เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ (ผลงาน) ของพระองค์ [เอง] ที่ทรงสร้างขึ้นใหม่ [บังเกิดใหม่] ในพระเยซูคริสต์เพื่อให้เราทำการดีเหล่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้ว (วางแผนไว้ล่วงหน้า) เพื่อเรา [เดินในเส้นทางที่พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าให้เราดำเนินตาม [ดำเนินชีวิตที่ดีซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ก่อนและเตรียมไว้ให้เราดำเนินชีวิต] (เอเฟซัส 2:10 ฉบับ AMPC)

นี่ช่างงดงามและสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก สิ่งนี้ได้สำแดงให้เห็นว่าการกำหนดไว้ล่วงหน้านั้นกำลังทำงานอยู่ในตัวเรา ในฐานะลูกของพระเจ้า ชีวิตของเราได้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า เรากำลังเล่นตามบทที่ถูกเขียนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นนักเขียนบทที่ดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 

สิ่งนี้ทำให้ระลึกถึงคำพูดของพระเยซูที่ถูกอ้างอิงใน ฮีบรู 10:7 ซึ่งพระ​องค์​ทูล​ว่า ‘ข้าแต่​พระ​เจ้า ข้า​พระ​องค์​มา​แล้ว เพื่อ​จะ​ทำ​ตาม​พระ​ทัย​ของ​พระ​องค์’ ตาม​ที่​มี​เรื่อง​ข้า​พระ​องค์​เขียน​ไว้​ใน​หนัง​สือ​ม้วน” ขณะที่พระองค์ทรงดำเนินอยู่ในแผ่นดินโลก ชีวิตประจำวันของพระองค์เป็นความสำเร็จของสิ่งที่เขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์ก่อนที่โลกนี้จะเกิดขึ้น ในหลายๆ ที่ในพระคัมภีร์ที่อ้างอิงถึงพระเยซู คุณจะพบข้อความทำนองนี้ว่า “เพื่อให้สิ่งซึ่งผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ได้กล่าวไว้สำเร็จ” พระเยซูเล่นตามบทที่ได้ถูกเขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์แล้ว พวกเราในทุกวันนี้ก็เช่นเดียวกัน

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ไม่ว่าดีหรือร้าย ไม่ใช่อุบัติเหตุ วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณที่ทำให้พระเจ้าประหลาดใจ พระองค์ทรงออกแบบให้ทุกสิ่งเกิดผลดีสำหรับคุณ (โรม 8:28) ตามที่เราอ่านในข้อพระคัมภีร์หลักของเรา เส้นทางของคุณได้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่มีความพ่ายแพ้หรือล้มเหลวในบทของคุณ และบทนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

คุณก็แค่เล่นตามบทบาทของคุณ และอย่าพยายามเขียนบทใหม่ อย่าพยายามทำให้พระเจ้า “ทำ” บางสิ่งบางอย่าง พระองค์ได้กระทำทุกสิ่งเสร็จแล้วและได้ประทานทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับชีวิตที่เป็นเลิศแก่คุณแล้ว นั่นคือสิ่งที่บท (พระคำของพระองค์) ได้สำแดงให้เห็น จงดำเนินชีวิตตามบทนั้น จงยอมรับและป่าวประกาศในสิ่งที่พระองค์ได้พูดเกี่ยวกับคุณ และคุณจะดำเนินชีวิตอย่างมีวัตถุประสงค์ที่เปี่ยมไปด้วยพระสิริและยอดเยี่ยม

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันเต็มไปด้วยพระเจ้าโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งกำลังทำงานที่พระองค์ทรงวางแผนไว้ล่วงหน้าสำหรับฉัน ฉันกำลังเดินในเส้นทางที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ล่วงหน้าสำหรับฉัน และในเส้นทางนั้นมีสุขภาพดี ความอุดมสมบูรณ์ ชัยชนะตลอดกาล และความสมบูรณ์แบบของทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวฉัน อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 1:11; 1 เปโตร 2:9


http://rorthai.com พระวจนะแห่งความจริง

ซึ่งอยู่บนความหวังของชีวิตนิรันดร์ ที่พระเจ้าผู้ไม่ตรัสมุสาทรงสัญญาไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นของกาลเวลา และในเวลาที่ทรงกำหนด ก็ทรงสำแดงพระวจนะของพระองค์ด้วยการประกาศที่ข้าพเจ้ารับมอบไว้ ตามพระบัญชาของพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา (ทิตัส 1:2-3)

สังเกตสิ่งที่เราเพิ่งอ่านไป พระเจ้าทรงเปิดเผยสำแดงพระคำแห่งพระสัญญาของพระองค์ในเรื่องชีวิตนิรันดร์ผ่านทาง “การประกาศ” ประกาศแก่ใคร? แก่ทุกสรรพสิ่ง ไม่ใช่แค่คน พระเยซูตรัสในมาระโก 16:15 ว่า พวก​ท่าน​จง​ออก​ไป​ทั่ว​โลก ประ​กาศ​ข่าว​ประ​เสริฐ​แก่​สรรพสิ่งที่ทรงสร้างทั้งหมด ปัญหาคือว่าเราได้ประกาศข่าวสารเรื่องความรอดแก่มนุษยชาติเท่านั้น

ดังนั้นเราจึงดำเนินชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่อต้านเรา ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มสูงขึ้น เพราะว่าเราไม่ได้ประกาศแก่สรรพสิ่งที่ทรงสร้างทั้งหมด นี่คือเหตุผลที่เปาโลร้องออกมาว่า เพราะ​สรรพ​สิ่ง​ที่​ทรง​สร้าง​แล้ว คอย​ด้วย​ความ​ปรารถ​นา​อย่าง​ยิ่ง​ให้​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​พระ​เจ้า​ปรา​กฏ (โรม 8:19) สรรพสิ่งทั้งปวงกำลังคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด เพราะว่าสิ่งที่ทรงสร้างนั้นอยู่ในพันธนาการด้วยการรอคอยการปลดปล่อยเข้าสู่อิสรภาพที่เปี่ยมด้วยพระสิริของบรรดาบุตรของพระเจ้า

ฉันเริ่มค้นพบความจริงข้อนี้เป็นครั้งแรกในช่วงวัยรุ่นและสอนสิ่งนี้แม้กระทั่งกับพ่อแม่ของฉัน ฉันจะบอกพ่อว่า “ทุกสิ่งในชีวิตมีสติปัญญา ดังนั้นคุณสามารถพูดคุยกับทรัพย์สินของคุณ นั่นคือพูดคุยกับรถของคุณ และพวกมันจะไม่หยุดอยู่นิ่งๆ หรือเคลื่อนที่ไม่ได้ จงประกาศแก่พวกมัน” เมื่อฉันพูดสิ่งเหล่านั้น ฉันฟังดูแปลกๆแต่นี่คือสิ่งที่เราถูกสั่งให้ทำ

คุณสามารถประกาศแก่เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ฯลฯ ทุกอย่างในชีวิตกำลังรอคอยการปรากฏตัวของคุณ นั่นคือรอให้คุณปลดปล่อยพวกมันให้เป็นอิสระ และเมื่อคุณทำเช่นนี้ คุณจะค้นพบว่าในชีวิตของคุณ คุณจะใหม่อยู่เสมอ ก้าวหน้าเสมอ นั่นคือคุณเห็นชีวิตกำลังทำงานในทุกสิ่งรอบตัวคุณ สิ่งที่เหนือธรรมชาติกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน เพราะว่าคุณกำลังสำแดงชีวิตนิรันดร์ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันพูดพระพรให้แก่ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวฉัน ฉันนำการปลดปล่อยไปสู่สรรพสิ่งที่ทรงสร้างทุกอย่างในโลกของฉัน ด้วยการนำสิ่งเหล่านั้นออกมาจากพันธนากรและความเสื่อมโทรมเข้าไปสู่อิสรภาพที่เปี่ยมไปด้วยพระสิริของบรรดาบุตรของพระเจ้า ฉันยอมรับรู้ถึงการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าในชีวิตของฉัน ดังนั้นความงดงาม ความยอดเยี่ยม และความสมบูรณ์แบบของพระองค์จึงสำแดงออกผ่านฉัน อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:2 ทิโมธี 1:8-10; มาระโก 16:15; ทิตัส 1:2-3


แต่การที่บันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ ก็เพื่อพวกท่านจะได้เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อแล้วท่านก็จะมีชีวิตโดยพระนามของพระองค์ (ยอห์น 20:31)

ปราศจากชีวิตนิรันดร์ มนุษย์ก็หลงหาย เขาเป็นวิญญาณนิรันดร์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่วัตถุและถูกหลงลืม เขาจะตกนรก! พระคัมภีร์กล่าวว่านรกเป็นสถานที่สำหรับการกล่าวโทษ เป็นสถานที่แห่งความตาย “ซึ่ง​เตรียม​ไว้​สำ​หรับ​มาร​ร้าย​และ​บริวาร​ของ​มัน”(มัทธิว 25:41)

เมื่ออาดัมทำบาปต่อพระเจ้า มนุษย์ทุกคนก็ตาย ในโรม 5:12 พระคัมภีร์กล่าวว่า เพราะ​เหตุนี้ บาป​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก​เพราะ​คนๆ เดียว และ​ความ​ตาย​ก็​เกิด​มา​เพราะ​บาป​นั้น และ​ความ​ตาย​ก็​ได้​แผ่​ไป​ถึง​มวล​มนุษย์​ทุก​คน เพราะ​มนุษย์​ทุก​คน​ทำ​บาป” ความบาปนำมาซึ่งความตาย นั่นคือสาเหตุที่ความตายได้เข้ามาในทุกสิ่ง มันอยู่ในธรรมชาติทั้งหมด นี่คือสาเหตุที่ทุกสิ่งในโลกตามธรรมชาติเสื่อมโทรมลง นี่คือเหตุผลของการแก่และการสูญพันธุ์

มนุษย์มีชีวิตอยู่และอ่อนแอ แก่ และพวกเขาก็ตายไป นี่เป็นการตอบสนองของธรรมชาติที่มีต่อความสาปแช่งแห่งความตาย ความตายคือการกำจัดชีวิต การหยุดการทำงานของชีวิต พระเจ้าเข้าใจและเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจากอดีตเมื่อยังไม่มีวันเวลา และพระองค์วางแผนว่ามนุษย์ควรมีชีวิตนิรันดร์ นั่นคือชีวิตที่ไม่สามารถถูกทำลายได้!

ทุกคนรวมถึงธรรมชาติทุกอย่างกำลังรอคอยชีวิตนิรันดร์! สิ่งเหล่านั้นต้องการชีวิต เพราะว่ามีความตายในทุกสิ่ง โรม 8:20 กล่าวว่า “เพราะ​ว่า​สรรพ​สิ่ง​เหล่า​นั้น​ต้อง​เข้า​อยู่​ใน​อำ​นาจ​ของ​อนิจ​จัง ไม่​ใช่​ตาม​ใจ​ชอบ​ของ​ตน​เอง แต่​เป็น​ไป​ตาม​ที่​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​ให้​เข้า​อยู่​นั้นด้วยความหวังเดียวกัน ความหวังอะไร? ​ความ​หวัง​ของ​ชีวิต​นิรันดร์ ที่​พระ​เจ้า​ผู้​ไม่​ตรัส​มุสา​ทรง​สัญ​ญา​ไว้​ตั้ง​แต่​ก่อนที่โลกนี้จะเกิดขึ้น” (ทิตัส 1:2)!

หลังจากนั้นยอห์นก็นำข่าวดีมา ซึ่งเราได้อ่านในข้อพระคัมภีร์หลักของเรา 1 ยอห์น 5:11 กล่าวว่า และ​พยาน​หลัก​ฐาน​นั้น​ก็​คือ พระ​เจ้า​ประ​ทาน​ชีวิต​นิรันดร์​แก่​เรา และ​ชีวิต​นี้​มี​อยู่​ใน​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์ ตอนนี้คุณมีชีวิตนิรันดร์แล้ว หมายความว่าคุณอยู่ในเขตที่ไร้อายุ คุณได้ผ่านจากความตายเข้าสู่ชีวิต ในขณะที่ความตายทำงานอยู่ในโลกนี้ ชีวิตทำงานอยู่ในตัวคุณและทุกสิ่งที่เชื่อมโยงกับคุณ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเรียกฉันด้วยการทรงเรียกที่บริสุทธิ์ตามพระประสงค์และพระคุณของพระองค์เอง พระองค์ได้ทำลายความตายให้สูญสิ้นไปและนำชีวิตและความเป็นอมตะให้กระจ่างแจ้งผ่านทางข่าวประเสริฐ ความตายได้ถูกทำให้พ่ายแพ้ไปแล้วโดยพระเยซู และตอนนี้ฉันก็มีชีวิตที่ชนะทุกอย่าง ซึ่งไม่มีร่วงโรยของพระเจ้าอยู่ในตัวฉัน ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้าตลอดไป!

ศึกษาเพิ่มเติม:1 ยอห์น 5:11-13; ยอห์น 3:35-36


แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์ (ฟีลิปปี 4:7)

ใน 2 โครินธ์ 2:10-11 เปาโลกล่าวว่า “ถ้า​พวก​ท่าน​ยก​โทษ​ให้​ใคร ข้าพเจ้า​ก็​จะ​ยก​โทษ​ให้​เขา​ด้วย และ​ถ้า​ข้าพ​เจ้า​ยก​โทษ​เรื่อง​อะไร​ไป (ถ้า​มี​เรื่อง​ใด​ที่​ข้าพ​เจ้า​จะต้อง​ยก​โทษ​ให้) ข้าพ​เจ้า​ก็​ทำ​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​คริสต์​เพราะ​เห็น​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย เพื่อ​ไม่​ให้​ซา​ตาน​ได้​เปรียบ​เรา เพราะ​เรา​รู้​กล​อุบาย​ของ​มัน​แล้ว” ตอนนี้ผ่านทางอัครทูตเปาโลพระวิญญาณกำลังเน้นถึงความสำคัญของการให้อภัยผู้อื่นเพื่อไม่ให้ซาตานฉวยโอกาสจากสถานการณ์นั้นได้ นั่นเป็นวิธีที่จะอนุญาตให้สันติสุขของพระคริสต์ครอบครองในหัวใจของคุณ

คุณอาจมีเหตุผลที่จะขุ่นเคืองหรือโกรธ แต่เอเฟซัส 4:26 กล่าวว่า “จะ​โกรธ​ก็​โกรธ​ได้ แต่​อย่า​ทำ​บาป อย่า​ให้​ถึง​ตะวัน​ตก​แล้ว​ยัง​โกรธ​อยู่” บางคนออกไปจากคริสตจักร เพราะว่าพวกเขาโกรธ และบางคนลาออกจากงานเพราะความโกรธ บางคนเก็บความโกรธต่อบางคนไว้เป็นเวลานานโดยไม่ได้ตระหนักถึงผลแห่งการทำลายล้างในชีวิตของพวกเขา

จงฝึกฝนพระคำ อย่าเก็บความโกรธไว้ในหัวใจของคุณ จงทิ้งไปอย่างรวดเร็ว คุณอาจพูดว่า “แต่สิ่งที่คนนั้นทำกับฉันนั้นทำให้ฉันเจ็บปวดอย่างมาก” มันไม่แตกต่างอะไร เมื่อคุณเต็มไปด้วยพระวิญญาณ หัวใจของคุณก็ถูกครอบครองด้วยสันติสุข และคุณดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดีและมีความรักโดยไม่คำนึงถึงการกระทำของผู้อื่น

จงอ่านสิ่งที่พระคำบอกไว้ในยากอบ 5:13 “มี​ใคร​ใน​พวก​ท่าน​ทน​ทุกข์​หรือ? จง​ให้​คน​นั้น​อธิษ​ฐาน” พระองค์ไม่ได้พูดว่า “จงให้เขาต่อสู้หรือแก้แค้น” พระองค์ไม่ได้พูดด้วยว่า “จงให้เขาบอกทั่วทั้งโลกเกี่ยวกับเรื่องนี้” คำว่า “ทนทุกข์” ในข้อนั้นยังหมายถึงทรมานหรือขุ่นเคือง พระองค์บอกว่าถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับคุณ จงอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าเป็นทุกข์และขมขื่น พระคัมภีร์กล่าวว่า อย่า​กระ​วน​กระ​วาย​ใน​สิ่ง​ใดๆ เลย แต่​จง​ทูล​พระ​เจ้า​ให้​ทรง​ทราบ​ทุก​สิ่ง​ที่​พวก​ท่าน​ขอ โดย​การ​อธิษ​ฐาน​และ​การ​วิง​วอน พร้อม​กับ​การ​ขอบ​พระ​คุณ (ฟีลิปปี 4:6) และสันติสุขของพระองค์จะครอบครองในหัวใจของคุณ

การอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณที่เทความรักของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์อย่างล้นเหลือ ข้าพระองค์แบ่งปันความรักแบบเดียวกันนี้กับผู้ที่อยู่ในโลกของข้าพระองค์ ด้วยการรักพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ขอบพระคุณที่ประทานความสามารถให้แก่ข้าพระองค์ในการให้อภัยและรักแบบพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:โคโลสี 3:13; 1 ยอห์น 3:14; กิจการ 7:59-60


ฉะนั้นคนที่พูดภาษาแปลกๆ ก็ควรอธิษฐานขอให้แปลได้ด้วย (1 โครินธ์ 14:13)

หลายปีที่ผ่านมาในขณะที่เป็นวัยรุ่น ฉันกำลังเตรียมตัวพร้อมกับเพื่อน ๆ ของฉันสำหรับการประกาศกลางแจ้ง ดังนั้นเราจึงพบกันบ่อยๆ อธิษฐานและอดอาหาร พร้อมกับการเผยพระวจนะ วันหนึ่งฉันมาถึงแต่เช้าเพื่ออธิษฐานก่อนที่คนอื่นจะมาถึง ในขณะที่ฉันกำลังอธิษฐาน ฉันกำลังพูดภาษาแปลกๆ ฉันหยั่งรู้ว่าฉันกำลังพูดสิ่งซึ่งพระวิญญาณต้องการทำกับการประกาศกลางแจ้ง แต่คำพูดออกมาเป็นภาษาแปลกๆ และฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังพูดอะไรอยู่

แต่เพื่อนของฉัน 2 คนที่มีของประทานในการแปลภาษาแปลกๆ ไม่ได้มา ฉันพูดภาษาแปลกๆ ต่อไป และฉันก็ยังรู้สึกถึงการเจิมที่รุนแรง หลังจากนั้นฉันจึงพูดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ต้องการของประทานในการแปลภาษาแปลกๆ เพื่อที่ข้าพระองค์จะได้รู้ถึงสิ่งที่พระวิญญาณกำลังทำให้ข้าพระองค์เข้าใจ” ในขณะที่ฉันอธิษฐานและพูดภาษาแปลกๆ ต่อไป ทันใดนั้นฉันก็ได้รับการแปล  และเริ่มพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โอ้ ฉันมีความสุขจริงๆ!

หลังจากนั้นฉันก็หยิบเอกสารมาและเริ่มจด ฉันพูดถ้อยคำและตีความ คุณรู้ไหม? สิ่งเหล่านั้นทุกอย่างฉันได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับการประกาศกลางแจ้งได้เกิดขึ้น สรรเสริญพระเจ้า! การแปลภาษาแปลกๆเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การพูดภาษาแปลกๆ และการแปลเท่ากับการเผยพระวจนะ และการเผยพระวจนะนำมาซึ่งการเสริมสร้าง

ขณะที่คุณพูดภาษาแปลกๆ ในการเผยพระวจนะ คุณสามารถไว้วางใจว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทำให้คุณเข้าใจข้อความนั้น ถ้าคุณคิดว่าคุณได้รับพระพรในการพูดภาษาแปลกๆ แล้ว รอจนกว่าคุณจะได้รับการแปล ประสบการณ์นั้นจะทำให้คุณมีความชื่นชมยินดีที่ไม่สามารถบรรยายได้! ถ้าคุณไม่มีการแปล องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่าให้ขอ และพระองค์ปรารถนาที่จะให้กับคุณผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

พระบิดาในสวรรค์ที่รัก ขอบพระคุณสำหรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ประทานความสามารถในการพูดภาษาแปลกๆ และการสื่อสารกับพระองค์ด้วยภาษาสวรรค์แก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ฉวยโอกาสจากสิทธิพิเศษนี้ ไม่เพียงแต่จะป่าวประกาศถึงความลึกลับของพระเจ้า แต่ยังสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านทางการเผยพระวจนะ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 โครินธ์ 14:5; 1 โครินธ์ 14:12-19