ใน​ทำ​นอง​เดียว​กัน พวก​ท่าน​จง​ถือ​ว่า​ท่าน​ได้​ตาย​ต่อ​บาป และ​มี​ชีวิต​สนิท​กับ​พระ​เจ้า​โดย​พระ​เยซู​คริสต์ (โรม 6:11)

ข้อพระคัมภีร์ข้างบนเปิดเผยให้เห็นถึงความจริงในปัจจุบันที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับคนที่ถูกสร้างใหม่ นั่นคือเขาได้ตายต่อบาปและมีชีวิตสนิทกับพระเจ้า! นี่คือมุมมองที่คุณควรมีในชีวิตคริสเตียน คุณต้องถือ (นับ) ว่าตัวเองได้ตายต่อบาปและมีชีวิตสนิทกับพระเจ้า การ “มีชีวิตสนิทกับพระเจ้า” หมายถึงการถูกปลุกให้ตื่นเข้าสู่ความเป็นจริงและมิติแห่งชีวิตของพระองค์ นั่นคือในการสามัคคีธรรมอย่างต่อเนื่องกับพระองค์

เอเฟซัส 2:1 ฉบับ AMPC กล่าวว่า “และคุณ [พระองค์ทำให้มีชีวิตอยู่] เมื่อคุณตาย (ถูกสังหาร) โดยการละเมิดและความบาปของคุณ [ของคุณ]” ในอีกนัยหนึ่งเมื่อพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ คุณก็ตายในพระองค์ เมื่อพระองค์ถูกทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา คุณก็ฟื้นขึ้นมามีชีวิตกับพระองค์ โคโลสี 2:13-14 กล่าวว่า “และ​ท่าน​ซึ่ง​ตาย​แล้ว​เนื่อง​ด้วย​การ​ละเมิด​ทั้ง​หลาย และ​เนื่อง​ด้วย​การ​ไม่​ได้​เข้า​สุหนัต​ใน​เนื้อ​หนัง​ของ​พวก​ท่าน พระ​เจ้า​ทรง​ทำให้​พวก​ท่าน​มี​ชีวิต​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์ และ​ทรง​ให้​อภัย​การ​ละเมิด​ทั้ง​หลาย​ของ​เรา พระ​องค์​ทรง​ฉีก​เอก​สาร​หนี้​ที่​มี​คำสั่ง​ต่างๆ ซึ่ง​ต่อ​สู้​และ​ขัด​ขวาง​เรา และ​ทรง​ขจัด​ไป​เสีย​โดย​ตรึง​ไว้​ที่​กาง​เขน”

นี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก! ก่อนที่คุณจะถูกทำให้มีชีวิตกับพระคริสต์ ความบาปและกฎต่างๆที่ต่อต้านคุณได้ถูกตรึงไว้ที่ไม้กางเขน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือทั้งความบาปของคุณและสิ่งที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นความบาปตั้งแต่แรกได้ถูกตรึงไว้ที่กางเขน

1 โครินธ์ 15:56 ทำให้เรารู้ว่าอำนาจของความบาป คือ ธรรมบัญญัติ อย่างไรก็ตามธรรมบัญญัติซึ่งเป็นสิ่งที่ให้ชีวิตแก่ความบาปได้ถูกทำให้เป็นโมฆะโดยพระเยซู (เอเฟซัส 2:15) พระองค์ได้ทรงประทานชัยชนะเหนือความบาป ความตาย และหลุมฝังศพให้แก่คุณ จงมองเห็นตัวเองในความสว่างนี้

พระคำของพระเจ้าเป็นความสว่าง และเป็นกระจกที่สำแดงให้เห็นว่าคุณคือใคร 2 โครินธ์ 3:18 กล่าวว่า “แต่​เรา​ทุก​คน​ไม่​มี​ผ้า​คลุม​หน้า​แล้ว และ​มอง​ดู​พระ​รัศมี​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า แล้ว​เรา​ก็​ได้​รับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ให้​เป็น​เหมือน​พระ​ฉายา​ของ​พระ​องค์​โดย​มี​ศักดิ์​ศรี​เป็น​ลำ​ดับ​ขึ้น​ไป เหมือน​อย่าง​ศักดิ์​ศรี​ที่​มา​จาก​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ทรง​เป็น​พระ​วิญ​ญาณ” ตอนนี้พระคำกล่าวว่าคุณได้ตายต่อบาปและมีชีวิตสนิทกับพระเจ้า ในขณะที่คุณไตร่ตรองความเป็นจริงในพระคำ คุณก็จะถูกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ความจริงนั้น นั่นคือเป็นภาพเดียวกับที่ถูกเปิดเผยในกระจก

ภาพในกระจกคือภาพของคนที่ได้ตายต่อบาป แต่มีชีวิตสนิทกับพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ คุณควรตอบสนองว่า “สรรเสริญพระเจ้า! ฉันได้ตายต่อบาปและมีชีวิตสนิทกับพระเจ้า ฉันมีชีวิตในมิติแห่งชีวิตของพระองค์” จงเดินในความเป็นจริงนี้ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

    ฉันมีชีวิตสนิทกับพระเจ้า ถูกปลุกเข้าสู่ความเป็นจริงแห่งแผ่นดินของพระเจ้า! พระองค์เป็นจริงสำหรับฉัน ในตัวฉัน และผ่านทางฉัน! ฉันได้ยินและรู้จักพระสุรเสียงของพระองค์ ฉันรู้ความคิดของพระองค์ น้ำพระทัยของพระองค์ และเดินในลิขิตชีวิตของพระองค์สำหรับฉัน ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 6:7-11; โคโลสี 3:3


ลูก​เอ๋ย จง​ใส่​ใจ​ถ้อย​คำ​ของ​ข้า จง​เอียง​หู​ของ​เจ้า​เข้า​หา​คำ​พูด​ของ​ข้า อย่า​ให้​มัน​คลาด​สาย​ตา​ของ​เจ้า จง​รัก​ษา​มัน​ไว้​ภาย​ใน​ใจ​ของ​เจ้าเพราะ​มัน​เป็น​ชีวิต​แก่​ผู้​ค้น​พบ และ​เป็น​พลา​นามัย​แก่​กาย​ทุก​ส่วน​ของ​ผู้นั้น (สุภาษิต 4:20-22)

พระคำของพระเจ้าเป็นยา นั่นคือมีพลังในการรักษาโรค ถ้าคุณใคร่ครวญพระคำ พระคำก็จะทำลายโรคและความอ่อนแอทุกอย่างและทุกรูปแบบในร่างกายของคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระ​องค์​ทรง​ใช้​พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​ไป​รัก​ษา​เขา​ทั้ง​หลาย และ​ทรง​ช่วย​กู้​เขา​จาก​หลุม​มรณา” (สดุดี 107:20)

พระคำของพระเจ้าเป็นทางออกสำหรับความท้าทายทุกอย่าง ศักยภาพและประสิทธิภาพของพระคำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ขณะที่คุณใคร่ครวญพระคำ การเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ ถ้าคุณกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายเรื่องสุขภาพ อย่าสิ้นหวัง จงยึดพระคำของพระเจ้าเอาไว้ และจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

พระคำของพระเจ้าทำสิ่งต่างๆ เพื่อวิญญาณของคุณมากกว่าที่อาหารทำเพื่อสุขภาพฝ่ายร่างกายของคุณ จงคงอยู่ในพระคำ และคุณจะมีสุขภาพที่ดีและเป็นปกติเสมอ การใคร่ครวญพระคำจะช่วยรักษาโรคเลือด กำจัดเชื้อเอชไอวี และเชื้อไวรัสที่ติดต่อทุกชนิด พระคำจะรักษากระดูก หัวใจ และผิวหนังของคุณ และผลิตชีวิตในตัวคุณ! พระคำจะรักษาแผลที่รักษาไม่หาย จงพูดพระคำต่อความอ่อนแอนั้น จงพูดกับมะเร็ง กับเบาหวาน จงสั่งให้พวกมันได้รับการรักษา และก็จะเป็นดังนั้น จงรักษาตัวของคุณเองให้มีสุขภาพดีด้วยพระคำ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณที่พระคำของพระองค์เป็นยาและชีวิตสำหรับร่างกายของข้าพระองค์ ข้าพระองค์บังเกิดมาจากจาก​เมล็ด​พันธุ์​ที่​ไม่​เสื่อม​สลายแห่งพระคำของพระองค์ ดังนั้นชีวิตของข้าพระองค์จึงได้รับการดูแลโดยพระคำของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:สดุดี 107:17-20; มัทธิว 8:16; สดุดี 34:12-13


เขา​ทูล​ตอบ​ว่า “คือ​คน​นั้น​แหละ​ที่​แสดง​ความ​เมตตา​ต่อ​เขา” พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ท่าน​จง​ไป​ทำ​เหมือน​อย่าง​นั้น” (ลูกา 10:37)

คำพูดในข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเราเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาขององค์พระผู้เป็นเจ้ากับทนายความคนหนึ่งซึ่งถามพระองค์ใน ลูกา 10:25 ว่า “ท่าน​อาจารย์ ข้าพ​เจ้า​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์?”

พระเยซูตอบสนองเขาด้วยการบอกคำอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี: นักเดินทางคนหนึ่งได้ถูกปล้นเอาเสื้อผ้าของเขา ถูกทุบตี และถูกทิ้งไว้ในสภาพปางตายที่ข้างทาง ครั้งแรกปุโรหิต และหลังจากนั้นฟาริสีก็ผ่านมา แต่ทั้งคู่ก็หลีกเลี่ยงชายคนนั้น ในที่สุดชาวสะมาเรียคนหนึ่งก็ช่วยชายที่บาดเจ็บนั้น

หลังจากนั้นตามที่ได้อ่านในข้อพระคัมภีร์หลักของเรา พระเยซูตรัสกับทนายที่สงสัยนั้นว่า “ท่าน​จง​ไป​ทำ​เหมือน​อย่าง​นั้น” (ลูกา 10:37) กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือให้ทำสิ่งที่ชาวสะมาเรียทำ สิ่งนี้มีผลกับคุณอย่างไรในวันนี้? เอเฟซัส 5:1 บอกให้เราเลียนแบบพระเจ้าในเรื่องความรัก

ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าและอาณาจักรนิรันดร์ของพระองค์นั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ความรักของพระองค์ พระองค์ต้องการให้ทุกคนในโลกรู้ว่าพระองค์ทรงรักพวกเขามากขนาดไหน พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระ​เจ้า​ทรง​รัก​โลก​ดัง​นี้ คือ​ได้​ประทาน​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์” (ยอห์น 3:16) ความรักของพระองค์เป็นพื้นฐานสำหรับทุกสิ่ง และพระองค์ให้เกียรติเราในการสำแดงและประกาศความรักนั้นในทุกที่ เพราะว่าสิ่งนี้ได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (โรม 5:5)

จงทุ่มเทที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้รู้จักพระคริสต์และมีประสบการณ์กับความรักของพระองค์ จงให้ชีวิตของคุณพรรณาถึงภาพของพระองค์ตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่ชาวสะมาเรียทำ เขาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความรักของพระเจ้าและเราจะต้องทำเหมือนกัน

คำอธิษฐาน

พระบิดาผู้ล้ำค่า ขอบพระคุณสำหรับข้อความแห่งความรอดซึ่งข้าพระองค์ถูกทำให้เป็นความชอบธรรมของพระองค์ในพระเยซูคริสต์ และตอนนี้ข้าพระองค์ได้รับเกียรติในการมีความรับผิดชอบในการเผยแพร่ข่าวประเสริฐแห่งความรักของพระองค์นี้ต่อโลกของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ถูกบังคับจากภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อบอกถึงความรักของพระองค์และสำแดงให้เห็นถึงพระคุณของพระองค์เพื่อพระสิริและคำสรรเสริญของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 5:1-2; ยอห์น 13:34


 ดัง​นั้น พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย โดย​เห็น​แก่​ความ​เมต​ตา​กรุณา​ของ​พระ​เจ้า ข้าพ​เจ้า​จึง​วิง​วอน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ให้​ถวาย​ตัว​ของ​ท่าน​แด่​พระ​องค์ เพื่อ​เป็น​เครื่อง​บูชา​อัน​บริ​สุทธิ์​ที่​มี​ชีวิต และ​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​พระ​เจ้า ซึ่ง​เป็น​การ​นมัส​การ​โดย​วิญ​ญาณ​จิต​ของ​ท่าน (โรม 12:1)

บ่อยครั้งที่ผู้คนมีความปรารถนาที่ไม่สอดคล้องกับแผนการของพระเจ้า พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับน้ำพระทัยของพระเจ้า ดังนั้นพวกเขาจึงทำสิ่งที่พวกเขาเลือกโดยหวังว่าพระเจ้าจะยอมรับการกระทำของพวกเขา พวกเขาพยายามบังคับให้พระเจ้าทำตามความปรารถนาของพวกเขา แต่การทำแบบนี้จะไม่ได้ผล ถามว่า “ทำไมคุณถึงทำสิ่งเหล่านี้?” และพวกเขาจะบอกคุณว่า “ฉันอธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนี้” สิ่งเท่าที่พวกเขาคิดก็คือว่าพระเจ้าควรยอมรับการกระทำและทางเลือกของพวกเขาเนื่องจากพวกเขาได้ “อธิษฐาน” เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว นั่นเป็นเรื่องไร้ที่สาระ!

มีความแตกต่างระหว่างการทำบางสิ่งเพราะว่าคุณได้ “อธิษฐาน” เกี่ยวกับสิ่งนั้นแล้วและการทำบางสิ่งเพราะว่าพระเจ้าทรงพูดอย่างนั้น และนั่นคือน้ำพระทัยของพระองค์สำหรับคุณ วิธีหลังเป็นจุดที่ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด นั่นคือเป็นการทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณสำเร็จ อย่าพบว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่คุณคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากพระเจ้า แผนการ ความคิด หรือความปรารถนาที่อยู่ในหัวใจของคุณตลอดชีวิตของคุณไม่ได้หมายความว่ามาจากพระเจ้า

มีคนที่มีวิญญาณชั่วตั้งแต่เกิด บางคนได้รับวิญญาณชั่วในขณะที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ความอธรรม และการสำแดงออกของพวกวิญญาณชั่ว นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่บางคนเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความปรารถนาที่ผิดปกติซึ่งคงอยู่กับพวกเขาเป็นเวลาหลายปี และในที่สุดแล้วพวกเขาก็ลงมือทำ

แต่ตอนนี้คุณได้บังเกิดใหม่แล้ว พระเจ้าจึงคาดหวังให้คุณถวายร่างกายของคุณให้พระองค์เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต นอกจากนี้ความคิดของคุณต้องยอมจำนนต่อพระคำของพระองค์ นั่นคือหัวใจของคุณจะต้องถูกควบคุมโดยพระคำ นี่คือเหตุผลของการใคร่ครวญ การใคร่ครวญพระคำจะปกป้องความคิดของคุณในเรื่องของพระเจ้า ในทิศทางของแผนการและเป้าหมายของพระองค์สำหรับชีวิตของคุณ อย่ากระทำตามความปรารถนาทางเนื้อหนังของความคิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกและระบบของมัน จงจดจ่อกับพระคำอยู่เสมอ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

วิญญาณ จิตใจ และร่างกายของฉันนั้นเต็มไปด้วยพระเจ้า ฉันปลดปล่อยแนวความคิด ความคิด และความปรารถนาของพระองค์เท่านั้น พระองค์กำลังทำงานอยู่ในตัวฉันทั้งให้ปรารถนาและทำตามความพึงพอใจของพระองค์ ชีวิตของฉันคือการสำแดงออกของน้ำพระทัยและพระสิริของพระองค์ ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 12:1-2; สุภาษิต 3:5


 มี​ทูต​องค์​หนึ่ง​จาก​ฟ้า​สวรรค์​มา​ปรา​กฏ​ต่อ​พระ​องค์​และ​ช่วย​ชู​กำ​ลัง​พระ​องค์ (ลูกา 22:43)

หนึ่งในผลประโยชน์มากมายของการอธิษฐาน คือทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นจากความไม่เชื่อเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ความไม่เชื่อนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการไม่สำแดงความเชื่อออกมาในสิ่งที่คุณต้องการจากพระเจ้าเท่านั้น การไม่เชื่อยังรวมถึงการปฏิเสธที่จะทำตามที่พระเจ้าบอกว่าเราควรทำ ลองนึกภาพว่าคุณไม่มีความสุขกับบางสิ่ง และคุณต้องการทำบางอย่าง และพระวิญญาณตรัสว่า “ไม่จำเป็น จงปล่อยเรื่องนี้ไป” แต่คุณก็ยังไปทำตามที่คุณตัดสินใจ นั่นคือความไม่เชื่อ

ลองนึกถึงโมเสสในกันดารวิถี 20 พระเจ้าทรงสั่งให้เขาพูดกับหิน และน้ำจะออกมาจากหินเพื่อให้ชนชาติอิสราเอลดื่ม แต่เนื่องจากโมเสสโกรธประชาชน เขาจึง “ตีหิน” 2 ครั้งแทนที่จะ “พูด” กับหินนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงพอพระทัยและตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “…เพราะ​เจ้า​ไม่​ได้​เชื่อ​เรา​ที่​จะ​ถวาย​ความ​ศักดิ์​สิทธิ์​แก่​เรา​ต่อ​หน้า​คน​อิส​รา​เอล เพราะ​ฉะนั้น​เจ้า​จะ​ไม่​ได้​นำ​คน​ในที่​ประ​ชุม​นี้​เข้า​ไป​ใน​แผ่น​ดิน​ที่​เรา​ได้​ให้​แก่​พวก​เขา” (กันดารวิถี 20:12) พระเจ้าตรัสว่าการไม่เชื่อฟังของโมเสสเป็นผลมาจากความไม่เชื่อ

บางทีถ้าเขาทำตามที่พระเจ้าสั่ง เขาก็จะได้รับการรักษาให้หายจากความโกรธและความไม่พอใจประชาชน นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งของการอธิษฐาน ในสถานที่แห่งการอธิษฐาน คุณควรละทิ้งการระลึกถึงทุกสิ่งและทุกคน สิ่งที่บางคนพูดหรือทำต่อคุณซึ่งคุณไม่ชอบ เมื่อคุณอยู่ในการอธิษฐาน คุณละทิ้งความขุ่นข้องใจและสามัคคีธรรมอย่างถ่อมใจในการทรงสถิตของพระเจ้า วิญญาณของคุณสงบจากการรบกวนหรือสิ่งที่ทำให้วอกแวก ในขณะนั้นคุณสามารถยอมจำนนต่อความรักและทิศทางของพระองค์

ถึงแม้ว่าคุณจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณต้องการบอกพระองค์ บางครั้งพระองค์ก็ขัดจังหวะคุณ พระองค์เริ่มพูดก่อนที่คุณจะพูด ทันใดนั้นความสงสัย ความโกรธ และความหงุดหงิดทั้งหมดก็จะหายไป และคุณก็เข้มแข็งขึ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกับพระเยซูในขณะที่พระองค์อธิษฐานในช่วงเวลาแห่งความปวดร้าว พระคัมภีร์กล่าวว่า “…มี​ทูต​องค์​หนึ่ง​จาก​ฟ้า​สวรรค์​มา​ปรา​กฏ​ต่อ​พระ​องค์​และ​ช่วย​ชู​กำ​ลัง​พระ​องค์” ในสถานที่แห่งการอธิษฐาน พระองค์ได้รับกำลังเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระบิดา

ดังนั้นจงอธิษฐานให้มากขึ้นโดยเฉพาะในวันวาระสุดท้ายนี้ ยิ่งคุณอธิษฐานบ่อยขึ้นเท่าไร คุณก็ยิ่งได้รับการยกชูขึ้นโดยความคิด (วิถีทาง ยุทธวิถี และทิศทางของพระองค์) ของพระวิญญาณบ่อยขึ้นเท่านั้น ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับสันติสุขของพระองค์ซึ่งปกป้องหัวใจและความคิดของข้าพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับโอกาสในการสามัคคีธรรมกับพระองค์ในการอธิษฐานและได้รับการเสริมกำลังเพื่อที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระองค์และดำเนินชีวิตเพื่อพระสิริของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:ฟีลิปปี 2:13; โรม 8:2627