วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม  2020                                                                         

จงตระหนักถึงพระวิญญาณ

Be Conscious Of The Spirit

ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย (กาลาเทีย 5:25)

มีโลกฝ่ายวิญญาณที่ยิ่งใหญ่กว่าโลกทางกายภาพนี้ โลกทางกายภาพเป็นภูมิภาคหรือส่วนหนึ่งของโลกฝ่ายวิญญาณ พระคัมภีร์กล่าวว่าพระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และพระองค์ทรงสร้างทุกสิ่ง หมายความว่ามีการเชื่อมต่อฝ่ายวิญญาณกับทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ไม่มีสิ่งใดที่แยกออกจากพระองค์ ดังนั้นในมิติฝ่ายวิญญาณ พระองค์จึงสร้างภูมิภาคสำหรับมนุษย์ทางร่างกาย ถึงแม้ว่ามนุษย์เองจะเป็นวิญญาณก็ตาม

พระเจ้าประทานร่างกายให้แก่มนุษย์เพื่อใช้ดำเนินชีวิต ขณะที่อยู่ในภูมิภาคทางกายภาพของโลกฝ่ายวิญญาณของพระองค์ ดังนั้นแผ่นดินโลกจึงไม่ได้แยกออกจากมิติของพระเจ้าอย่างเด็ดขาด จงระลึกว่าในปฐมกาล 1:2 พระคัมภีร์กล่าวว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงเคลื่อนไหวอยู่บนพื้นน้ำ พระวิญญาณของพระเจ้าฟักอยู่ในมวลที่วุ่นวาย ซึ่งหมายความว่าแผ่นดินโลกอยู่ในขอบเขตหรือการเข้าถึงของพระวิญญาณและถูกควบคุมโดยพระวิญญาณ เนื่องจากความไม่รู้และไม่เข้าใจความสำคัญของสิ่งนี้ หลายคนจำกัดชีวิตของพวกเขาอยู่ในภูมิภาคทางโลกของโลกนี้ พวกเขาไม่ได้ตระหนักว่ามีอะไรมากกว่านั้นในโลกฝ่ายวิญญาณ

สำหรับเราทุกคนที่บังเกิดใหม่แล้ว พระคัมภีร์บอกให้เราเดินในพระวิญญาณ คุณเดินในพระวิญญาณอย่างไร? คือการเดินอยู่ในความสว่างแห่งพระคำของพระเจ้า นั่นคือเดินไปตามหลักการของแผ่นดินของพระเจ้า จงตระหนักว่าคุณอาศัยอยู่ในและจากอีกมิติหนึ่ง ซึ่งเป็นมิติสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าโลกนี้ การตระหนักรู้นั้นจะทำให้คุณอยู่เหนือองค์ประกอบ ความล้มเหลว ความผิดหวัง ความมืด และการเสื่อมโทรมของโลกทางกายภาพนี้

ชีวิตคือฝ่ายวิญญาณ และเราอาศัยอยู่ใน 2 โลก แต่คนส่วนใหญ่ทุกวันนี้ตระหนักรู้ถึงโลกทางกายภาพเท่านั้น นี่คือเหตุผลที่หลายคนต้องผ่านความเจ็บปวดและความทุกข์ นั่นคือตกเป็นเหยื่อของโรคที่รักษาไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมชีวิตจากวิญญาณได้ พระคัมภีร์กล่าวว่าคุณอยู่ในโลก แต่ไม่ใช่ของโลก คุณบังเกิดตามแบบของพระคริสต์ มนุษย์ที่มาจากสวรรค์ ดังนั้นคุณจึงแบกพระฉายของสวรรค์ คุณมาจากแผ่นดินแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์ ฮาเลลูยา! และในแผ่นดินนั้น เราใช้หลักการของพระเจ้า กลยุทธ์และอาวุธสงครามของเราไม่ใช่ของโลกนี้ (2 โครินธ์ 10:4) เราครอบครองโดยพระคุณผ่านทางความชอบธรรมและเราชนะด้วยและผ่านทางพระคำ ฮาเลลูยา

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ตาแห่งความเข้าใจของฉันรู้แจ้งเพื่อรับรู้ถึงความสามารถของฉันในพระคริสต์และเข้าใจและหยั่งรู้ถึงความเป็นจริงฝ่ายวิญญาณของแผ่นดินสวรรค์ซึ่งฉันอยู่ ในพระนามพระเยซู อาเมน!

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 8:13-14; โรม 8:9-10


วันพุธที่ 25 มีนาคม  2020                                                                           

จงฝึกฝนวินัยของคุณเองให้อธิษฐาน
Discipline Yourself To Pray

แล้วท่านจึงตอบข้าพเจ้าว่านี่เป็นพระวจนะของพระยาห์เวห์ที่ให้ไว้กับเศรุบบาเบลว่า ไม่ใช่ด้วยกำลัง ไม่ใช่ด้วยฤทธานุภาพ แต่ด้วยวิญญาณของเรา พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ (เศคาริยาห์ 4:6)

ความสำเร็จที่แท้จริงเป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณและอยู่บนพื้นฐานของหลักการฝ่ายวิญญาณ ดังนั้นถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง คุณก็จะต้องเรียนรู้ที่จะดูแลจากมิติฝ่ายวิญญาณ และวิธีหลักในการทำสิ่งนี้ก็คือผ่านการอธิษฐาน เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะคุกเข่าในการอธิษฐานและฝึกฝนตัวเองให้อธิษฐาน ก็จะไม่มีอะไรที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือประสบความสำเร็จได้

คริสเตียนบางคนคิดว่าชีวิตเป็นเรื่องตลก พวกเขาอธิษฐาน 3 นาทีก็เสร็จแล้ว แม้ในขณะที่พวกเขากำลังอธิษฐาน พวกเขาก็ถูกเบี่ยงเบนความสนใจด้วยสิ่งอื่น สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สงสัยว่าทำไมบางสิ่งบางอย่างถึงเกิดขึ้นซึ่งทำให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อในชีวิต จงฝึกฝนวินัยตัวเองให้อธิษฐาน ตั้งใจทำให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของคุณ ฝันร้ายของคุณจะจบลงเมื่อคุณค้นพบประสิทธิภาพของการอธิษฐาน เมื่อคุณรับผิดชอบและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ในมิติฝ่ายวิญญาณ สิ่งเหล่านั้นก็จะสำแดงออกในมิติฝ่ายโลก เมื่อเดโบราห์และบาราคต่อสู้กับสิเสราและกองทัพของเขา พระคัมภีร์กล่าวว่า ดวง​ดาว​ก็​สู้​รบ​จาก​สวรรค์จาก​วิถี​ของ​มัน พวก​มัน​รบ​กับ​สิเส​รา (ผู้วินิจฉัย 5:20)

มิติฝ่ายวิญญาณเป็นที่ที่คุณกำหนดสถานการณ์ในชีวิตของคุณเพื่อควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก และหัวเราะอย่างมีชัยชนะ คุณกลายเป็นเหมือนดาวิด นั่นคือความล้ำลึกและสิ่งอัศจรรย์ต่อโลกของคุณ! ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

คำอธิษฐาน

พระบิดาผู้ทรงล้ำค่า ขอบพระคุณสำหรับโอกาสที่จะได้เห็นพันธกิจของพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางการอธิษฐาน ขณะที่ข้าพระองค์ให้ความสนใจที่จะติดต่อสื่อสารกับพระองค์ ดวงตาของข้าพระองค์ก็เปิดรับความเป็นจริงฝ่ายวิญญาณ และความคิดของพระองค์ก็ได้รับการเปิดเผยต่อวิญญาณของข้าพระองค์ ทำให้ข้าพระองค์เดินในการครอบครอง ชัยชนะ และพระสิริที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 8:19-21; เอเฟซัส 6:12; 2 โครินธ์ 10:4


วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2020

เรื่องราวของพระวาทะ
The Story Of The Word

ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า  ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า  พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ (ยอห์น 1:1-3)

เช่นเดียวกับที่ไม่มีอัครทูตคนใดให้การเปิดเผยสำแดงเรื่องคริสตจักรได้เหมือนเปาโล ก็ไม่มีใครให้การเปิดเผยสำแดงแก่คริสตจักรเรื่องบุคคลของพระเยซู พระวาทะที่มาเกิดเป็นมนุษย์ ได้เหมือนยอห์น เขาบอกเล่าเรื่องราวของพระวาทะ และเริ่มตั้งแต่ปฐมกาล ในยอห์น 1:10-14 เขาพูดว่า “พระ​องค์​ทรง​อยู่​ใน​โลก​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​สร้าง​ขึ้น​มา​ทาง​พระ​องค์ แต่​โลก​ไม่​รู้จัก​พระ​องค์..พระ​วาทะ​ทรง​เกิด​เป็น(กลายเป็น)มนุษย์​และ​ทรง​อยู่​ท่าม​กลาง​เรา (และเรา​เห็น​พระ​สิริ​ของ​พระ​องค์คือพระ​สิริ​ที่​สม​กับ​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระบิดา)บริ​บูรณ์​ด้วย​พระ​คุณ​และ​ความ​จริง ฮาเลลูยา!

พระ​องค์​ทรง​อยู่​ใน​โลก แต่​โลก​ไม่​รู้จัก​พระ​องค์ นั่นคือใครหรือ? พระวาทะ! เราอ่านในข้อ 14 พระ​วาทะ​ทรง​เกิด​เป็นมนุษย์​และ​ทรง​อยู่​ท่าม​กลาง​เรา…” ยอห์นกำลังบอกให้คุณรู้ที่มาของพระเยซู ในขณะที่ผู้เขียนพระกิตติคุณอื่นๆ (มัทธิวและลูกา) เริ่มเรื่องโดยการไล่ลำดับพงศ์พันธุ์ทางโลกของพระเยซู พระกิตติคุณยอห์นป่าวประกาศถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์ด้วยการให้ที่มาที่แท้จริงของคนที่ชื่อว่าพระเยซูนั่นคือบุคคลที่พระองค์ทรงเป็นจริงๆ

พระเยซูคริสต์เป็นพระวาทะที่ดำรงอยู่ก่อนการทรงสร้าง และทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยพระองค์ (ยอห์น 1:1-3) พระองค์เป็น พระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่อาดัมและเอวาได้ยินขณะเสด็จ​ดำเนิน​อยู่​ใน​สวน (ปฐมกาล 3:8) พระองค์เป็นสติปัญญาที่ดาวิดและซาโลมอนเขียนถึงด้วยความหลงใหล พระกำเนิดของพระองค์เป็นสิ่งที่อัศจรรย์ต่อพวกทูตสวรรค์ เป็นการอัศจรรย์มากกว่าที่พวกเขาได้เคยเห็น (ลูกา 2:13-14)

ทันใดนั้นพวกเขาก็กำลังมองไปที่ผู้สร้างจักรวาล ​ผู้​​เจริญ​ด้วย​วัย​วุฒิ ถูกห่อตัวด้วยผ้าอ้อม นั่นคือพระวาทะในสวรรค์ได้มาเยี่ยมมนุษย์ในเนื้อหนัง! ทุกย่างก้าวของพระเยซูคือพระวาทะของพระเจ้ากำลังเคลื่อนไหว พระองค์เป็นพระวาทะที่มาเป็นบุคคล ขอพระสิริจงมีแด่พระนามของพระองค์ตลอดไป!

แต่ส่วนที่งดงามที่สุดของเรื่องนี้ก็คือในฐานะของคนที่ถูกสร้างใหม่ ที่มาของเราก็คือพระคำของพระเจ้าด้วย ยากอบ 1:18 กล่าวว่า “เมื่อ​ตั้ง​พระ​ทัย​แล้ว พระ​องค์​ทรง​ให้​เรา​บัง​เกิด​ด้วย​พระ​วจนะ​แห่ง​ความ​จริง เพื่อ​ให้​เรา​เป็น​ผลิต​ผล​แรก​ของ​สิ่ง​ต่างๆ ที่​พระ​องค์​ทรง​สร้าง 1 เปโตร 1:23 กล่าวว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​บัง​เกิด​ใหม่​แล้ว ไม่​ใช่​จาก​เมล็ด​พันธุ์​ที่​เสื่อม​สลาย​ได้ แต่​จาก​เมล็ด​พันธุ์​ที่​ไม่​เสื่อม​สลาย คือ​จาก​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ที่​มี​ชีวิต​และ​ดำ​รง​อยู่” ดังนั้นคุณจึงเป็นเชื้อสายของพระคำ 2 โครินธ์ 3:2-3 กล่าวว่า “ท่าน​เอง​เป็น..จด​หมาย​ของ​พระ​คริสต์ ที่​เรา​เป็น​ผู้​ส่ง​และ​ไม่​ได้​เขียน​ด้วย​น้ำ​หมึก แต่​ด้วย​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​พระเจ้า​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์ ไม่​ได้​เขียน​บน​แผ่น​ศิลา แต่​เขียน​บน​แผ่น​ดวง​ใจ​มนุษย์” นี่คือการเปิดเผยสำแดงของคนที่ถูกสร้างใหม่และคริสเตียนที่แท้จริง! นี่เป็นการสำแดงออกของพระคำในตัวคุณ เมื่อคุณพูด นั่นคำพระคำ เมื่อคุณลงมือทำ นั่นคำพระคำ ชีวิตของคุณคือการเปิดเผยสำแดงของพระคำ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

สาธุการแด่พระเยซูเจ้า พระองค์คือพระเจ้า พระศิลานิรันดร์ พระวาทะที่ดำรงอยู่ก่อนสิ่งที่ทรงสร้างทั้งหมดและทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยพระองค์ โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ! พระองค์เป็นศูนย์รวมแห่งพระคุณและความจริง พระองค์เป็นพระวาทะแห่งชีวิตและแสงสว่างแห่งชีวิต อาหารธำรงชีวิตจากสวรรค์ที่ประทานชีวิตให้แก่ทุกคนในโลก สาธุการแด่พระนามของพระอค์ตลอดไป!

ศึกษาเพิ่มเติม:1 ยอห์น 1:1-14


วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม  2020

ทำสิ่งที่พระเยซูบอกให้ทำขับผี
Do What Jesus Said To Do-Cast Out Devils

เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ (เอเฟซัส 6:12)

การท้าทายหลายอย่างที่บางคนต้องเผชิญในชีวิตเกิดขึ้นจากพวกวิญญาณชั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่พระคัมภีร์อธิบายว่าเป็นเทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ พวกมันมีหน้าที่เกี่ยวกับความโกรธ ความขุ่นมัว และความหดหู่ที่ผู้คนประสบในชีวิตของพวกเขา คนส่วนใหญ่ไม่รู้ แต่ความโกรธโดยเฉพาะอย่างยิ่งความโกรธที่ไม่สามารถควบคุมได้มักจะนำไปสู่ความรุนแรงที่น่าเสียใจ ในหลายๆกรณีวิญญาณชั่วอยู่เบื้องหลังความโกรธที่ไม่สามารถควบคุมได้

เป็นสิ่งที่ชัดเจนจากข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเรา เนื้อหนังและเลือด นั่นคือเพื่อนมนุษย์ไม่ได้เป็นปัญหาของคุณ ประสบการณ์หรือการกระทำที่น่ากลัวใดๆ ที่บางคนทำต่อคุณมักเป็นผลมาจากวิญญาณหรือพลังที่ชั่วร้ายที่มีอิทธิพลต่อบุคคลหรือสถานการณ์นั้น ดังนั้นผู้กระทำผิดที่แท้จริงก็คือมาร สิ่งที่คุณควรทำคือการขับผี และคุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับบุคคลนั้น พวกวิญญาณชั่วจะได้ยินและเชื่อฟังคุณจากระยะไกล เนื่องจากระยะทางไม่ใช่ปัจจัยในการใช้สิทธิอำนาจฝ่ายวิญญาณ

ในฐานะที่เป็นคริสเตียน อย่ารู้สึกสบายๆ หรือไม่รับรู้ถึงกิจกรรมของพวกวิญญาณชั่ว จงอยู่ในพระคำของพระเจ้าและรีบใช้การครอบครองของคุณในพระคริสต์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ เป็นสิ่งที่สำคัญไม่ว่าลูกๆ ของคุณจะไปโรงเรียนหรือไปเยี่ยมเยียนที่โรงพยาบาล จงใช้สิทธิอำนาจเหนือสถานที่นั้นและรับรู้ในฝ่ายวิญญาณ

บางครั้งคุณอาจพบศิษยาภิบาลและพันธกรของข่าวประเสริฐที่กำลังมีการท้าทายกับอำนาจของวิญญาณชั่วในพันธกิจของพวกเขา พวกเขารวบรวมผู้คน และทันใดนั้นพวกวิญญาณชั่วก็สร้างความยุ่งยากซึ่งทำให้คริสตจักรระส่ำระสาย หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับผู้คน ทำให้พวกเขารู้สึกขัดข้องใจ เพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ทำสิ่งที่พระเยซูบอกให้เราทำ ซึ่งก็คือการขับผี

โปรดสังเกตว่านั่นเป็นสิ่งแรกที่พระเยซูตรัสว่าเราจะทำในพระนามของพระองค์ ซึ่งทำให้เรารู้ถึงความสำคัญ ดังนั้นเมื่อคุณสังเกตเห็นกิจกรรมของซาตานในสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคุณด้วยการรู้ว่าหลายครั้งที่มันจะทำโดยไม่เปิดเผยตัวตน จงขับมันออกไป อย่าอธิษฐานต่อต้านผู้คน จงจัดการกับวิญญาณที่อยู่เบื้องหลังและคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันได้รับสิทธิอำนาจและความสามารถในการขับผีในพระนามของพระเยซู และฉันใช้การครอบครองนั้นในตอนนี้ และกำจัดอิทธิพลและการควบการของซาตานในสภาพแวดล้อมของฉัน ซาตานไม่มีที่อยู่ในร่างกาย ที่บ้าน ที่ทำงาน การเงินของฉันและคนที่ฉันรัก ในพระนามพระเยซู อาเมน!

ศึกษาเพิ่มเติม:ลูกา 10:18-19; มาระโก 1:25-26


วันพุธที่ 18 มีนาคม  2020

จุ่มมิดในพระคริสต์

Immersed In Christ

เพราะเหตุว่าคนที่รับบัพติศมาเข้าร่วมในพระคริสต์แล้วก็จะสวมชีวิตพระคริสต์ (กาลาเทีย 3:27)

ข้อนี้หมายถึงปรากฏการณ์ที่แตกต่างกัน 2 อย่าง ประการแรกคือการบัพติศมาเข้าในพระคริสต์ และประการที่ 2 คือสวมพระคริสต์ การรับบัพติศมาเข้าในพระคริสต์เปรียบเหมือนน้ำเข้าในน้ำ นั่นคือความเป็นหนึ่งที่แยกกันไม่ออก การสวมใส่พระคริสต์คือการดำเนินชีวิตในสภาพแวดล้อมและอุปนิสัยใหม่ของพระองค์ คุณได้ถูกจุ่มมิดอย่างสมบูรณ์ในพระองค์จนพระคริสต์คือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณและเห็นในตัวคุณ

นี่คือความเป็นจริงของคุณตอนนี้ คุณสวมใส่พระคริสต์โดยอาศัยการบังเกิดใหม่ นั่นคือคุณอยู่ในพระองค์และพระองค์อยู่ในคุณ “…เรา​อยู่​ใน​พระ​องค์​และ​พระ​องค์​ทรง​สถิต​อยู่​ใน​เรา..” (1 ยอห์น 4:13) โคโลสี 3:3-4 กล่าวว่าชีวิตของคุณซ่อนอยู่กับพระคริสต์ในพระเจ้า และพระคริสต์คือชีวิตของคุณ ฮาเลลูยา! จงทำให้สิ่งนี้เป็นการตระหนักรู้และการกล่าวสารภาพของคุณ จงพูดบ่อยๆว่า “พระคริสต์คือชีวิตของฉัน พระคริสต์เป็นที่อยู่อาศัยของฉัน ฉันอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เรียกว่าพระคริสต์”

2 โครินธ์ 5:17 กล่าวว่า ถ้า​ผู้ใด​อยู่​ใน​พระ​คริสต์..” นั่นคือสถานที่ นั่นคือที่อยู่อาศัยแห่งพระสิริ โรค ความเจ็บป่วย ความอ่อนแอ ความกลัว ความไม่เชื่อ และความมืดใด ๆ ไม่สามารถถูกพบได้ในพระคริสต์ เมื่อคุณเข้ามาในพระคริสต์ ชีวิตมนุษย์ที่ต่ำต้อย พ่ายแพ้ และทรุดโทรมก็ถูกแทนที่ด้วยธรรมชาติของพระเจ้า นั่นคือคุณเข้ามาสู่ความชอบธรรม เกียรติ สันติสุข และพระสิริ คุณได้ตายแล้ว แต่ได้มีชีวิตในพระองค์

ลองคิดว่าเนื่องจากคุณจุ่มมิดในพระคริสต์ และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคุณคือพระคริสต์ คุณจะถูกบอกได้อย่างไรว่าเป็นโรคที่รักษาไม่ได้? คุณสามารถมีอาการของเลือดหรือหัวใจได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้! ปัญหา ความมืด ความทุกข์ยาก ความเจ็บปวด และความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ตามธรรมชาติของคุณได้ล่วงไปแล้วในพระคริสต์

ส่วนหลังของ 2 โครินธ์ 5:17 กล่าวว่า “…นี่​แน่ะ​กลาย​เป็น​สิ่ง​ใหม่​ทั้งนั้น พระเจ้าต้องการให้คุณเห็น คิด และมีการตระหนักรู้ว่าคุณอยู่ในวงล้อมใหม่ บ้านใหม่ที่เรียกว่าพระคริสต์ ที่ซึ่งทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของคุณนั้นเหนือธรรมชาติ ยอดเยี่ยม และเต็มไปด้วยพระสิริ! ดังนั้นจงเดินอย่างกล้าหาญและปราศจากความกลัว เต็มไปด้วยความเชื่อและความเชื่อมั่น เพราะว่าคุณถูกห่อหุ้มไว้ในพระคริสต์ นั่นคือได้รับการปกป้องโดยพระเจ้าจากความชั่วร้ายทั้งหมดและถูกทำให้เป็นผู้ชนะ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ชีวิตของฉันถูกซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า นั่นคือถูกจุ่มอย่างสมบูรณ์ในพระคริสต์ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของฉันนั้นเหนือธรรมชาติ ยอดเยี่ยม และเต็มไปด้วยพระสิริ! ฉันเดินอย่างกล้าหาญและปราศจากความกลัว เต็มไปด้วยความเชื่อ และความมั่นใจ ได้รับการปกป้องโดยพระเจ้าจากความชั่วร้ายทั้งหมดและถูกทำให้เป็นผู้ชนะในพระคริสต์ ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:โคโลสี 3:3-4; 1 โครินธ์ 6:17;  กาลาเทีย 2:20