แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์ (ฟีลิปปี 4:7)
ใน 2 โครินธ์ 2:10-11 เปาโลกล่าวว่า “ถ้าพวกท่านยกโทษให้ใคร ข้าพเจ้าก็จะยกโทษให้เขาด้วย และถ้าข้าพเจ้ายกโทษเรื่องอะไรไป (ถ้ามีเรื่องใดที่ข้าพเจ้าจะต้องยกโทษให้) ข้าพเจ้าก็ทำเฉพาะพระพักตร์พระคริสต์เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อไม่ให้ซาตานได้เปรียบเรา เพราะเรารู้กลอุบายของมันแล้ว” ตอนนี้ผ่านทางอัครทูตเปาโลพระวิญญาณกำลังเน้นถึงความสำคัญของการให้อภัยผู้อื่นเพื่อไม่ให้ซาตานฉวยโอกาสจากสถานการณ์นั้นได้ นั่นเป็นวิธีที่จะอนุญาตให้สันติสุขของพระคริสต์ครอบครองในหัวใจของคุณ
คุณอาจมีเหตุผลที่จะขุ่นเคืองหรือโกรธ แต่เอเฟซัส 4:26 กล่าวว่า “จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่” บางคนออกไปจากคริสตจักร เพราะว่าพวกเขาโกรธ และบางคนลาออกจากงานเพราะความโกรธ บางคนเก็บความโกรธต่อบางคนไว้เป็นเวลานานโดยไม่ได้ตระหนักถึงผลแห่งการทำลายล้างในชีวิตของพวกเขา
จงฝึกฝนพระคำ อย่าเก็บความโกรธไว้ในหัวใจของคุณ จงทิ้งไปอย่างรวดเร็ว คุณอาจพูดว่า “แต่สิ่งที่คนนั้นทำกับฉันนั้นทำให้ฉันเจ็บปวดอย่างมาก” มันไม่แตกต่างอะไร เมื่อคุณเต็มไปด้วยพระวิญญาณ หัวใจของคุณก็ถูกครอบครองด้วยสันติสุข และคุณดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดีและมีความรักโดยไม่คำนึงถึงการกระทำของผู้อื่น
จงอ่านสิ่งที่พระคำบอกไว้ในยากอบ 5:13 “มีใครในพวกท่านทนทุกข์หรือ? จงให้คนนั้นอธิษฐาน” พระองค์ไม่ได้พูดว่า “จงให้เขาต่อสู้หรือแก้แค้น” พระองค์ไม่ได้พูดด้วยว่า “จงให้เขาบอกทั่วทั้งโลกเกี่ยวกับเรื่องนี้” คำว่า “ทนทุกข์” ในข้อนั้นยังหมายถึงทรมานหรือขุ่นเคือง พระองค์บอกว่าถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับคุณ จงอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าเป็นทุกข์และขมขื่น พระคัมภีร์กล่าวว่า “อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ” (ฟีลิปปี 4:6) และสันติสุขของพระองค์จะครอบครองในหัวใจของคุณ
การอธิษฐาน
พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณที่เทความรักของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์อย่างล้นเหลือ ข้าพระองค์แบ่งปันความรักแบบเดียวกันนี้กับผู้ที่อยู่ในโลกของข้าพระองค์ ด้วยการรักพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ขอบพระคุณที่ประทานความสามารถให้แก่ข้าพระองค์ในการให้อภัยและรักแบบพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน
ศึกษาเพิ่มเติม:โคโลสี 3:13; 1 ยอห์น 3:14; กิจการ 7:59-60
Comments are closed