าน​เป็นพงศ์​พันธุ์​ที่​ทรง​เลือก​สรร เป็น​พวก​ปุโร​หิต​หลวง เป็น​ชน​ชาติ​บริ​สุทธิ์ เป็น​ประ​ชา​​กร​อัน​เป็น​กรรม​สิทธิ์​ของ​พระ​เจ้าเพื่อ​ให้​พวก​ท่าน​ประ​กาศ​พระ​เกียรติ​คุณ​ของ​พระ​องค์ ผู้​ได้​ทรง​เรียก​พวก​ท่าน​ให้​ออก​มา​จาก​ความ​มืด เข้า​ไป​สู่​ความ​สว่าง​อัน​มหัศ​จรรย์​ของ​พระ​องค์ (1 เปโตร 2:9)

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ชีวิตของฉันคือการสำแดงออกและคำพยานเกี่ยวกับพระคุณและพระสิริของพระเจ้า สติปัญญาและความชอบธรรมของพระองค์ได้ถูกเปิดเผยสำแดงและเห็นได้อย่างชัดเจนในฉัน ฉันเป็นความสว่างของพระองค์ในโลกที่มืดมิด และฉันส่งผลกระทบต่อโลกของฉันด้วยความชอบธรรมของพระเจ้าในวิญญาณของฉัน ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

1 เปโตร 2:9;โรม 8:17

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 1 ปี

ยอห์น 7:1-24 & 1 พงศ์กษัตริย์ 15-17

 อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 2 ปี

1 โครินทร์ 9:11-19 & สุภาษิต 11


วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2020      

การรับรู้ของความเชื่อ
 
THE “KNOWING” OF FAITH

ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น (ฮีบรู 11:1)

ความสัมพันธ์ของเรากับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง มันไม่สำคัญว่าคุณ “รู้สึก” อย่างไรที่ภายนอกความรู้สึกทางกายภาพไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ บ่อยครั้งที่ประสบการณ์ของเราเกี่ยวกับพระองค์และกับพระองค์ไม่สามารถถูกบรรยายด้วยคำพูดของมนุษย์ได้ แต่หลังจากนั้นก็จะมี “การรับรู้” ภายในที่ลึกล้ำในวิญญาณของคุณ

สิ่งนี้ทำให้นึกถึงเรื่องราวของผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องเลือดในมาระโก 5 เธอมีอาการตกเลือดมาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว และหมอไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ พระคัมภีร์กล่าวว่า เมื่อเธอได้ยินเรื่องของพระเยซูก็แหวกเข้าไปข้างหลัง และสัมผัสที่ชายฉลองพระองค์ ข้อต่อมากล่าวว่า ทัน​ใด​นั้น​โล​หิต​ที่​ตก​ก็​หยุด​แห้ง​ไป และ​หญิง​ผู้​นั้น​รู้​สึก​ตัว​ว่า​โรค​หาย​แล้ว (มาระโก 5:29) เธอรู้ได้อย่างไรว่า “ความรู้สึก” ที่เธอรู้สึกในร่างกายของเธอเป็นความรู้สึกของการรักษาโรค? นั่นคือความเชื่อของเธอกำลังทำงานอยู่!

พระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวว่า “เธอเห็นว่าเลือดได้หยุดไหลแล้ว” แต่ “​รู้​สึก​ตัว​ว่า​โรค​หาย​แล้ว” นั่นคือความรู้สึกแห่งความเชื่อ ในกรณีของคนง่อยที่ประตูพระวิหาร ซึ่งถูกเรียกว่าประตูงาม ซึ่งถูกบันทึกไว้ในกิจการ 3 ขณะที่เปโตรทำพันธกิจต่อเขา พระคัมภีร์กล่าวว่า​เท้า​และ​ข้อ​เท้า​ของ​เขา​ก็​มี​กำ​ลัง (กิจการ 3:6)

กระดูกไม่มีความรู้สึก ดังนั้นจึงไม่สามารถเป็น “ความรู้สึก” ทางกายภาพได้ แต่มีบางอย่างได้ถูกฉีดเข้าไปที่เท้าและกระดูกของเขา และพระเจ้าทรงทราบและกล่าวว่าเท้าและข้อเท้าของเขา​ก็​มี​กำ​ลัง ผลก็คือผู้ชายคนนั้นก็กระโดดและเดิน ความเชื่อของเขาทำงานอยู่ เขาตอบสนอง และในการตอบสนองของเขาฤทธิ์อำนาจของคำที่เปโตรพูดก็สำแดงออก และการอัศจรรย์ของเขาก็เกิดขึ้น

สิ่งนี้ยังเตือนให้เราระลึกถึงสิ่งที่เราอ่านเกี่ยวกับดาวิด พระคัมภีร์กล่าวว่าเขา “รู้” ว่าพระเจ้าได้ยืนยันว่าเขาเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล นี่ไม่ใช่แค่ความรู้ทางความคิดหรือร่างกาย สิ่งนี้เป็นความรู้ในวิญญาณของเขา มีความรู้เรื่องความเชื่อ การได้ยินเรื่องความเชื่อ ความรู้สึกหรือการรับรู้เรื่องความเชื่อ เมื่อคุณไวต่อการทรงนำและการชี้นำของพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระคำ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับความกระตือรือร้นของพระวิญญาณซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไวต่อการทรงนำและการชี้นำของพระองค์และรู้ว่าต้องทำอย่างไรตลอดเวลา ข้าพระองค์ได้รับประโยชน์ผ่านทางพระคำอย่างชัดเจน ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

โรม 10:17; ฮีบรู 11:6; ยากอบ 2:18-26

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 1 ปี

ยอห์น 6:60-71 & 1 พงศ์กษัตริย์ 12-14

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 2 ปี

 1 โครินทร์ 9:1-10 & สุภาษิต 10


วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2020                                                

ฤทธิ์อำนาจในการรักษาโรค
POWER TO HEAL

แต่เปโตรกล่าวว่าเงินและทองเราไม่มี แต่สิ่งที่เรามีนั้นเราจะให้ท่าน คือในพระนามของพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ จงเดินเถิด(กิจการ 3:6)

คริสเตียนไม่ใช่คนป่วยที่ต้องการการรักษาโรค น่าเศร้าที่หลายคนไม่เข้าใจในสิ่งนี้ การบังเกิดใหม่ทำให้คุณมีชีวิตของพระเจ้า ซึ่งเป็นชีวิตที่ “ไม่สามารถถูกทำลายได้” ตามที่พระเยซูได้กล่าวว่าคริสเตียนมีฤทธิ์อำนาจในการรักษาโรค เขาได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าให้นำการรักษาโรคไปสู่โลกนี้ จงศึกษาพระคัมภีร์และคุณจะพบถึงสิ่งที่พระเยซูทำ พระคัมภีร์กล่าวว่า ​พระ​เยซู​เสด็จ​ไป​ทำ​คุณ​ประ​โยชน์​และ​รัก​ษาทุก​คน​ที่​ถูก​มาร​เบียด​เบียน (กิจการ 10:38)

อัครทูตก็ทำสิ่งเดียวกัน พวกเขาทำพันธกิจรักษาโรคต่อคนป่วย ยกตัวอย่างเช่น เราอ่านเรื่องเกี่ยวกับเปโตรและยอห์นใน กิจการ 3 ขณะที่กำลังเข้าไปในพระวิหารและถูกเรียกร้องความสนใจโดยขอทานที่เป็นง่อยคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่ประตูพระวิหาร ซึ่งกำลังขอเงินบริจาคจากทุกคนที่กำลังเข้าและออกจากพระวิหาร การตอบสนองของเปโตรนั้นน่าประทับใจมาก เขากล่าวว่า ..เงิน​และ​ทอง​เรา​ไม่​มี แต่​สิ่ง​ที่​เรา​มี​นั้น​เรา​จะ​ให้​ท่าน คือ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ชาว​นาซาเร็ธ จง​เดิน​เถิดแล้ว​เป​โตร​ก็​จับ​มือ​ขวา​ของ​เขา​พยุง​ขึ้น ใน​ทัน​ใด​นั้น​เท้า​และ​ข้อ​เท้า​ของ​เขา​ก็​มี​กำ​ลัง (กิจการ 3:6-7)

โปรดสังเกตว่าสิ่งที่เปโตรให้แก่เขานั้นไม่ใช่ “คำอธิษฐาน” หรือฤทธิ์อำนาจในการอธิษฐาน นี่คือจุดที่คริสเตียนบางคนพลาดไป พวกเขาคิดว่าพระเจ้าทรงประทาน “ฤทธิ์อำนาจในการอธิษฐานเผื่อคนป่วย” ให้แก่เรา ไม่! พระองค์ประทานฤทธิ์อำนาจในการรักษาคนป่วยให้แก่เรา อ่าน มัทธิว 10:1 ซึ่งกล่าวว่า พระ​องค์ (พระเยซู) ​ทรง​เรียก​สา​วก​สิบ​สอง​คน​ของ​พระ​องค์​มา แล้ว​ประ​ทาน​สิทธิ​อำ​นาจ​ให้​พวก​เขา​ขับ​ผี​โส​โครก​ออก​ได้ และ​ทรง​ให้​รัก​ษา​โรค​และ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ทุก​อย่าง​ให้​หาย​ได้ พระเยซูให้ฤทธิ์อำนาจในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดและโรคภัยทุกชนิด ไม่ใช่บางชนิด แต่ทุกชนิด ดังนั้นจึงไม่สำคัญวาจะเป็นโรคใด คุณมีฤทธิ์อำนาจในการรักษาสิ่งนั้นได้

พระเยซูตรัสใน มาระโก 16:17-18 ว่า มี​คน​เชื่อ​ที่​ไหน​หมาย​สำ​คัญ​เหล่า​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ที่​นั้น คือ​พวก​เขา​จะ​ขับ​ผี​ออก​โดย​นาม​ของ​เรา พวก​เขา​จะ​พูด​ภาษา​แปลกๆ พวก​เขา​จะ​จับ​งู​ได้​ด้วย​มือ​เปล่า ถ้า​พวก​เขา​กิน​ยา​พิษ​ใดๆ มัน​จะ​ไม่​ทำ​อัน​ตราย​แก่​พวก​เขาและ​พวก​เขา​จะ​วาง​มือ​บน​คน​เจ็บ​คน​ป่วย แล้ว​คน​เหล่า​นั้น​จะ​หาย​โรคจงใช้สิ่งที่คุณมีให้เกิดผล จงปฏิเสธที่จะอนุญาตให้มารอาละวาดในชีวิตของคุณหรือในชีวิตของคนที่คุณรักในรูปแบบของการเจ็บป่วย คุณเป็นผู้รักษาโรค จงเดินในการตระหนักรู้นี้

คำอธิษฐาน

พระบิดาในสวรรค์ที่รัก ขอบพระคุณสำหรับพระคุณและพระสิริของพระองค์ที่กำลังทำงานอยู่ในข้าพระองค์ขณะที่ข้าพระองค์ทำพันธกิจรักษาคนป่วย ข้าพระองค์รับรู้ถึงชีวิตของพระเจ้าในตัวของข้าพระองค์ที่จะขับไล่ความเจ็บป่วย โรค และความอ่อนแอ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

มัทธิว 10:7-8; มาระโก 3:14-15; ฟีเลโมน 1:6

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 1 ปี

ยอห์น 6:25-59 & 1 พงศ์กษัตริย์ 10-11

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 2 ปี

1 โครินทร์ 8:1-13 & สุภาษิต 9


วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2020               

ความถ่อมใจและความยิ่งใหญ่
HUMILITY AND GREATNESS

แต่พระองค์ก็ประทานพระคุณมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวว่า พระเจ้าทรงต่อสู้คนที่หยิ่งจองหองแต่ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ” (ยากอบ 4:6)

ในคำสอนของพระเยซู พระองค์สำแดงความถ่อมใจ เมื่อถึงเวลาที่พระองค์ต้องรับบัพติศมา พระองค์ไม่ได้รู้สึกเหนือกว่ายอห์น ผู้ให้รับบัพติศมา ถึงแม้ว่าพระองค์จะเป็นพระบุตรของพระเจ้าก็ตาม แต่พระองค์ทรงอนุญาตให้พระคัมภีร์สำเร็จ (อ่านมัทธิว 3:13-15 ฉบับ NKJV) นั่นเป็นเพราะว่าคนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงนั้นถ่อมใจและได้รับแรงดลใจจากสิ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือการทำให้พระคำของพระเจ้าสำเร็จ นั่นคือทำสิ่งต่างๆตามแบบของพระเจ้าพวกเขายังได้รับแรงดลใจให้รับใช้ด้วย

พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “​ถ้า​มี​ใคร​ต้อง​การ​เป็น​ใหญ่​ใน​พวก​ท่าน คน​นั้น​จะ​ต้อง​เป็น​ผู้​ปรน​นิบัติ​ของ​ท่าน (มัทธิว 20:26) พระองค์ไม่เพียงแค่พูดสิ่งนี้แก่พวกเขาเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงกระทำเช่นนั้นด้วยการล้างเท้าของเหล่าสาวกของพระองค์ หลังจากนั้นพระองค์อธิบายการกระทำของพระองค์ว่า พวก​ท่าน​เรียก​เรา​ว่า​พระ​อา​จารย์​และ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าท่าน​เรียก​ถูก​แล้ว เพราะ​เรา​เป็น​อย่าง​นั้น เพราะ​ฉะนั้น​ถ้า​เรา​ผู้​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​พระ​อา​จารย์​ยัง​ล้าง​เท้า​ของ​พวก​ท่าน ท่าน​ก็​ควร​จะ​ล้าง​เท้า​ของ​กัน​และ​กัน​ด้วย เพราะ​ว่า​เรา​วาง​แบบ​อย่าง​แก่​พวก​ท่าน​แล้ว เพื่อ​ให้​ท่าน​ทำ​เหมือน​อย่าง​ที่​เรา​ทำ​กับ​ท่าน​ด้วย เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​พวก​ท่าน​ว่า บ่าว​จะ​เป็น​ใหญ่​กว่า​นาย​ไม่ได้ และ​ทูต​จะ​เป็น​ใหญ่​กว่า​คน​ที่​ใช้​เขา​ไป​ก็​ไม่​ได้ เมื่อ​พวก​ท่าน​รู้​อย่าง​นี้​แล้ว​และ​ประ​พฤติ​ตามท่าน​ก็​เป็น​สุข (ยอห์น 13:13-17 ฉบับ NKJV)

ใน ฟิลิปปี 2 เราอ่านอีกครั้งเกี่ยวกับความถ่อมใจที่หาตัวจับยากของพระองค์ แม้ว่าพระองค์จะเป็นพระเจ้าเอง แต่พระองค์ก็ถ่อมตัวของพระองค์ลงและเสียชีวิตอย่างอาชญากรเพื่อเรา แต่จงดูผลลัพธ์ของความถ่อมใจของพระองค์ “…เพราะ​ฉะนั้น​พระ​เจ้า​จึง​ทรง​ยก​พระ​องค์​ขึ้น​สูง​สุด และ​ประ​ทาน​พระ​นาม​เหนือ​นาม​ทั้ง​หมด​แก่​พระ​องค์ เพื่อ​ที่​ว่า​เพราะ​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​นั้น ทุก​ชีวิต​ใน​สวรรค์ บน​แผ่น​ดิน​โลก และ​ใต้​พื้น​แผ่น​ดิน​โลก จะ​คุก​เข่าลง​กราบ​พระ​องค์ และ​เพื่อ​ที่​ว่า​ทุก​ลิ้น​จะ​ยอม​รับ​ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เป็น​การ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​ พระ​บิดา (ฟีลิปปี 2:6-11 ฉบับ NKJV) ฮาเลลูยา!

ฟิลิปปี 2:5 กล่าวว่า จง​มี​จิต​ใจ​เช่น​นี้​ใน​พวก​ท่าน​เหมือน​อย่าง​ที่​มี​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ หมายความว่าจงเลียนแบบความถ่อมใจของพระองค์ นี่เป็นเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ ไม่มีทางลัดอื่น ความ​จองหอง​มา​ก่อน​การ​ถูก​ทำ​ลาย และ​ใจ​ผยอง​ก็​มา​ก่อน​การ​ล้ม

คำอธิษฐาน

ขอบพระคุณพระบิดาในสวรรค์ ขอบพระคุณสำหรับการให้ความสว่างของพระคัมภีร์ ข้าพระองค์เป็นผลผลิตของพระคำของพระองค์ และข้าพระองค์เดินในความถ่อมใจและความรักด้วยการตระหนักถึงพระคุณของพระองค์ที่ทำให้ข้าพระองค์บินขึ้นสูงและไปข้างหน้าในการเดินทางของความยิ่งใหญ่ ในพระนามของพระเยซูเจ้า อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

สุภาษิต 18:12; มัทธิว 18:4; เอเฟซัส 5:1

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 1 ปี

 ยอห์น 6:1-24 & 1 พงศ์กษัตริย์ 9

อ่านพระคัมภีร์ให้จบใน 2 ปี

1 โครินทร์ 7:25-40 & สุภาษิต 8