จงเพลิดเพลินไปกับการเดินทางในชีวิต
Enjoying Life’s Journey

ขโมย​นั้น​ย่อม​มา​เพื่อ​จะ​ลัก ฆ่า และ​ทำลาย เรา​มา​เพื่อ​พวก​เขา​จะมีและเพลิดเพลินกับ​ชีวิต​และมีอย่าง​ครบ​บริ​บูรณ์ (จนเต็ม จนล้นออกมา) (ยอห์น 10:10 ฉบับ AMPC)

ฉันชอบนั่งที่นั่งริมหน้าต่างบนเครื่องบินเสมอ ที่นั่งริมหน้าต่างให้มุมมองที่ดี มันเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่คุณเห็นจากที่สูง เช่น น้ำแข็งอันกว้างใหญ่ของอาร์กติก ยอดเขาที่ส่องประกายของเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาแอนดีส เมฆฯลฯ ทุกครั้งที่ฉันมองออกไป และลิ้มรสความงดงามและความอัศจรรย์ของสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ฉันพูดว่า “สรรเสริญพระบิดา พระองค์ช่างอัศจรรย์จริงๆ! มีสิ่งที่งดงามอยู่มากมาย!”

ดังนั้นก่อนที่จะไปถึงปลายทางของฉัน ฉันเพลิดเพลินไปกับการเดินทางชีวิตก็เป็นเช่นนั้นด้วย นั่นคือการเดินทางที่จะเพลิดเพลิน ระหว่างเวลานี้และเมื่อองค์เจ้านายเสด็จกลับมา มีความชื่นชมยินดีมากมายให้เพลิดเพลิน ดังนั้นจึงไม่มีใครที่ควรดำเนินชีวิตที่ผิดหวัง ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะสนใจในสิ่งที่งดงามทุกอย่างและผู้คนรอบตัวคุณ และเพลิดเพลินไปกับสิ่งเหล่านั้น คุณก็จะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน

เป็นทางเลือกที่ฉลาดเมื่อคุณตัดสินใจที่จะเพลิดเพลินไปกับชีวิตของคุณและตัวคุณเอง แม้ในสิ่งที่เรียบง่ายบางคนไม่ได้แม้แต่เพลิดเพลินไปกับอาหารของพวกเขา พวกเขารีบเร่งด้วยความโกรธเสมอ บางคนตื่นขึ้นมาด้วยความโกรธ แม้ในขณะขับรถหรือเดินทางไปทำงาน ธุรกิจ หรือโรงเรียน พวกเขาโกรธ ไม่พอใจ และผิดหวัง พวกเขาไม่สนใจความรักและความงดงามรอบตัวของพวกเขา

อ่านข้อข้อพระคัมภีร์หลักของเราอีกครั้ง พระเยซูเสด็จมาเพื่อให้เรามีและเพลิดเพลินไปกับชีวิต! การเพลิดเพลินไปกับชีวิตของคุณไม่ใช่แค่การไปดูเกมโชว์ หรือดูตลก หรือมีส่วนร่วมในการผจญภัย แต่หมายถึงการเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาของการเดินทางในชีวิต นั่นคือเพลิดเพลินไปกับทุกสิ่งที่คุณทำ ตราบใดที่มันสอดคล้องกับชีวิตของพระเจ้า เพราะว่าคุณเป็นลูกของพระเจ้า และคุณรู้ว่าพระเจ้ากำลังทำให้ความฝันของพระองค์สำเร็จผ่านทางคุณ

พระเจ้าได้มอบชีวิตแห่งความชื่นชมยินดีให้แก่คุณ แต่คุณมีความรับผิดชอบในการสำแดงสิ่งนี้ออกมา จงให้ความชื่นชมยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้าปรากฏชัดในชีวิตของคุณด้วยการเปล่งประกายที่สำแดงออกถึงสันติสุขของพระเจ้าในตัวคุณอย่างเต็มที่ จงตัดสินใจเลือกที่จะเพลิดเพลินไปกับทุกช่วงเวลาในชีวิตของคุณ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานทุกสิ่งให้ฉันเพลิดเพลินอย่างล้นเหลือ พระองค์ได้นำฉันเข้าไปสู่ชีวิตแห่งการพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีและพระสิริ ไม่มีอะไรที่ดีเกินไปสำหรับฉัน ฉันเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีในวันนี้ด้วยการดำเนินชีวิตที่ยิ่งใหญ่ของความชอบธรรม สุขภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จที่ฉันมีในพระคริสต์ ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:1 ทิโมธี 6:17; อิสยาห์ 12:3; โรม 14:17; สุภาษิต 17:22


ท่านไม่เชื่อหรือว่าเราอยู่ในพระบิดาและพระบิดาทรงอยู่ในเรา? คำซึ่งเรากล่าวกับพวกท่านนั้น เราไม่ได้กล่าวตามใจชอบ แต่พระบิดาผู้สถิตอยู่ในเราทรงทำพระราชกิจของพระองค์ (ยอห์น 14:10)

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นตัวแทนผู้กระทำการของพระเจ้า นั่นคือพระองค์ทรงเป็นฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระองค์ลงมือปฏิบัติการงานของพระเจ้า มนุษย์ถูกสร้างและปั้นขึ้นโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำนอกพระบัลลังก์ของพระองค์นั้นถูกกระทำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดที่เกิดผลได้โดยปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่มีชีวิตถ้าปราศจากพระองค์

ในสมัยที่พระเยซูเจ้าทรงทำพันธกิจในแผ่นดินโลก พระองค์ไม่ได้ทำอะไรเลยโดยปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเรา พระองค์ระบุว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระบิดาที่อาศัยอยู่ในพระองค์และทำการงานเหล่านั้น ในฐานะคริสเตียนนั่นเป็นข้อเท็จจริงที่จะคุณจะต้องตระหนักในชีวิตของคุณ

พระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของคุณคือกุญแจสู่ความสำเร็จที่พิเศษและแน่นอน ตามที่ถูกเปิดเผยในพระคัมภีร์ไม่มีผู้ใดที่เดินกับพระองค์ที่เคยพ่ายแพ้ ไม่มีผู้ใดที่ล้มเหลว ทุกคนที่รับพระองค์ได้รับอำนาจและกลายเป็นผู้ชนะ หลายคนในคริสตจักรทุกวันนี้จำเป็นต้องรู้อย่างชัดเจนว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์คือใครและรู้ถึงพันธกิจของพระองค์ในชีวิตของพวกเขา พระองค์เองคือพระเจ้า

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องทำงานใดๆ เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าในคริสตจักรท้องถิ่นของคุณ จนกว่าคุณจะทำด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณ ก็จะไม่มีผลกระทบใดๆ คุณสามารถเข้าใจการยอมรับของเปาโลในโคโลสี 1:29 ในการบรรยายถึงการพึ่งพาทั้งหมดของเขาในฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณสำหรับงานพันธกิจที่มีประสิทธิภาพ เขากล่าวว่า “เพราะ​เหตุ​นี้ ข้าพ​เจ้า​จึง​ตราก​ตรำ​ต่อ​สู้​ตาม​กำ​ลัง​ที่​พระ​องค์​ทรง​ทำ​กิจ​ใน​ตัว​ข้าพ​เจ้า​อย่าง​มาก​มาย” เราทุกคนควรและต้องเข้าใจสิ่งนี้เหมือนกัน

พระคัมภีร์กล่าวว่า “เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​เป็น​ผู้​ทรง​ทำ​การ​อยู่​ภาย​ใน​พวก​ท่าน ให้​ท่าน​มี​ความ​ประ​สงค์​และ​มี​ความ​สา​มารถ​ทำ​ตาม​ชอบ​พระ​ทัย​ของ​พระ​องค์” (ฟิลิปปี 2:13) นั่นกำลังกล่าวถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณไม่สามารถทำงานของพระเจ้าหรือแม้กระทั่งดำเนินชีวิตคริสเตียนได้โดยปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เศคาริยาห์ 4:6 กล่าวว่า “..ไม่​ใช่​ด้วย​กำ​ลัง ไม่​ใช่​ด้วย​ฤท​ธา​นุ​ภาพ แต่​ด้วย​วิญ​ญาณ​ของ​เรา พระ​ยาห์​เวห์​จอม​ทัพ​ตรัส​ดัง​นี้​แหละ” ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้พระองค์จึงต้องการให้เราเต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง (เอเฟซัส 5:18) พระวิญญาณบริสุทธิ์คือพระเจ้าที่ทำงานอยู่ในตัวคุณ สร้างคุณ และสร้างคนอื่นๆ ผ่านทางคุณ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นของขวัญผู้ซึ่งได้มาเพื่อสถิตอยู่ในหัวใจของเราอย่างถาวร ในทุกสิ่งที่ข้าพระองค์ทำ ข้าพระองค์ยอมรับว่าพระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือ ผู้ปลอบประโลม ผู้ให้คำปรึกษา ผู้อธิษฐานวิงวอน ผู้สนับสนุน ผู้เสริมกำลัง และผู้ยืนอยู่ข้างๆ ข้าพระองค์พึ่งพาในฤทธิ์อำนาจของพระองค์อย่างสิ้นเชิง ด้วยการฉวยโอกาสจากความสามารถและพระกำลังและพระปัญญาของพระเจ้าที่กำลังทำงานอยู่ในตัวข้าพระองค์เพื่อทำให้พระประสงค์ของข้าพระองค์สำเร็จ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:2 โครินธ์ 3:5; ยอห์น 14:16; ฟีลิปปี 2:13


จงระแวดระวังใจของเจ้ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เพราะทุกสิ่งที่เจ้าทำออกมาจากใจ (สุภาษิต 4:23)

พระคำนั้นสำคัญมาก ด้วยพระคำคุณจะสร้างชีวิตของคุณ นั่นคือคุณจะสร้างวิญญาณของคุณ คุณจะสร้างความสำเร็จที่แท้จริงภายในตัวคุณ เพราะว่าความสำเร็จเริ่มต้นจากวิญญาณมนุษย์ก่อน ถ้าคุณมีสิ่งนี้อยู่ในตัวคุณ ก็ไม่มีสถานการณ์ใดในชีวิตที่จะนำสิ่งนี้ออกไปจากคุณได้ แต่ถ้าคุณไม่มีสิ่งนี้ในตัวคุณ ชีวิตของคุณก็จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความสำเร็จตามสถานการณ์ไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง

สิ่งนี้เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก ชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับว่าสิ่งต่างๆ นั้นดีขนาดไหนในประเทศของพวกเขา ในการเงินของพวกเขา ในการงานของพวกเขา ในสถานที่ทำงานของพวกเขา ฯลฯ ดังนั้นคุณจึงมีผู้คนจำนวนมากที่ล่องลอยไปมาหาทุ่งหญ้าที่เขียวกว่าเดิม แต่นั่นไม่ควรเป็นคุณ ความสำเร็จนั้นถูกสร้างขึ้นในวิญญาณของคุณ คุณเป็นเชื้อสายของอับราฮัม นั่นหมายความว่าการเดินทางในชีวิตของคุณควรอยู่ในทิศทางเดียวเท่านั้น นั่นคือขึ้นไปข้างบนและไปข้างหน้า

ความสำเร็จของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ นั่นเป็นวิธีที่พระเจ้าทรงออกแบบไว้ เพราะว่าพระองค์เองก็ไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ คุณบังเกิดในพระฉายาและตามแบบของพระองค์ ธรรมชาติที่พระองค์ทรงมอบให้แก่คุณนั้นเป็นแบบที่มีพระสิริและความยิ่งใหญ่ที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือก้าวหน้าเสมอ สิ่งนี้จะต้องเป็นความคิดของคุณ มิฉะนั้นคุณก็จะเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่ชีวิตขึ้นอยู่กับสถานการณ์ซึ่งต้องคอยอธิษฐานเรื่อยๆว่าสิ่งต่างๆ จะดีขึ้น

แต่ลูกของพระเจ้าผู้เข้าใจพระคำนั้นไม่ได้ดำเนินชีวิตเช่นนั้น เขานำเอาความสำเร็จออกมาจากภายใน พระคัมภีร์กล่าวว่าชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ (สุภาษิต 4:23) พระเยซูเจ้าตรัสในมัทธิว 12:35 ว่า คน​ดี​ก็​เอา​ของ​ดี​มา​จาก​คลัง​แห่ง​ความ​ดี​ใน​ตัว​ของ​เขา…” ความสำเร็จและทุกสิ่งที่ดีของชีวิตอยู่ในตัวคุณ จงนำสิ่งเหล่านั้นออกมา ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าอาศัยอยู่ในตัวฉัน! วิญญาณของฉันถูกปลุกและเร้าให้เป็นอิสระจากสถานการณ์ นั่นคือเพื่อนำสิ่งที่ดีออกมาเสมอโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์รอบตัวฉัน พระคำของพระเจ้าในวิญญาณของฉันสร้างความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จ ทุกที่ ทุกเวลา! ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:ลูกา 6:45; โยชูวา 1:8


ให้พระคริสต์ประทับในใจของท่านโดยทางความเชื่อ ให้ท่านได้หยั่งรากและตั้งมั่นอยู่ในความรัก (เอเฟซัส 3:17)

ผลจากการไม่รู้พระคำทำให้คริสเตียนบางคนร้องเพลงบางเพลงที่ไม่สอดคล้องกับพันธสัญญาใหม่ ยกตัวอย่างเช่น บางคนจะร้องว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์ โปรดเทลงมาอย่างสดใหม่เหนือฉัน” นั่นไม่สมเหตุสมผลเลย เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตอยู่ในคุณ พระองค์ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ ดังนั้นพระองค์จะ “เท” มาจากที่ไหน?

พวกเขาสามารถร้องเพลงดังกล่าวและเข้าถึงอารมณ์และร้องไห้ได้โดยคิดว่าพวกเขากำลังได้รับพระพร แต่ความจริงก็คือพวกเขาไม่ได้กำลังได้รับพระพรอย่างแท้จริง แต่เพลงดังกล่าวสร้างความไม่เชื่อบางอย่างที่ยากต่อการรักษา ซึ่งทำให้ความเชื่อของพวกเขาอ่อนแอลงและไม่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

คริสเตียนจะขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เทลงมาอย่างสดใหม่เหนือพวกเขาได้อย่างไรเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตกับเราและในเราตลอดไป? พระเยซูตรัสว่า “เรา​จะ​ทูล​ขอ​พระ​บิดา และ​พระ​องค์​จะ​ประ​ทาน​ผู้​ช่วย​อีก​ผู้​หนึ่ง​ให้​กับ​พวก​ท่าน เพื่อ​จะ​อยู่​กับ​ท่าน​ตลอด​ไป” (ยอห์น 14:16) เนื่องจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาในวันเพ็นเทคอสต์ พระองค์ไม่ได้กลับไป และพระองค์ไม่เคยจากเราไป เป็นสิ่งที่เจ็บปวดในพระกายของพระคริสต์ที่เห็นลูกๆ ของพระเจ้าค้นหาสิ่งที่พวกเขามีอยู่แล้ว

นี่เกี่ยวข้องกับเหตุผลของคำอธิษฐานของอัครทูตเปาโลในข้อพระคัมภีร์หลักของเรา “ให้พระคริสต์ประทับในใจของท่านโดยทางความเชื่อ…” คุณอาจสงสัยว่า “พระคริสต์ไม่ได้อาศัยอยู่ในหัวใจพวกเขาแล้วหรือ?” ใช่ คุณสังเกตเห็นไหมว่าเขาไม่ได้พูดว่า “หัวใจของเรา” เขากำลังอธิษฐานเผื่อคนที่ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณในพระคริสต์

นั่นคือวิธีที่เราอธิษฐานเผื่อคนที่พึ่งกลับใจใหม่ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงการทรงสถิตอยู่ภายในของพระคริสต์ น่าเศร้าที่หลายคนรวมถึงผู้ที่เป็นคริสเตียนมานานแล้วยังคงต้องการคำอธิษฐานนี้ในวันนี้ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงพระคริสต์ที่ทรงสถิตอยู่ภายใน พวกเขายังคงแสวงหาสิ่งที่อยู่ภายในพวกเขาแล้ว พวกเขาต้องการบางสิ่งที่มาจากสวรรค์ อย่างไรก็ตามทุกสิ่งที่พวกเขาจะสามารถขอได้ได้ถูกมอบให้แก่พวกเขาแล้ว (2 เปโตร 1:3) โคโลสี 1:27 กล่าวว่า พระ​คริสต์​สถิต​ใน​พวก​ท่าน อัน​เป็น​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​รับ​ศักดิ์​ศรี จงตระหนักถึงพระองค์ในตัวคุณ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

พระคริสต์ยังทรงพระชนม์อยู่ในตัวฉัน เพราะว่าพระองค์ได้ปักฐานและสร้างบ้านของพระองค์ในหัวใจของฉันโดยความเชื่อ ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระองค์นั้นอาศัยอยู่ในวิญญาณของฉัน ฉันดำเนินชีวิตที่เหนือธรรมชาติอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะว่าพระคริสต์ทรงอยู่ในตัวฉัน  ฉันไม่ได้เดินในความมืดเกี่ยวกับสิ่งใดเลย เพราะว่าฉันตระหนักถึงความสว่างของพระองค์ในหัวใจของฉันซึ่งกำลังนำทางฉันในวิถีแห่งความชอบธรรมเพื่อทำให้ลิขิตชีวิตของฉันสำเร็จในพระองค์ ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 3:17-19; โคโลสี 1:26-27; 2 โครินธ์ 6:16


                                                                                                                                           

อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าใครรักโลก ความรักของพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น (1 ยอห์น 2:15)

มีวิญญาณประเภทหนึ่งที่คริสเตียนหลายคนไม่ได้นึกถึง และพระคัมภีร์พูดถึงมันใน 1 โครินธ์ 2:12 นั่นคือ “วิญญาณของโลก” “เรา​ไม่​ได้​รับ​วิญ​ญาณ​ของ​โลก แต่​ได้​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​ซึ่ง​มา​จาก​พระ​เจ้า เพื่อ​จะ​ได้​รู้​ถึง​สิ่ง​ต่างๆ ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน​แก่​เรา” วิญญาณนี้ทำให้คริสเตียนอยู่ฝ่ายโลก นั่นคือวิญญาณที่พยายามทำให้เกิดเทรนด์ต่างๆ ในโลก

เมื่อคริสเตียนไม่ระวัง พวกเขาพบว่าตนเองเคลื่อนไปเทรนด์ของโลก นั่นคือสิ่งที่โลกพูด สิ่งต่างๆ ถูกทำอย่างไร โดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังโดนวิญญาณของโลกทำให้หลงเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร เราสามารถใช้บางสิ่งในโลกได้โดยไม่ทำตามสิ่งที่พระคัมภีร์เรียกว่า “แฟชั่น​ของ​โลก​นี้” ที่​กำ​ลัง​ล่วง​ไป (1 โครินธ์ 7:31)

แฟชั่นของโลกนี้หมายถึงเทรนด์ของโลกนี้ และมันอยู่ภายใต้วิญญาณของโลก จงระลึกว่าซาตานเป็นพระของระบบโลกนี้ ดังนั้นเมื่อข้อพระคัมภีร์หลักของเรากล่าวว่า “อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก…” นั่นคือสิ่งที่ข้อนี้กำลังพูดถึง จงปฏิเสธที่จะถูกควบคุมหรือได้รับอิทธิพลโดยระบบของโลกปัจจุบันนี้ พระเยซูบอกว่าคุณอยู่ในโลก แต่ไม่ใช่ของโลก ฮาเลลูยา!

ในปัจจุบันนี้บางคนกำลังลื่นไถลอยู่ พวกเขาบังเกิดใหม่แล้ว แต่พวกเขาก็ถูกโลกยึดครองไว้ พวกเขาไม่มีแรงบันดาลใจจากข่าวประเสริฐ แรงจูงใจในชีวิตของคุณควรและต้องเป็นพระเยซูคริสต์และจุดประสงค์ที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ อย่าโฟกัสในสิ่งชั่วคราวของโลกที่ล้มเหลวนี้ เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่เรียกว่า “เทรนด์” ที่จะสามารถให้ความชื่นชมยินดีที่แท้จริงแก่คุณได้

เปาโลกล่าวในกาลาเทีย 6:14 ว่า ข้าพ​เจ้า​ไม่​ขอ​อวด​อะไร​นอก​จาก​เรื่อง​กาง​เขน​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา ซึ่ง​โดย​กาง​เขน​นั้น​โลก​ได้​ตาย​จาก​ข้าพ​เจ้า และ​ข้าพ​เจ้า​ก็​ได้​ตาย​จาก​โลก นี่คือทัศนคติที่คุณต้องมี

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับการทรงสถิตอยู่ภายในของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งข้าพระองค์ใช้นำทางในการดำเนินชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ปฏิเสธที่จะถูกครอบงำด้วยวิญญาณของโลกนี้ เพราะว่าข้าพระองค์ไม่ได้ถูกล่อลวงโดยแฟชั่นหรือเทรนด์ของโลกนี้ ข้าพระองค์มาจากเบื้องบน และความคิดของข้าพระองค์ตั้งอยู่บนสิ่งต่างๆ ที่อยู่เบื้องบน ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:สุภาษิต 1:10; ยอห์น 15:19; โรม 8:5-6