พระ​เจ้า​ทรง​ประ​สงค์​ที่​จะ​ให้​พวก​เขา​รู้​ว่า ความ​ล้ำ​ลึก​นี้​มี​ศักดิ์​ศรี​อุดม​เพียง​ไร​ใน​หมู่​คน​ต่าง​ชาติ นั่น​คือ​พระ​คริสต์​สถิต​ใน​พวก​ท่าน อัน​เป็น​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​รับ​ศักดิ์​ศรี (โคโลสี 1:27)

บางคนคร่ำครวญว่าพวกเขาได้ทำทุกสิ่งที่พวกเขารู้ แต่ชีวิตของพวกเขาก็ยังคงแตกต่างจากความเป็นจริงแห่งพระคำของพระเจ้า พวกเขาถามคำถามทำนองนี้ว่า “ฉันควรจะทำอะไรมากกว่านี้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ?” “ฉันควรทำอะไรมากกว่านี้เพื่อให้ได้รับการรักษาโรค?” พวกเขาเผชิญหน้ากับคำถามเหล่านี้และคำถามอื่นๆ ในชีวิตที่พวกเขาแสวงหาคำตอบ

ตอนนี้ฉันมีบางอย่างที่จะบอกคุณเกี่ยวกับสิ่งนี้และมันสำคัญมาก นั่นคือวันหนึ่งฉันกำลังมีสามัคคีธรรมที่ยอดเยี่ยมกับองค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับสิ่งอัศจรรย์ที่ผู้เผยพระวจนะได้ทำในพันธสัญญาเดิมและความสามารถที่น่าอัศจรรย์นี้ที่พระองค์ได้ทรงประทานให้แก่ลูก ๆ ของพระองค์ ขณะที่ฉันไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้ในขณะที่มองผ่านพระคัมภีร์ ฉันใคร่ครวญว่า “พระเจ้าต้องการอะไร? แผนการของพระองค์ คือ อะไร? ถ้าเราจะทูลขอสิ่งใดจากพระองค์ เราควรทูลขออะไร?”

หลังจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับฉันว่า “สิ่งใดๆก็ตามที่เจ้าปรารถนาก็ไม่มีสิ่งใดเปรียบเทียบได้กับ “สิ่งเดียวที่จำเป็น” ซึ่งเจ้ามีอยู่แล้ว นั่นคือพระคริสต์ในตัวเจ้า!” พระคริสต์ในตัวคุณครอบคลุมทุกอย่าง นั่นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราได้รับจากพระเจ้า การรับรู้และการยอมรับในความจริงข้อนี้ของคุณจะหยุดความหิวโหยและความปรารถนาในสิ่งอื่นใดของคุณ คุณจะพบว่ามันเป็นสิ่งที่โง่เขลาในการขอสิ่งอื่นใดจากพระเจ้า

ถ้าคุณเพียงแต่ยอมรับว่าพระคริสต์ได้ทรงเลือกที่อยู่อาศัยของพระองค์ในหัวใจของคุณ นั่นก็จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ ทุกสิ่งที่พระองค์ประทานให้นั้นอยู่ในพระองค์ ทุกสิ่งที่พระองค์เป็นอยู่ในพระองค์ จงระลึกว่าความบริบูรณ์ของพระเจ้า ความสมบูรณ์ทั้งสิ้นของพระเจ้า สถิตอยู่ในร่างกายของพระเยซูคริสต์ และเราก็สมบูรณ์ในพระองค์ ถ้านั่นเป็นจริง แล้วคุณยังต้องการอะไรอีก?

นั่นเป็นสาเหตุที่เปาโลกล่าวว่า “ทุก​สิ่ง​นั้น​ล้วนเป็น​ของ​ท่าน” (1 โครินธ์ 3:21-22) เมื่อคุณมีการตระหนักรู้นี้ โลกนี้จะกลายเป็นสิ่งที่เล็กสำหรับคุณ ความกล้าหาญของคุณแข็งแกร่งขึ้นมาก คุณจะไม่กลัวอนาคต ไม่กลัวความมืด ความล้มเหลว หรือการขาดแคลน เพราะว่าในพระองค์ คุณมีและคุณเอาชนะทุกสิ่งแล้ว คุณเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิต สาธุการแด่พระนามของพระองค์ตลอดไป!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ทุกสิ่งเป็นของฉัน ฉันมีชีวิตที่มีสุขภาพดี เจริญรุ่งเรือง มีชีวิตชีวา และประสบความสำเร็จ เพราะว่าพระคริสต์ได้ทรงเลือกที่อยู่อาศัยของพระองค์ในหัวใจของฉัน ฉันไม่มีสิ่งใดต้องกลัว ไม่กลัวอนาคต ไม่กลัวความมืด ไม่กลัวความล้มเหลว เพราะว่าพระคริสต์ในฉันเป็นหลักประกันของชีวิตแห่งชัยชนะอย่างต่อเนื่องและพระสิรินิรันดร์ สรรเสริญพระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:1 โครินธ์ 6:17; กาลาเทีย 3:27; โคโลสี 2:9-10


ข้าพ​เจ้า​ทราบ​ว่า​สาร​พัด​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​กระ​ทำ​ก็​ดำรง​อยู่​เป็น​นิตย์ (ปัญญาจารย์ 3:14)

พระคำของพระเจ้าสามารถนำไปใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิต สติปัญญาในนั้นคือสิ่งที่ครอบคลุมทุกอย่าง 2 ทิโมธี 3:15 กล่าวว่าพระคัมภีร์สามารถทำให้คุณฉลาดได้ นั่นคือฉลาดต่อความรอดซึ่งเป็นเหตุให้พระสิริของพระเจ้าถูกเปิดเผยในตัวคุณ ยิ่งคุณศึกษาพระคัมภีร์มากเท่าไร ความคิดของคุณก็ยิ่งละเอียดและแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น นั่นคือความคิดสำหรับความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม ความสมบูรณ์แบบ กลยุทธ์ สุขภาพ และความเจริญรุ่งเรือง

นี่คือสิ่งที่ชาวยิวจำนวนมากในอิสราเอลเข้าใจและฉวยโอกาส พวกเขาใช้ความคิดของพวกเขาสำหรับงานศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรือแม้แต่การทหารจากพระคัมภีร์ พวกเขาเข้าใจว่าความคิดที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้านั้นไม่มีทางผิดพลาด ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะอย่างน่าอัศจรรย์และความเจริญรุ่งเรือง

ความคิดที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าของคุณจะอยู่รอดและเอาชนะอุปสรรคและระบบทั้งหมดของโลกนี้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดความผิดพลาดในระบบเศรษฐกิจ คุณก็จะก้าวหน้าต่อไป เพราะว่าคุณดำเนินการจากมิติที่สูงกว่า ความคิดและกลยุทธ์ของคุณมาจากสติปัญญาของพระวิญญาณผ่านทางพระคำ สาธุการแด่พระเจ้า!

ลองคิดดูว่าใครจะคิดว่าดาวิดจะเอาชนะโกลิอัท ผู้ซึ่งเป็นยักษ์แห่งเมืองกัท แชมเปี้ยนของคนฟิลิสเตีย ด้วยก้อนหินและสายสลิงได้? ใครจะสามารถอธิบายได้ว่าอิสอัคขุดและพบน้ำในที่แห้งแล้งที่คนอื่นๆ ละทิ้งไปได้อย่างไร? เขาทำตามความหยั่งรู้ของพระเจ้าซึ่งมาถึงเขาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

เขากำลังจะย้ายที่อยู่เนื่องจากภัยแล้ง แต่พระเจ้าตรัสว่า “จงอยู่ในดินแดนนี้และเราจะทำให้เจ้าเจริญรุ่งเรือง” แผ่นดินเดียวกันกับที่เกิดการกันดารอาหาร เขาก็เพียงแต่ทำตามที่พระเจ้าบอกให้เขาทำ และพระคัมภีร์บอกว่าเขา “ก็​ร่ำ​รวย​และ​มั่ง​มี​ขึ้น​เรื่อยๆ จน​ท่าน​เป็น​คน​มั่งคั่ง” (ปฐมกาล 26:13) อย่าปฏิบัติตามหลักการและความคิดของโลกเพื่อความสำเร็จ จงเปิดหัวใจของคุณต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระคำของพระองค์เพื่อสติปัญญาและความคิดที่ถูกต้องที่คุณจำเป็นต้องมีเพื่อชีวิตแห่งพระสิริ ความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างที่ฉันต้องการเพื่อความสำเร็จในขั้นต่อไป ฉันมีความเข้าใจเป็นพิเศษ ฉันเต็มไปด้วยสติปัญญาของพระวิญญาณผ่านทางพระคำซึ่งทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นในชีวิตของฉันและในชีวิตของผู้อื่น ฉันเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นและทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าความคิดของฉันได้รับการเจิมเพื่อความคิดพิเศษเพื่อความสำเร็จ ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:สุภาษิต 2:6; เอเฟซัส 1:17-18; อิสยาห์ 30:21


จงก้มลงและเข้าหาผู้ที่ถูกกดขี่ จงแบ่งเบาภาระของพวกเขาและทำพระบัญญัติของพระคริสต์ให้ครบถ้วน (กาลาเทีย 6:2 ฉลับ MSG)

หลายปีขณะที่เป็นวัยรุ่น ฉันร้องไห้อย่างหนักในคำอธิษฐาน เพราะว่ามีหลายคนในโลกที่ไม่รู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า นั่นคือการทุกข์ยากของมนุษยชาติในฐานะคนบาป คนป่วย และคนขัดสน ฉันสัมผัสถึงภาระและคิดว่าความรับผิดชอบที่จะต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความเจ็บปวดของผู้คนที่แตกสลายไปทั่วโลกนั้นอยู่ที่ฉัน ฉันตื่นนอนตั้งแต่ตอนกลางคืนเพื่อขึ้นมาอธิษฐานด้วยน้ำตาเนื่องจากคนขัดสน คนยากจนและคนที่ทุกข์ยาก

นั่นทำให้ฉันไปตามบ้านต่างๆโรงพยาบาลโรงเรียนและหมู่บ้านเพื่อประกาศข่าวประเสริฐ และฉันยังคงทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ อย่าปิดใจของคุณต่อความทุกข์ยากของมนุษยชาติ มีคนจำนวนมากที่ทนทุกข์อย่างมากมาย การทนทุกข์ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนที่ตกงานเท่านั้น แล้วผลที่เกิดขึ้นกับลูกๆ ของเขาที่อาจไม่สามารถเรียนหนังสือต่อไปได้ล่ะ? ลองคิดถึงเด็กเล็กๆที่อาจสูญเสียทั้งพ่อและแม่ ชีวิตของพวกเขาจะย่ำแย่ขนาดไหน อนาคตของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่มืดมน

หลายครอบครัวกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะว่าคนที่รักป่วยหรือเสียชีวิต ทั้งหมดนี้ควรได้รับความสนใจจากคุณเพื่อการอธิษฐานและเพิ่มความทุ่มเทและความเร็วในการเผยแพร่ข่าวประเสริฐ ถ้าเราช่วยคนให้รอดได้มากขึ้นก็จะมีความเจ็บปวดน้อยลง อย่ากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณมากเกินไปจนคุณลืมสิ่งที่คนอื่นกำลังเผชิญอยู่

พระพรของคุณอยู่ในการอวยพรคนอื่น คุณถูกยกขึ้นเมื่อคุณยกคนอื่นขึ้น ดังนั้นจงสำรวจทุกวิธีที่เป็นไปได้และคิดค้นวิธีใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงคนที่ทนทุกข์และเจ็บปวด อย่าเพิกเฉยต่อเสียงร้องของพวกเขา

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับการงานแห่งความรอดที่ยอดเยี่ยม ขอบพระคุณสำหรับข่าวประเสริฐที่เปี่ยมด้วยพระสิริของพระคริสต์ซึ่งเปิดเผยชีวิตและสภาพอมตะ ข้าพระองค์มุ่งมั่นในการเผยแพร่สิ่งนี้ไปทั่วโลก และนำคนจำนวนมากออกมาจากความบาป ความยากจน และความทุกข์ยากไปสู่ชีวิตที่เปี่ยมด้วยพระสิริในพระคริสต์ พระคำของพระองค์กำลังเติบโตขึ้นและแพร่หลายในหมู่ประชาชาติของโลก ด้วยการนำชายและหญิงเข้าสู่มรดกของพวกเขาในพระคริสต์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:กาลาเทีย 6:10; 1 ยอห์น 3:17; โรม 15:1


เพราะ​เขา​จะ​ได้​ประ​โยชน์​อะไร​ถ้า​ได้​สิ่ง​ของ​สิ้น​ทั้ง​โลก แต่​ต้อง​เสีย​ชีวิต​ของ​ตน คน​นั้น​จะ​เอา​อะไร​ไป​แลก​ชีวิต​ของ​ตน​กลับ​คืน​มา? (มาระโก 8:36-37)

ตลอดประวัติศาสตร์มีผู้นำที่มีชื่อเสียงหลายร้อยคนที่ปราบผู้อื่นได้ โลกทั้งใบอยู่ภายใต้พวกเขา พวกเขามีทุกสิ่งภายใต้ความเป็นเผด็จการของพวกเขา บางคนได้รับการเคารพนับถือและถูกคนอื่นยกย่องว่าเป็นพระเจ้า แต่พระเยซูตรัสว่า “เพราะเขาจะได้ประโยชน์อะไรถ้าได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน? คนนั้นจะเอาอะไรไปแลกชีวิตของตนกลับคืนมา?” (มาระโก 8:36-37)

อย่าภาคภูมิใจในความสามารถของคุณในการปราบหรือควบคุมผู้อื่นได้ แต่จงเรียนรู้ที่จะใช้สิทธิอำนาจเหนือตัวของคุณเอง จงพิชิตตัวเอง! นั่นคือเวลาที่คุณชนะอย่างแท้จริงเมื่อคุณพูดกับตัวเองว่า “ฉันกำลังจะทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและพูดในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น” และทำแบบนั้น

เมื่อคำพูดและการกระทำของคุณอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ นั่นคือตั้งใจยอมจำนนต่อพระคำของพระเจ้า คุณก็พร้อมสำหรับความสำเร็จที่แท้จริง เมื่อคุณบอกตัวเองว่า “จะไม่มีสิ่งใดที่สกปรกออกมาจากตัวฉัน” และตั้งใจมีวิถีชีวิตแบบนั้นผ่านทางพระคำ นั่นคือหนทางแห่งชัยชนะ

จงปฏิเสธที่จะให้ช่องทางหรือการแสดงออกต่อการสำแดงออกของมาร เช่น ความโกรธ ความเกลียดชัง ความขมขื่น ความหึงหวง และความริษยา แต่ให้แน่ใจว่าทุกคนรอบตัวคุณจะเห็นและมีประสบการณ์กับพระพร พระคุณ และความเห็นอกเห็นใจของพระเยซูเท่านั้น จงตัดสินใจเลือกว่ามีเพียงแค่ความรักและการงานแห่งความชอบธรรมเท่านั้นที่จะไหลออกจากตัวคุณไปสู่โลกของคุณ

คำอธิษฐาน

สรรเสริญพระบิดา ขอบพระคุณสำหรับพระพรและสิทธิพิเศษที่ได้รับพระคำของพระองค์ ความคิดของข้าพระองค์คงอยู่ที่พระคำของพระองค์ พระวิญญาณแห่งความเป็นเลิศกำลังทำงานอยู่ในข้าพระองค์เพื่อนำวินัยและความมั่นคงเข้ามาสู่ชีวิตของข้าพระองค์เพื่อผลิตผลแห่งความชอบธรรมและสำแดงความรักของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 โครินธ์ 9:25-27; สุภาษิต 25:28; สุภาษิต 16:32


เพราะ​ว่า​เนื้อ​ของ​เรา​เป็น​อาหาร​แท้ และ​โล​หิต​ของ​เรา​ก็​เป็น​เครื่อง​ดื่ม​แท้ (ยอห์น 6:55 ฉบับ NKJV)

มีบางคนที่ยังคงร้องขอต่อพระเจ้าเพื่อให้เติมพวกเขาอย่างสดใหม่เพื่อตอบสนองต่อความกระหายและความหิวฝ่ายวิญญาณ มันเป็นการร้องขอที่ไร้เหตุผลและไม่เกิดผลใดๆเลย พระองค์รู้ว่าเราหิวและพระองค์ได้ส่งอาหารจากสวรรค์มา ทุกวันนี้คริสเตียนที่ขอและร้องขอให้พระเจ้าเติมให้เต็มกำลังเสียเวลา

เมื่อพระเยซูตรัสว่า “คน​ที่​หิว​และ​กระ​หาย​ความ​ชอบ​ธรรมก็​เป็น​สุข เพราะ​ว่า​พระเจ้า​จะ​ทรง​ให้​อิ่ม” (มัทธิว 5:6) พระองค์แค่กำลังแนะนำข่าวสารที่พระองค์นำมาถึงชาวยิวเท่านั้น พันธสัญญาใหม่ยังไม่ได้เริ่ม พระองค์ไม่ได้กำลังพูดกับคริสเตียน ซึ่งเป็นคนที่ถูกสร้างใหม่

ใน ยอห์น 6:35 พระองค์ตรัสว่า “เรา​เป็น​อาหาร​แห่ง​ชีวิต คน​ที่​มา​หา​เรา​จะ​ไม่​หิว และ​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​เรา​จะ​ไม่​กระ​หาย​อีก​เลย” อาหารนั้นมีให้สำหรับทุกคนที่มาหาพระองค์ คำถามคือคุณมาหาพระองค์หรือยัง? ถ้าคุณบังเกิดใหม่แล้ว ก็คือใช่เลย! คุณอยู่ในพระองค์ผ่านทางการบังเกิดใหม่ แล้วทำไมคุณจึงยังหิวอยู่? อาหารนั้นได้มาแล้ว พระเยซู คือ อาหารจากสวรรค์ (ยอห์น 6:41)

นอกจากนี้จากข้อพระคัมภีร์หลักของเรา เราอ่านพบว่าพระคำของพระองค์เป็นอาหาร เพราะว่าพระเยซูและพระคำของพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน ยอห์น 1:14 กล่าวว่า “พระ​วาทะ​ทรง​เกิด​เป็น​มนุษย์​และ​ทรง​อยู่​ท่าม​กลาง​เรา…” ดังนั้นถ้าคุณกำลังประสบกับความหิวฝ่ายวิญญาณ คุณควรทำอย่างไร? คุณจะได้รับการเติมได้อย่างไร? “กิน” พระคำ นั่นคืออยู่ภายใต้พันธกิจแห่งพระคำของพระเจ้า แม้ตอนนี้ขณะที่พระคำของพระเจ้ากำลังมาหาคุณผ่านทางการเฝ้าเดี่ยว คุณก็กำลังถูกป้อน นั่นคือคุณกำลังได้รับการบำรุงเลี้ยงฝ่ายวิญญาณ

พระคัมภีร์กล่าวว่า “มนุษย์​จะ​ดำรง​ชีวิต​ด้วย​อาหาร​เพียง​อย่าง​เดียว​ไม่​ได้ แต่​ต้อง​ดำรง​ชีวิต​ด้วย​พระ​วจนะ​ทุก​คำ ซึ่ง​ออก​มา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​เจ้า” ​(มัทธิว 4:4) เมื่อใดก็ตามที่คุณหิว แทนที่จะร้องเพลงและร้องขอว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์หิว” จงศึกษาพระคัมภีร์ เพราะว่ามีเพียงพระคำของพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถตอบสนองต่อความหิวของคุณได้ ตอนนี้คุณสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมผู้เผยพระวจนะจึงพูดว่า “เมื่อ​พบ​พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​แล้ว ข้า​พระ​องค์​ก็​กิน​เสีย พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​เป็น​ความ​ชื่น​บาน​แก่​ข้า​พระ​องค์ และ​เป็น​ความ​ปีติ​ยินดี​แห่ง​จิต​ใจ​ของ​ข้า​พระ​องค์ ข้า​แต่​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้า​จอม​ทัพ เพราะ​ว่า​เขา​เรียก​ข้า​พระ​องค์​ตาม​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์” (เยเรมีย์ 15:16)

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ความหิวโหยของฉันได้รับการดับผ่านทางพระคำของพระคริสต์ซึ่งอาศัยอยู่ในฉันอย่างล้นเหลือในสติปัญญาและความเข้าใจฝ่ายวิญญาณทุกอย่าง ชีวิตของฉันนั้นขึ้นไปข้างบนและก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น ฉันเกิดผลในการดีทุกอย่างในขณะที่ฉันเพิ่มพูนในความรู้ของพระเจ้า ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:ยอห์น 6:35; กิจการ 20:32; 1 เปโตร 2:2; มาระโก 4:4