และเรามีคำเผยพระวจนะที่แน่นอนยิ่งกว่านั้นอีก จะเป็นการดีถ้าพวกท่านจะเอาใจใส่คำนั้น เพราะคำนั้นเป็นเสมือนตะเกียงที่ส่องสว่างในที่มืด จนกว่าแสงอรุณจะขึ้น และดาวรุ่งจะผุดขึ้นในใจของพวกท่าน (2 เปโตร 1:19)

ในฐานะลูกของพระเจ้า เราไม่ได้พยายามเอาชนะในชีวิต ไม่ว่าปัญหาอะไรจะมาถึงเรา นั่นไม่ใช่ “การถ่ายทอดสด” เราก็แค่เล่นไปตามบทเท่านั้น ในบทนั้นเขียนไว้ว่าคุณชนะ คุณจะมีปัญหาเฉพาะในกรณีที่คุณไม่ได้เล่นตามบทเท่านั้น บทนั้นคือพระคำของพระเจ้า

ไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ เมื่อคุณเล่นตามบท  พระคำคุณป่าวประกาศอย่างกล้าหาญว่า “ไม่ ในทุกสิ่งเหล่านี้ฉันเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิต!” คุณจะมั่นคง ทำไม? คุณมีคำเผยพระวจนะที่แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ว่าคุณจะประสบกับอะไร พระคำก็เชื่อถือได้มากกว่า!

อ่านข้อพระคัมภีร์หลักของเราอีกครั้ง สิ่งนี้เปิดเผยสำแดงถึงความลับของการลอยตัว ความลับของการชนะอย่างต่อเนื่อง เติบโตตลอดเวลา และก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าประสบการณ์ของคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม พระคำกล่าวว่า “จงเอา​ใจ​ใส่​คำ​นั้น เพราะ​คำ​นั้น​เป็น​เสมือน​ตะเกียง​ที่​ส่อง​สว่าง​ใน​ที่​มืด”

สมมติว่าคุณอยู่ในที่มืดในชีวิตของคุณและประสบการณ์ของคุณแย่มาก ทุกอย่างดูเหมือนจะขัดกับความรู้ในพระคำของพระเจ้าของคุณ คุณกำลังอธิษฐานและดูเหมือนกับว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย พระเจ้าตรัสว่า “จงมองดูที่คำเผยพระวจนะซึ่งอาจเป็นเหมือนแสงที่ริบหรี่ และยึดมั่นเอาไว้! จงเกาะอยู่ อย่าโอนเอน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าและดาวประจำวันโผล่ขึ้นในหัวใจของคุณ” ฮาเลลูยา!

ขณะที่คุณยึดมั่นในพระคำ คุณจะได้ยินพระสุรเสียงของพระวิญญาณบอกคุณว่า “จงผ่อนคลาย ทุกอย่างเรียบร้อยดี” ฮาเลลูยา! ในสถานที่ที่ดูเหมือนมืดนั้น พระคำของพระเจ้าอยู่ที่นั่น ความท้าทายจะผ่านไป ดังนั้นจงปฏิเสธที่จะยอมแพ้หรือท้อแท้

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันมีคำเผยพระวจนะที่แน่นอนกว่า ซึ่งฉันใช้ทำสงครามและกำราบสถานการณ์ ฉันไม่กระวนกระวาย ไม่ถูกรบกวนโดยสถานการณ์ต่างๆ ของชีวิตเพราะว่าฉันมีความลับของการลอยตัว นั่นคือความลับของการชนะอย่างต่อเนื่อง เติบโตเสมอ ก้าวหน้าและไม่ตกต่ำ ไม่ว่าอะไรจะมาต่อต้านฉันก็ตาม พระคำคือความมั่นใจและความได้เปรียบของฉัน! ฮาเลลูยา !!

ศึกษาเพิ่มเติม:มัทธิว 24:35; สดุดี 91:7; อิสยาห์ 40:8; 1 เปโตร 1:25


เพราะว่าอาวุธของเราที่ใช้สู้รบไม่ใช่แบบมนุษย์ แต่เป็นฤทธานุภาพจากพระเจ้าที่จะทำลายป้อมปราการได้ คือทำลายเหตุผลปลอมทั้งหลาย (2 โครินธ์ 10:4)

มีคนที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าเป็นคริสเตียน แต่ก็เป็นปฏิปักษ์ต่อข่าวประเสริฐ เพราะว่าความเข้าใจในข่าวประเสริฐของพวกเขานั้นไม่ถูกต้องเนื่องจากทฤษฎีของมนุษย์ บางคนอาจได้รับการเลี้ยงดูในคริสตจักรและได้รับการทรงเลือกจากพระเจ้า เหมือนซาอูลในพันธสัญญาเดิม แต่แทนที่จะเคลื่อนที่ไปกับพระคำ พวกเขาใช้ประสาทสัมผัสในการตีความพระเจ้าและหลุดออกไปจากแผนการของพระเจ้าสำหรับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

คนแบบนี้ถูกบรรยายในพระคัมภีร์ว่าเป็นฝ่ายของซาอูล นั่นคือฝ่ายเนื้อหนัง พวกเขาถูกปกครองโดยเนื้อหนังและไม่ใช่โดยพระวิญญาณ แต่ก็มี “ฝ่ายของดาวิด” พระคัมภีร์กล่าวว่า“…มี​สง​คราม​ระ​หว่าง​ฝ่าย​ของ​ซาอูล​กับ​ฝ่าย​ของ​ดาวิด​อยู่​นาน และ​ดาวิด​ก็​เข้ม​แข็ง​ยิ่ง​ขึ้น ส่วน​ฝ่าย​ของ​ซาอูล​ก็​อ่อน​กำ​ลัง​ลง​ทุก​ที” (2 ซามูเอล 3:1)

“ฝ่ายของดาวิด” เป็นสัญลักษณ์เล็งถึงพระวิญญาณ นั่นคือคนที่เดินในพระวิญญาณ ผู้พูดและดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้า ยังมีสงครามที่รุนแรงในทุกวันนี้ ซึ่งคนที่เดินในเนื้อหนังพยายามทำตัวเหมือนเป็นผู้นำ แต่สติปัญญาที่พระเจ้ามอบให้แก่เรานั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถต่อต้านหรือเอาชนะได้

เมื่อคุณติดต่อกับคนเหล่านี้ จงใช้และพูดถึงพระปัญญาของพระเจ้า โดยรู้ว่าทั้งหมดที่พวกเขามีนั้นก็เป็นเพียงแค่เพียงทฤษฎีและถ้อยคำที่ออกมาจากความคิดตามธรรมชาติของพวกเขา พวกเราก็มีถ้อยคำด้วย แต่เป็นถ้อยคำแห่งพระปัญญาของพระเจ้า ดังนั้นจึงเป็นถ้อยคำต่อสู้กับถ้อยคำ พวกเขาพูดถึงสติปัญญาของโลกนี้ซึ่งไร้ค่า แต่เราพูดถึงพระปัญญาของพระเจ้าที่ให้ผลลัพธ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ในชีวิต สภาพแวดล้อม และสถานการณ์ของเรา และในชีวิตของผู้อื่น ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ด้วยพระคำของพระเจ้าในปากของฉัน ฉันทำลายป้อมปราการของเหตุผล ข้อโต้แย้ง และทฤษฎีของมนุษย์ทั้งหมด แม้กระทั่งตอนนี้ฉันต่อต้านวิญญาณของโลกที่ใช้จินตนาการที่ชั่วร้ายหรือในแง่ลบในหัวใจมนุษย์ ซึ่งทำให้พวกเขาต่อต้านข่าวประเสริฐ และฉันป่าวประกาศถึงชัยชนะเหนือมัน ในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:โคโลสี 2:8; 1 โครินธ์ 2:6-7


ที่ตกกลางหนามหมายถึงคนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้ว และขณะที่ดำเนินชีวิตอยู่ ความกังวล ทรัพย์สมบัติ และความสนุกสนานของชีวิตนี้ ก็รัดพวกเขาจนทำให้ผลไม่เติบโต (ลูกา 8:14)

คำว่า “ไม่เติบโต” ในข้อพระคัมภีร์ข้างบน ซึ่งมาจากภาษากรีกว่า “เทเลสโพเรโอ” (telesphoreō) เป็นคำผสม และปรากฏในข้อพระคัมภีร์ข้อนี้เท่านั้น มันหมายถึงการนำไปสู่การเกิดผล นั่นคือมาถึงสภาวะที่สุก นั่นคือมาสู่สถานะที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งทำให้เกิดผลลัพธ์

บังเอิญที่ข้อพระคัมภีร์ข้างบนจริงๆ แล้วกล่าวถึงคนที่ไม่ได้นำผลมาสู่ความสมบูรณ์แบบ แต่สิ่งนี้ชี้ให้เราเห็นถึงแผนการของพระเจ้า ความคิดของพระองค์ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าพระองค์ต้องการให้เราเกิดผลและมีประสิทธิผลตลอดไป นำผลของเราไปสู่ความสมบูรณ์แบบ

มีผู้คนมากมายที่เริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่างและไม่เคยสำเร็จ พวกเขาหยุดอยู่ตรงกลางของบางสิ่งเสมอ พวกเขาไม่เคยทำให้สำเร็จ พวกเขามีเรื่องราวที่จะบอกเสมอว่าทำไมพวกเขาถึงทำไม่เสร็จ

โครงการของพวกเขาถูกยกเลิก และกระบวนการถูกตัดทอน แต่เรื่องราวของคุณนั้นแตกต่าง คุณเป็นเถาองุ่นที่สมบูรณ์ เกิดผล และทำโครงการของคุณให้สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม พระวิญญาณของพระเจ้ากำลังทำงานในคุณเพื่อทำให้บรรลุผล จงกล่าวยืนยันสิ่งนี้กับคุณเสมอ ในขณะที่คุณเดินไปกับองค์พระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางความสว่างแห่งพระคำของพระองค์ จะไม่มีการแท้งของความคิดของคุณ หรือแม้กระทั่งการแท้งทางทางกายภาพ นี่คือมรดกของคุณในฐานะลูกของพระเจ้า

อีกสิ่งที่งดงามเกี่ยวกับเรื่องนี้คือคุณเกิดผลทั้งในและนอกฤดูกาล คุณเกิดผลและมีประสิทธิผลเสมอ “…ยืนหยัดอย่างมั่นคงเหมือนต้นไม้ที่เบ่งบานที่ถูกปลูกโดยการออกแบบของพระเจ้า ซึ่งหยั่งรากลึกข้างลำธารแห่งความสุข ซึ่งเกิดผลในทุกฤดูกาลไม่เหี่ยวแห้ง ไม่อ่อนกำลัง ได้รับพระพรเสมอ เจริญรุ่งเรืองเสมอ (สดุดี 1:1-3 ฉบับ TPT) ช่างเป็นชีวิตที่ดีอะไรเช่นนี้! สาธุการแด่พระเจ้า!

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณที่ทรงประทานชีวิตที่มีพระสิริเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือชีวิตแห่งพระพรตลอดไปและเกิดผลอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการแท้งของแผนการโครงการ และความฝันของข้าพระองค์ ข้าพระองค์นำสิ่งเหล่านี้ไปสู่การบรรลุผล ซึ่งผลิตผลลัพธ์แห่งความสมบูรณ์แบบโดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:ฟีลิปปี 1:6; ฟีลิปปี 3:13; เยเรมีย์ 29:11


มิฉะนั้นถ้าท่านสรรเสริญพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณ คนที่อยู่ในกลุ่มที่ไม่เข้าใจจะว่าอาเมนกับคำขอบพระคุณของท่านได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่รู้ว่าท่านพูดอะไร? (1 โครินธ์ 14:16)

โดยทั่วไปแล้วการอวยพรหมายถึงการปลุกฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าเข้าสู่บางสิ่งหรือเข้าสู่ชีวิตของคนบางคน ทำให้เกิดการส่งเสริม เพิ่มขึ้น เพิ่มพูน ความแข็งแกร่ง และอื่นๆ แต่มีแง่มุมหนึ่งของการอวยพร ยกตัวอย่างเช่น พระคัมภีร์พูดถึงเราว่าให้อวยพรองค์พระผู้เป็นเจ้า คุณจะอวยพรพระองค์อย่างไร? และเมื่อเราพูดว่า “อวยพรการงานของของพระองค์” คุณทำได้อย่างไร? นอกจากนี้ข้อพระคัมภีร์หลักของเราพูดเกี่ยวกับการอวยพรในวิญญาณ นั่นคือการอวยพรด้วยภาษาแปลกๆ คุณทำอย่างนั้นได้อย่างไร?

แต่การอ่านส่วนสุดท้ายของข้อนั้นให้เบาะแสแก่เรา ซึ่งกล่าวว่า “คนที่อยู่ในกลุ่มที่ไม่เข้าใจจะว่า “อาเมน” กับคำขอบพระคุณของท่านได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่รู้ว่าท่านพูดอะไร?” เขากำลังทำให้ “การอวยพร”เท่ากับ “การขอบพระคุณ” ใน มัทธิว 26:26 พระคัมภีร์กล่าวว่า ระหว่าง​รับ​ประ​ทาน​อยู่​นั้น พระ​เยซู​ทรง​หยิบ​ขนม​ปัง​ขึ้น​มา และ​เมื่อ​ขอ​พระพร​แล้ว ก็​ทรง​หัก​..” พระเยซูทรงอวยพรขนมปังนั้นอย่างไร?

โดยพระวิญญาณอัครทูตเปาโลอธิบายสิ่งนี้ใน 1 โครินธ์ 11:23-24 ซึ่งกล่าวว่า เพราะ​ว่า​เรื่อง​ซึ่ง​ข้าพ​เจ้า​มอบ​ไว้​กับ​พวก​ท่าน​นั้น ข้าพเจ้า​ได้​รับ​จาก​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า คือ​ใน​คืน​ที่​เขา​ทรยศ​พระ​เยซู​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​องค์​ทรง​หยิบ​ขนม​ปัง เมื่อ​ขอบ​พระ​คุณ​แล้ว​จึง​ทรง​หัก..” มัทธิวกล่าวว่าพระเยซูทรงหยิบขนมปังและอวยพร หลังจากนั้นเปาโลได้รับการเปิดเผยสำแดงและบอกเราอย่างชัดเจนว่าพระเยซูทรงทำอย่างไร นั่นคือโดยการขอบพระคุณ

สิ่งนี้ทำให้เรารู้ว่าจะอวยพระพรอาหารได้อย่างไรขณะที่เรานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ไม่ใช่โดยการพูดว่า “โอ้ พระเจ้า อวยพระพรแก่อาหารนี้เพราะเห็นแก่พระคริสต์” แต่คือการขอบคุณพระองค์สำหรับอาหารนั้น นั่นเป็นวิธีที่พระเยซูทรงอวยพรแก่ขนมปังนั้น ในทำนองเดียวกันเมื่อเราพูดว่า “ขอให้เราอวยพรองค์พระผู้เป็นเจ้า” นั่นหมายถึงการขอบพระคุณพระองค์ นั่นคือคุณกำลังขอบพระคุณพระองค์สำหรับสิ่งที่พระองค์เป็น สำหรับสิ่งที่พระองค์ทำในชีวิตของคุณ และสำหรับการงานอันที่ใหญ่ทั้งหมดของพระองค์ นี่คือสิ่งที่คุณควรทำเสมอ

เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะขอบพระคุณหรืออวยพรพระเจ้าสำหรับบางสิ่งบางอย่าง คุณก็ได้รับความสมบูรณ์ของสิ่งที่คุณกำลังขอบพระคุณพระองค์ เพราะว่าการขอบพระคุณนำมาซึ่งความสมบูรณ์ ขอพระสิริจงมีแด่พระนามของพระองค์ตลอดไป

คำอธิษฐาน

สาธุการแด่พระบิดา พระองค์ทรงพระคุณและใจดี! ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์และขอบพระคุณสำหรับการทรงสถิตของพระองค์ในชีวิตของข้าพระองค์และสำหรับพระหัตถ์แห่งพระพรอันทรงพลังที่พำนักอยู่เหนือข้าพระองค์ ข้าพระองค์ตระหนักถึงพระคุณ พระเมตตา พระปัญญา และฤทธิ์อำนาจของพระองค์ซึ่งข้าพระองค์ดำเนินชีวิตอย่างมีชัยในทุกวันนี้และเสมอไป ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 เธสะโลนิกา 5:18; โคโลสี 3:17; สดุดี 107:1


บัดนี้ข้าพเจ้าฝากท่านไว้กับพระเจ้าและกับคำแห่งพระคุณของพระองค์ซึ่งสามารถก่อสร้างท่านขึ้นได้และให้ท่านมีมรดกด้วยกันกับบรรดาธรรมิกชน (กิจการ 20:32)

เห็นได้ชัดว่าในโลกทุกวันนี้มีคนยากจนมากกว่าคนร่ำรวย แต่ตามแผนการ วัตถุประสงค์ หลักการ และตามพระคัมภีร์ของพระเจ้า โลกนี้ได้รับการออกแบบให้มีคนร่ำรวยมากกว่าคนยากจน คนส่วนใหญ่ในโลกไม่เคยรู้ความจริงนี้ แต่นั่นเป็นแผนการของพระเจ้าตั้งแต่เริ่มต้น พระคำของพระองค์สำแดงให้เราเห็นว่ามีมากเกินพอสำหรับทุกคนในโลกนี้!

จงอ่านข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเราอีกครั้ง ซึ่งกล่าวว่าพระคำของพระเจ้าสามารถส่งมอบมรดกของคุณไว้ในมือของคุณได้ พระคำไม่เลือกปฏิบัติ จงลงมือทำแล้วจะผลิตผลลัพธ์ในคุณและเพื่อคุณ มีมรดกของคุณในพระเยซูคริสต์ มันไม่แตกต่างอะไรถ้าคุณเกิดในดินแดนที่ยากจนที่สุดของแผ่นดินโลก ซึ่งมีบรรพบุรุษที่ยากจนที่สุด ในพระคริสต์ไม่มีใครที่ยากจน

แม้ว่าคุณเป็นคนยากจนและคุณมาถึงพระคริสต์ พระคัมภีร์กล่าวว่า พระองค์ทรง​ยก​คน​ยาก​จน​ขึ้น​จาก​ผง​คลี ทรง​ยก​คน​ขัด​สน​ขึ้น​จาก​กอง​ขี้เถ้า ทรง​ทำ​ให้​พวกเขา​นั่ง​ร่วม​กับ​พวก​เจ้า​นาย และ​ได้​ที่​นั่ง​อัน​มี​เกียรติ​เป็น​มร​ดก…” (1 ซามูเอล 2:8)

 วันนี้คุณอยู่ที่ไหนในชีวิต? พระคำของพระเจ้าสามารถนำการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมาให้แก่คุณ การเปลี่ยนแปลงของสภาพ การเปลี่ยนของคุณภาพ การเปลี่ยนของลักษณะนิสัย การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง นั่นคือวิธีที่พระเจ้าทำให้เป้าหมายของพระองค์สำเร็จในตัวเรา! นั่นคือผ่านทางพระคำของพระองค์

คุณสามารถยึดพระคำของพระเจ้าตามตัวอักษร ใคร่ครวญ และเริ่มกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวคุณเองและกำหนดว่าคุณจะไปไกลแค่ไหนในชีวิต ไม่สำคัญว่าคุณจะเติบโตที่ไหน ไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นในประเทศที่คุณอาศัยอยู่ พระคำของพระเจ้าสามารถส่งมอบมรดกของคุณในพระคริสต์ให้แก่คุณได้

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

แผ่นดินโลกและความสมบูรณ์ของมันเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า และฉันเป็นทายาทของพระเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ ดังนั้นโลกนี้เป็นของฉัน! องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงวางเท้าของฉันให้อยู่บนศิลา นั่งร่วมกับกับพระคริสต์ในสวรรค์สถาน อยู่เหนือความยากจน ความขาดแคลน และเศรษฐกิจของโลกนี้ ฉันอยู่ในสถานที่แห่งมรดกของฉันในพระเยซูคริสต์ ที่ซึ่งฉันประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 8:16-17; โรม 12:2; 2 โครินธ์ 9:8