วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์  2020

ความชอบธรรมของขวัญแห่งพระคุณ
Righteousness-A Gift Of Grace

พระเจ้าทรงทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์(2 โครินธ์ 5:21)

เมื่อคุณได้รับพระคริสต์เข้ามาในหัวใจของคุณ ชีวิตนิรันดร์ก็ได้ถูกถ่ายเทเข้าสู่วิญญาณของคุณ และความชอบธรรมก็มา ความชอบธรรมคือธรรมชาติของพระเจ้าที่สร้างความชอบธรรมของพระเจ้าในตัวคุณและทำให้คุณมีจุดยืนที่ถูกต้องกับพระเจ้า นี่เป็นของขวัญที่พระเจ้าให้แก่คุณในพระคริสต์ นั่นคือของขวัญแห่งพระคุณที่มอบให้แก่คุณโดยพระเยซูคริสต์ ยอห์น 1:17 กล่าวว่า คือ​ว่า​เรา​ได้​ธรรม​บัญ​ญัติ​นั้น​มา​ทาง​โม​เสส ส่วน​พระ​คุณ​และ​ความ​จริง​มา​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์

โรม 5:17 กล่าวว่า “..คน​ทั้ง​หลาย​ที่​รับ​พระ​กรุ​ณา​อัน​ไพ​บูลย์ และ​รับ​ของ​ประ​ทาน​คือ​ความ​ชอบ​ธรรม​ก็​จะ​ดำ​รง​ชีวิต และ​ครอบ​ครอง​โดย​พระ​องค์​ผู้​เดียว คือ​พระ​เยซู​คริสต์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือผู้ที่ยึดความชอบธรรมนั้นได้จะครอบครอง นั่นคือการครอบครองในชีวิต ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของคุณที่จะยึดความชอบธรรมของคุณในพระคริสต์ไว้โดยการตระหนักรู้ในสิ่งนี้! การตระหนักรู้ว่าคุณเป็นความชอบธรรมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ทำให้คุณกล้าหาญและมั่นใจในการอธิษฐานและคาดหวังคำตอบ สิ่งนี้ทำให้คุณควบคุมเหนือพวกมาร ข้อกล่าวหาของมัน และสถานการณ์ในชีวิต

สิ่งนี้สวยงามมากเพราะว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับการงาน หรือ “การแสดง” ของคุณต่อพระพักตร์พระเจ้า ความชอบธรรมของคุณเป็นผลมาจากการทนทุกข์แทนคุณและการเป็นขึ้นมาจากความตายอย่างมีชัยชนะของพระคริสต์ ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างว่าคุณคิดว่าคุณเป็นคนอธรรมหรือดื้อดึงแค่ไหน นั่นคือมันไม่มีความแตกต่างอะไรที่คุณคิดว่าคุณได้ออกห่างจากพระเจ้าไปไกลแค่ไหน ทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องทำก็คือโอบกอดความชอบธรรมของพระองค์ไว้

จงยอมรับของขวัญนี้ที่พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้แก่คุณแล้วพูดว่า “พระเยซูผู้ชอบธรรม พระองค์เป็นความชอบธรรมของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ได้ตายเพื่อข้าพระองค์ และพระเจ้าได้ทรงทำให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตายเพื่อเป็นความชอบธรรมของข้าพระองค์” ฮาเลลูยา!

จงระลึกว่าคุณไม่ได้ขอพระองค์ก่อนที่พระองค์จะประทานความชอบธรรมให้แก่คุณ และความชอบธรรมของพระองค์ไม่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นความชอบธรรมของมนุษย์ เป็นผู้ไร้บาปเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เดินอยู่บนแผ่นดินโลก ดังนั้นเราจะไม่ชอบธรรมมากขึ้นในสวรรค์มากกว่าที่เราเป็นอยู่แล้วในพระองค์

ดังนั้นในการทรงสถิตของพระเจ้า เราจึงมีเสรีภาพ นั่นคือไม่มีความกลัว ไม่มีการกล่าวโทษ ไม่มีความรู้สึกด้อยกว่า! เรามีอิสระในการสำแดงตัวตนของเราและเป็นตัวของเราเองในขณะที่เรานมัสการและสามัคคีธรรมกับพระองค์ เพราะเรามีจุดยืนที่ถูกต้องกับพระองค์ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดและมากกว่านี้เป็นผลมาจากพระคุณอันล้นเหลือของพระองค์ นั่นคือของขวัญแห่งความชอบธรรมที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

สาธุการแด่พระบิดา ขอบพระคุณสำหรับการประทานความชอบธรรมของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์เป็นของขวัญ และดลใจให้ข้าพระองค์ตระหนักถึงการครอบครอง เพื่อจะปกครองและครอบครองแบบกษัตริย์ในชีวิต ข้าพระองค์ถูกพระคุณของพระองค์จับยึดเอาไว้ ด้วยการเพลิดเพลินกับเสรีภาพของกษัตริย์ผ่านทางของขวัญแห่งความชอบธรรมที่สมบูรณ์แบบในพระเยซูคริสต์ อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 2:8; ฟิลิปปี 3:9


วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020            

การสามัคคีธรรมของเรากับพระเจ้า
Our Fellowship With Divinity

สิ่งที่เราได้เห็นและได้ยินนั้น เราก็ประกาศให้พวกท่านรู้ด้วย เพื่อท่านจะได้มีสามัคคีธรรมกับเรา และเราก็มีสามัคคีธรรมกับพระบิดา และกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ (1 ยอห์น 1:3)

สิ่งนี้ช่างทรงพลังจริงๆ การสามัคคีธรรมของเรากับพระบิดาและกับพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์! นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริสเตียน การสามัคคีธรรมของเรากับพระเจ้า จุดประสงค์ของพระคริสต์คือการผลิตผู้ร่วมงานประเภทเดียวกับพระเจ้า นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่พิเศษซึ่งมีชีวิตและธรรมชาติของพระเจ้า จึงทำให้เราสามารถสามัคคีธรรมกับพระองค์ได้

1 โครินธ์ 1:9 กล่าวว่า พระ​เจ้า​ทรง​เป็น​ผู้​ซื่อสัตย์ พระ​องค์​ทรง​เรียก​พวก​ท่าน​ให้​สัม​พันธ์​สนิท​กับ​พระ​บุตร​ของ​พระ​องค์ คือ​พระ​เยซู​คริสต์ องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา ผลจากการสามัคคีธรรมกับพระเจ้านี้ทำให้ทุกสิ่งที่เป็นของพระบิดาเป็นของเรา โอ การเป็นเอกภาพของเรากับองค์พระผู้เป็นเจ้าช่างเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยพระพรจริงๆ! นั่นคือสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการอยู่ในพันธสัญญา! พระองค์เห็นตัวของพระองค์เองอยู่ในเรา พระองค์จะไม่พึงพอใจจนกว่าเราจะพึงพอใจ นั่นคือความชื่นชมยินดีของเราก็คือความชื่นชมยินดีของพระองค์ และความชื่นชมยินดีของพระองค์ก็คือความชื่นชมยินดีของเราด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่อัครทูตเปาโลเขียนถึงทิโมธี

กล่าวว่า “…จง​เข้ม​แข็ง​ขึ้น​ด้วย​พระ​คุณ​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​พระ​เยซู​คริสต์” (2 ทิโมธี 2:1) นั่นหมายความว่าเราจะต้องฉวยโอกาสจากพระคุณของพระองค์ในการสามัคคีธรรมของเรากับพระองค์

คุณจำเป็นต้องรู้ว่าพระเจ้าทรงรักคุณจริงๆ มากจนกระทั่งพระองค์ทำให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับคุณก็เกี่ยวข้องกับพระองค์ คุณไม่ได้ทำงานข้างๆ หรือแยกจากพระองค์ จงตระหนักรู้ถึงสิ่งนี้ นี่คือเหตุผลที่คุณไม่ควรถูกรบกวนด้วยเรื่องใดๆ ในชีวิต ลองคิดดูสิ คุณจะขาดแคลนได้อย่างไรเมื่อคุณเป็นพันธมิตรกับพระมหากษัตริย์แห่งจักรวาล? เราเป็นบุตรของพระเจ้า ทายาทของพระเจ้า และทายาทร่วมกับพระคริสต์! ขอพระสิริจงมีแด่พระนามของพระองค์ตลอดไป!

จงฉวยโอกาสอย่างเต็มที่จากความรักของพระองค์ในชีวิตของคุณและเพลิดเพลินกับสามัคคีธรรมที่เปี่ยมด้วยพระพรที่พระเจ้าทรงนำมาให้กับคุณ จงเดินกับพระองค์ พูดคุยกับพระองค์ และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในพระองค์ ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

พระบิดาผู้ทรงล้ำค่า ข้าพระองค์ชื่นชมยินดีตลอดไปสำหรับชีวิตและธรรมชาติของพระองค์ในวิญญาณของข้าพระองค์ ซึ่งทำให้ข้าพระองค์สามารถสามัคคีธรรมกับพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด! นี่คือเกียรติที่สูงสุดและสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ข้าพระองค์รู้สึกขอบพระคุณที่พระองค์ทำให้ข้าพระองค์เป็นหนึ่งเดียวแบบแบ่งแยกไม่ได้กับพระองค์เพื่อที่จะดำเนินชีวิตอยู่เพื่อพระองค์อย่างแท้จริงและทำให้น้ำพระทัยและวัตถุประสงค์องพระองค์ในชีวิตของข้าพระองค์สำเร็จเพื่อพระสิริและคำสรรเสริญต่อพระองค์ ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 โครินธ์ 6:17; 1 โครินธ์ 1:9; ฮีบรู 2:11; ยอห์น 17:21