วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2020

ตัวแทนของเราในความตายและการเป็นขึ้นมาจากความตาย
Our Substitute In Death And Resurrection

แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้น ตกแก่ท่าน… (อิสยาห์ 53:5)

พระเยซูเจ้าทรงทนทุกข์และทนต่อความเจ็บปวดและความอับอายบนไม้กางเขน ไม่ใช่เพราะความผิดบาปของพระองค์หรือเพื่อพระองค์เอง แต่เพื่อเรา พระองค์เข้ามาแทนที่เราและแบกรับการลงโทษของความบาปแทนเรา ขณะที่อยู่บนไม้กางเขน แบกรับภาระความบาปของเรา พระองค์ร้องออกมาด้วยความปวดร้าวว่า “…พระ​เจ้า​ของ​ข้า​พระ​องค์ ​พระ​เจ้า​ของ​ข้า​พระ​องค์ ไฉน​ทรง​ทอดทิ้ง​ข้า​พระ​องค์​เสีย?” (มาระโก 15:34)

พระเจ้าทรงหันหลังให้กับพระเยซูเนื่องจากความบาปของเราได้ถูกวางไว้บนพระองค์ ฮาบากุก 1:13 บอกเราว่าพระเจ้าบริสุทธิ์และไม่มองความชั่วร้าย การแยกออกจากพระบิดาเนื่องจากความผิดบาปของเราคือสิ่งที่พระเยซูไม่เคยต้องการ ซึ่งพระองค์ทรงอธิษฐานในสวนเกทเสมนีว่า พระ​บิดา​เจ้า​ข้า ถ้า​พระ​องค์​พอ​พระ​ทัย ขอ​ให้​ถ้วย​นี้​เลื่อน​พ้น​ไป​จาก​ข้า​พระ​องค์​เถิด แต่​อย่างไร​ก็​ดี​อย่า​ให้​เป็นไป​ตามใจ​ข้า​พระ​องค์ แต่​ให้​เป็นไป​ตาม​พระ​ทัย​ของ​พระ​องค์​เถิด

น้ำพระทัยของพระบิดาได้รับชัยนะ นั่นคือพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและเสด็จลงไปในนรก พระองค์รู้สึกเศร้าใจ หลังจากที่ได้รับการลงโทษที่จำเป็นแล้ว พระคัมภีร์กล่าวว่า​​พระ​วิญญาณ​ได้​ทรง​พิสูจน์​แล้วว่าพระองค์ชอบธรรม (1 ทิโมธี 3:16) และถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์ได้ถูกทำให้เป็นขึ้นมา​จาก​ความ​ตายเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม​ “ผู้​ทรง​ถูก​อายัด​ไว้​เพราะ​การ​ล่วง​ละเมิด​ของ​เรา และ​ได้ถูกทำให้เป็นขึ้นมา​จาก​ความ​ตาย เพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม​” (โรม 4:25)

การได้รับการพิสูจน์ว่าชอบธรรมหมายถึงการพ้นผิด นั่นคือได้รับการป่าวประกาศว่าชอบธรรม พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของเราในความตายเช่นเดียวกับการเป็นตัวแทนของเราในการเป็นขึ้นมาจากความตาย เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ คุณก็สิ้นชีวิตร่วมกับพระองค์ เมื่อพระองค์ถูกฝัง คุณก็ถูกฝังไว้กับพระองค์ เมื่อพระเจ้าทรงทำให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย คุณก็เป็นขึ้นมาจากคามตายร่วมกับพระองค์ในชีวิตใหม่ด้วย! ตอนนี้คุณปราศจากความบาป ซึ่งมีเสรีภาพอย่างสมบูรณ์เพื่อที่จะรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าและดำเนินชีวิตเพื่อพระองค์ในพระสิริและความชอบธรรม คุณไม่เพียงแค่ชอบธรรม แต่ยังเป็นความชอบธรรมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ ช่างเป็นความจริงที่ดีจริงๆ!

คำอธิษฐาน

พระคำของพระเจ้าเป็นความสว่างแห่งชีวิตของข้าพระองค์ และโดยพระคำนั้นข้าพระองค์เห็นและยึดความชอบธรรมและมรดกของข้าพระองค์ในพระคริสต์ไว้ด้วยการเดินในความบริสุทธิ์และสำแดงพระสิริของพระเจ้าในทุกที่ ตอนนี้ข้าพระองค์ยืนอยู่อย่างชอบธรรมตลอดกาลในการทรงสถิตของพระเจ้าด้วยการมีอำนาจเหนือความบาปและสถานการณ์ต่างๆ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 5:8; 2 โครินธ์ 5:21


วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2020

ตัวแทนของเราในความตายและการเป็นขึ้นมาจากความตาย
Our Substitute In Death And Resurrection

แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้น ตกแก่ท่าน… (อิสยาห์ 53:5)

พระเยซูเจ้าทรงทนทุกข์และทนต่อความเจ็บปวดและความอับอายบนไม้กางเขน ไม่ใช่เพราะความผิดบาปของพระองค์หรือเพื่อพระองค์เอง แต่เพื่อเรา พระองค์เข้ามาแทนที่เราและแบกรับการลงโทษของความบาปแทนเรา ขณะที่อยู่บนไม้กางเขน แบกรับภาระความบาปของเรา พระองค์ร้องออกมาด้วยความปวดร้าวว่า “…พระ​เจ้า​ของ​ข้า​พระ​องค์ ​พระ​เจ้า​ของ​ข้า​พระ​องค์ ไฉน​ทรง​ทอดทิ้ง​ข้า​พระ​องค์​เสีย?” (มาระโก 15:34)

พระเจ้าทรงหันหลังให้กับพระเยซูเนื่องจากความบาปของเราได้ถูกวางไว้บนพระองค์ ฮาบากุก 1:13 บอกเราว่าพระเจ้าบริสุทธิ์และไม่มองความชั่วร้าย การแยกออกจากพระบิดาเนื่องจากความผิดบาปของเราคือสิ่งที่พระเยซูไม่เคยต้องการ ซึ่งพระองค์ทรงอธิษฐานในสวนเกทเสมนีว่า พระ​บิดา​เจ้า​ข้า ถ้า​พระ​องค์​พอ​พระ​ทัย ขอ​ให้​ถ้วย​นี้​เลื่อน​พ้น​ไป​จาก​ข้า​พระ​องค์​เถิด แต่​อย่างไร​ก็​ดี​อย่า​ให้​เป็นไป​ตามใจ​ข้า​พระ​องค์ แต่​ให้​เป็นไป​ตาม​พระ​ทัย​ของ​พระ​องค์​เถิด

น้ำพระทัยของพระบิดาได้รับชัยนะ นั่นคือพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและเสด็จลงไปในนรก พระองค์รู้สึกเศร้าใจ หลังจากที่ได้รับการลงโทษที่จำเป็นแล้ว พระคัมภีร์กล่าวว่า​​พระ​วิญญาณ​ได้​ทรง​พิสูจน์​แล้วว่าพระองค์ชอบธรรม (1 ทิโมธี 3:16) และถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์ได้ถูกทำให้เป็นขึ้นมา​จาก​ความ​ตายเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม​ “ผู้​ทรง​ถูก​อายัด​ไว้​เพราะ​การ​ล่วง​ละเมิด​ของ​เรา และ​ได้ถูกทำให้เป็นขึ้นมา​จาก​ความ​ตาย เพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม​” (โรม 4:25)

การได้รับการพิสูจน์ว่าชอบธรรมหมายถึงการพ้นผิด นั่นคือได้รับการป่าวประกาศว่าชอบธรรม พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของเราในความตายเช่นเดียวกับการเป็นตัวแทนของเราในการเป็นขึ้นมาจากความตาย เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ คุณก็สิ้นชีวิตร่วมกับพระองค์ เมื่อพระองค์ถูกฝัง คุณก็ถูกฝังไว้กับพระองค์ เมื่อพระเจ้าทรงทำให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย คุณก็เป็นขึ้นมาจากคามตายร่วมกับพระองค์ในชีวิตใหม่ด้วย! ตอนนี้คุณปราศจากความบาป ซึ่งมีเสรีภาพอย่างสมบูรณ์เพื่อที่จะรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าและดำเนินชีวิตเพื่อพระองค์ในพระสิริและความชอบธรรม คุณไม่เพียงแค่ชอบธรรม แต่ยังเป็นความชอบธรรมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ ช่างเป็นความจริงที่ดีจริงๆ!

คำอธิษฐาน

พระคำของพระเจ้าเป็นความสว่างแห่งชีวิตของข้าพระองค์ และโดยพระคำนั้นข้าพระองค์เห็นและยึดความชอบธรรมและมรดกของข้าพระองค์ในพระคริสต์ไว้ด้วยการเดินในความบริสุทธิ์และสำแดงพระสิริของพระเจ้าในทุกที่ ตอนนี้ข้าพระองค์ยืนอยู่อย่างชอบธรรมตลอดกาลในการทรงสถิตของพระเจ้าด้วยการมีอำนาจเหนือความบาปและสถานการณ์ต่างๆ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 5:8; 2 โครินธ์ 5:21


วันเสาร์ที่ 11 เมษายน 2020

เขียนพระคำในหัวใจของคุณ
Writing The Word In Your Heart

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองพลับพลึง มัสคิลบทหนึ่งของตระกูลโคราห์ บทเพลงรัก จิตใจข้าพเจ้าล้นไหลด้วยแนวคิดดีข้าพเจ้าเล่าบทประพันธ์ของข้าพเจ้าถวายพระราชา ลิ้นของข้าพเจ้าเหมือนปากไก่ของอาลักษณ์ที่ชำนาญ (สดุดี 45:1)

ในฐานะนักเรียนในโรงเรียนเมื่อคุณได้รับการสอน ครูจะให้คู่มือหรือคุณจดบันทึกขณะที่พวกเขากำลังบรรยายอยู่ เมื่อคุณออกจากชั้นเรียน คุณก็กลับไปศึกษาเพิ่มเติมในหัวข้อนั้นและ0Fบันทึกเพิ่มเติม และด้วยเหตุนี้คุณจึงมีความรู้ดีกว่าสิ่งที่สอนในชั้นเรียน ด้วยวิธีนี้คุณจึงทำสอบได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้ไปค้นคว้า ศึกษาเพิ่มเติมและจดบันทึกของเขาเอง

ตัวอย่างนี้ช่วยให้คุณเข้าใจสิ่งที่เราจะศึกษาในวันนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเริ่มศึกษาในครั้งที่แล้ว เราเรียนรู้ว่าพระคำถูกเขียนขึ้นในหัวใจของคุณ แต่สิ่งที่คุณเขียนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ดังนั้นคุณจะเขียนสิ่งนี้อย่างไร? ข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเราให้คำตอบแก่เรา ซึ่งบอกว่า จิตใจข้าพเจ้าล้นไหลด้วยแนวคิดดี ข้าพเจ้าเล่าบทประพันธ์ของข้าพเจ้าถวายพระราชา ลิ้นของข้าพเจ้าเหมือนปากไก่ของอาลักษณ์ที่ชำนาญ ดังนั้นคุณจะเขียนบางอย่างในหัวใจของคุณได้อย่างไร? ด้วยลิ้นของคุณ คุณเขียนในหัวใจด้วยลิ้นของคุณ

นี่คือเหตุผลของการใคร่ครวญพระคำ การใคร่ครวญมี 3 ระดับ นั่นคือ คุณไตร่ตรอง คุณพึมพำ และคุณแผดเสียง ดังนั้นคุณคิดผ่านทางพระคำ พึมพำหรือพูดอย่างแผ่วเบา แล้วต่อมาคุณก็ส่งเสียงออกมา เมื่อมันออกมาจากปากของคุณอย่างกล้าหาญ คุณกำลังเขียนลงบนหัวใจของคุณบนแผ่นดวงใจของคุณ ถ้าคุณไม่ได้เขียนไว้ในหัวใจ คุณจะไม่มีเมื่อคุณต้องการ ดังนั้นจงเขียนพระคำไว้ในหัวใจด้วยลิ้นของคุณโดยการกล่าวยืนยัน

ลิ้นของคุณเป็นปากกาของนักเขียนที่มีความชำนาญ ในขณะที่คุณศึกษาหรือฟังพระคำ คุณจะพบว่าหัวใจของคุณล้นไหลไปด้วยองค์ประกอบนี้ ขณะที่คุณพูดพระคำออกมา พระคำนั้นจะได้รับการใส่กรอบไว้ในหัวใจของคุณ

การเขียนลงในบันทึกของคุณนั้นใช้หมึก แต่เขาต้องการเขียนไว้บนแผ่นดวงใจที่เป็นเนื้อของคุณ จงอ่านสิ่งนี้ ซึ่งเขียนไว้ว่า “​เขียน​ไว้​มิใช่​ด้วย​น้ำ​หมึก แต่​ด้วย​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์ บน​แผ่น​ดวงใจ​มนุษย์” ฮาเลลูยา! เมื่อคุณมีสิ่งนี้อยู่ภายใน คุณจะนำสิ่งที่ดีออกมาจากความอุดมสมบูรณ์นั้น

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

พระคำของพระเจ้าอยู่ในหัวใจของฉันและในปากของฉัน ผลิตผลแห่งความชอบธรรม ขณะที่ฉันใคร่ครวญพระคำ พระคำก็ผสมผสานกับวิญญาณของฉันทำให้ฉันเดินไปในความสำเร็จ ชัยชนะ ความเจริญรุ่งเรือง สันติสุข และความชื่นชมยินดีตลอดไป อาเมน!

ศึกษาเพิ่มเติม:โยชูวา 1:8; ฮีบรู 13:5-6


วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2020

คุณต้อง เขียน”…
You’ve Got To “Write…”

“[ไม่] ตัวคุณเองคือจดหมายรับรองของเรา (หนังสือรับรองของเรา) ที่เขียนในหัวใจของคุณ ให้เป็นที่รู้จัก (รับรู้ ตระหนัก) และอ่านโดยทุกคนท่านปรากฏและสำแดงอย่างชัดเจนว่าเป็นจดหมายจากพระคริสต์ซึ่งถูกส่งโดยเรามิใช่เขียนไว้ด้วยน้ำหมึก แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และมิได้เขียนไว้ที่แผ่นศิลา แต่เขียนไว้ที่แผ่นหัวใจมนุษย์” (2 โครินธ์ 3:2-3 ฉบับ AMPC)

นักแปลพระคัมภีร์บางคนรู้สึกว่าเปาโลไม่สามารถเขียนลงในหัวใจของผู้อื่นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าเขาหมายถึง “เราคิดถึงคุณในหัวใจของเรา” แต่ข้อถัดมาขัดแย้งกับสิ่งนี้ ซึ่งกล่าวว่า “จดหมายจากพระคริสต์ซึ่งถูกส่งโดยเรา” สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร และทำงานอย่างไร? ตอนนี้การเขียนลงในหัวใจของคุณนั้นยังไม่พอ ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณศึกษาหนังสือเฝ้าเดี่ยวนี้ พระคำก็กำลังทำพันธกิจต่อคุณ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งที่บรรจุอยู่ในข่าวประเสริฐกำลังมาถึงคุณในตอนนี้

ยิ่งกว่านั้นลองคิดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเปโตรเองก็ทำพันธกิจด้วยข่าวประเสริฐและเขียนจดหมายไปถึงคริสตจักรต่างๆ แต่เขาไม่ได้มาพร้อมกับความจริงทั้งหมดของข่าวประเสริฐ เปาโลได้รับมอบหมายให้นำไปสู่คริสตจักร แต่เป็นข่าวประเสริฐเดียวกัน เปโตรนำความรู้ทั่วไปของข่าวประเสริฐมา และเปาโลนำรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง สลับซับซ้อนและผ่านการวิเคราะห์ของข่าวประเสริฐมาว่าคริสตจักรควรดำเนินอย่างไร เขาเขียนเกี่ยวกับโครงสร้างของคริสตจักรและคนที่ถูกสร้างใหม่ในพระคริสต์ เขาเขียนการเปิดเผยสำแดงเหล่านั้นใน “จดหมายฝาก” สำหรับคริสตจักร

ตอนนี้มีพระคำของพระเจ้าทำพันธกิจต่อคุณ (จดหมาย) ซึ่งคุณได้รับได้กลายเป็น “จดหมายของพระคริสต์” แต่นั่นอาจไม่เพียงพอสำหรับชีวิตที่พระเจ้าต้องการให้คุณดำเนินชีวิตอยู่ แล้วคุณจะทำอย่างไร? คุณต้อง “เขียน” ความจริงของคุณเองตามที่ได้รับการดลใจจากพระคำ อ่านส่วนสุดท้ายของข้อพระคัมภีร์หลักของเราอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของพันธกิจแห่งพระคำซึ่งมาถึงคุณ พระคำแห่งความเชื่อได้ทำพันธกิจต่อคุณ ตอนนี้คุณก็เป็นผู้ถือหรือผู้ส่งสารแห่งถ้อยคำเดียวกันนั้น คุณเชื่อในสิ่งนี้ คุณกำลังพูดถึงสิ่งนี้ แต่ก็ไม่เพียงพอเพราะว่าสิ่งที่คุณมีก็คือสิ่งที่ทำพันธกิจต่อคุณ มีบางคนที่คุณต้อง “เขียน” หรือร่างเพื่อตัวของคุณเอง

คำเทศนาหรือคำสอนที่คุณเคยได้ยินถูกเขียนถึงคุณ หรือเขียนเข้าไปในคุณลงในแผ่นหัวใจของคุณ แต่เมื่อคุณทำสิ่งนี้เสร็จแล้ว เหมือนกับเมื่อคุณเฝ้าเดี่ยวจบ คุณจะเขียนอะไร? นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณและค้ำจุนคุณบนทางหลวงแห่งพระสิริอย่างแท้จริง เราจะเรียนรู้เพิ่มเติมและเปิดเผยว่าสิ่งนี้ทำงานอย่างไรในการศึกษาครั้งต่อไปของเรา

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับพระคำของพระองค์ที่เข้ามาในหัวใจของข้าพระองค์ในวันนี้ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการเลื่อนตำแหน่งในแง่บวก ทำให้ข้าพระองค์เดินอยู่ในพระสิริและทะยานขึ้นบนปีกแห่งพระวิญญาณของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:โคโลสี 3:16; ฮีบรู 8:10


วันพุธที่ 8 เมษายน 2020

ความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
Consistent Progress

แต่วิถีของคนชอบธรรมเหมือนแสงอรุณ ซึ่งฉายสุกใสยิ่งขึ้นๆ จนเต็มวัน  (สุภาษิต 4:18)

หนึ่งในสิ่งที่คุณต้องการที่จะเห็นในชีวิตก็คือความมั่นคง เมื่อฉันพูดว่า “ฉันกำลังก้าวไปข้างบนและก้าวไปข้างหน้าเสมอ” นั่นไม่ใช่การพูดเกินจริงหรือคำกล่าวสารภาพในสิ่งที่ฉันต้องการให้เกิดขึ้น ไม่! นั่นเป็นความเป็นจริงในชีวิตของฉัน ซึ่งถูกทำให้เป็นไปได้โดยฤทธิ์อำนาจแห่งพระคำของพระเจ้า ฉันก้าวหน้าเสมอ นั่นคือชีวิตของเราในพระคริสต์

คุณสามารถมั่นคงมาก นั่นคือก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ในพันธกิจ และทุกพื้นที่ในของชีวิตของคุณ สำหรับคริสเตียนแล้วการเจริญรุ่งเรืองในสถานการณ์บางอย่างนั้นไม่ได้เป็นความเจริญรุ่งเรือง บางคนสามารถเจริญรุ่งเรืองเนื่องจากเงื่อนไขของเวลา เมื่อสภาพเศรษฐกิจเอื้ออำนวย พวกเขาก็ทำได้ดี แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ความมั่งคั่งของพวกเขาก็ตกลง นั่นไม่ดีพอ

จงศึกษาอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ พวกเขาเจริญรุ่งเรืองด้วยการเดินกับพระเจ้าโดยไม่ขึ้นอยู่กับสภาพทางเศรษฐกิจของช่วงเวลานั้น ปฐมกาล 26:12-14 พูดเกี่ยวกับอิสอัคและวิธีการที่เขาเจริญรุ่งเรืองมากในช่วงกันดารอาหาร และคนทั้งประเทศอิจฉาเขา “อิสอัค​ได้​หว่าน​พืช​ใน​ดินแดน​นั้น ใน​ปี​เดียว​กัน​นั้น​ก็​เก็บ​ผลได้​หนึ่ง​ร้อย​เท่า ​พระ​เจ้า​ทรง​อวย​พระ​พร​แก่​ท่าน​ อิสอัค​ก็​จำเริญ​มี​กำไร​ทวี​ยิ่งขึ้น​จน​ท่าน​เป็น​คน​มั่ง​มี​มาก​ ท่าน​มี​ฝูง​แพะ แกะ และ​ฝูง​โค​เป็น​กรรมสิทธิ์ และ​มี​บริวาร​มาก​มาย ชาว​ฟีลิสเตีย​จึง​อิจฉา​ท่าน

นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็นสำหรับพวกเราทุกคน เพราะว่าเราเป็นเชื้อสายของอับราฮัม พระ​องค์​ได้​ให้​สิ่ง​สารพัด​แก่​เรา ที่​จะ​ให้​มี​ชีวิต​และ​มี​ธรรม อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นจงปฏิเสธความสำเร็จที่ขึ้นๆลงๆ จงป่าวประกาศว่า “ชีวิตของฉันก้าวไปข้างบนและก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น” หลังจากนั้นก็ยึดมั่นในพระคำ จงทำตามพระคำ นั่นเป็นความลับของชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่รู้จบ

1 ทิโมธี 4:15 ให้เรารู้ว่าการใคร่ครวญพระคำของพระเจ้าเป็นหลักประกันของความก้าวหน้าที่ยั่งยืน เปาโลเขียนถึงทิโมธีว่า จง​ทำสิ่ง​เหล่า​นี้และทุ่มเทตนเองในสิ่งเหล่านี้เพื่อ​ความ​เจริญ​ของ​ท่าน​จะ​ได้​ปรากฏ​แก่​คน​ทั้ง​ปวง (1 ทิโมธี 4:15 ฉบับ GNB) ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับความเป็นจริงของพระคำในชีวิตของข้าพระองค์ที่ทำให้ข้าพระองค์ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ชีวิตของข้าพระองค์ก้าวไปข้างบนและก้าวไปข้างหน้าเท่านั้นโดยไม่ขึ้นอยู่กับระบบเศรษฐกิจที่ถดถอยและไม่แน่นอนของโลกนี้ ฉันป่าวประกาศว่าฉันเดินในชัยชนะที่สมบูรณ์และต่อเนื่อง ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 ทิโมธี 4:15; ฮักกัย 2:9