วันศุกร์ที่ 24  มกราคม  2020  

ไม่มีสิ่งใดสามารถจำกัดคุณได้
Nothing Can Limit You

แล้วพระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่าจงระวังและเว้นเสียจากการโลภทุกประการ เพราะว่าชีวิตของคนมิได้อยู่ในการที่มีของฟุ่มเฟือย (ลูกา 12:15)

ในปฐมกาล 37 เราอ่านว่าพวกพี่ของโยเซฟวางแผนต่อต้านเขาและขายเขาไปเป็นทาสอย่างไร ในฐานะทาสในบ้านของโปทิฟาร์โยเซฟสามารถโวยวายและร้องไห้ นั่นคือขมขื่นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกพี่ ทำกับเขา การบ่นของเขาก็จะมีเหตุผล แต่เขาก็ไม่ให้ข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับความล้มเหลว พระคัมภีร์กล่าวว่า พระ​เจ้า​ทรง​สถิต​อยู่​กับ​โยเซฟ โยเซฟ​จึง​เจริญ​รวดเร็ว เขา​อยู่​ใน​บ้าน​คน​อียิปต์​นาย​ของ​เขา (ปฐมกาล 39:2)

ถ้าในขณะที่เป็นทาสในบ้านของโปทิฟาร์โยเซฟยังคงเจริญรุ่งเรือง นั่นหมายความว่าความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ใช่การมีหรือไม่มีเงิน ดังนั้นความเจริญรุ่งเรืองของคุณจึงไม่ควรขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณมีหรือไม่มี นั่นคือสิ่งที่คนอื่นเป็นหนี้คุณหรือสิ่งที่คุณมีในบัญชีธนาคารของคุณ ความเจริญรุ่งเรืองของคุณอยู่ในหัวใจของคุณ

บางคนพูดว่า “ฉันจะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ทางการเงินที่น่ากลัวนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคนที่ฉันให้ยืมเงินได้ปฏิเสธที่จะจ่ายคืนให้แก่ฉัน” ไม่ อย่าคิดหรือพูดอย่างนั้น ไม่มีเงินจำนวนใดที่จะถูกนำไปจากคุณที่จะทำให้คุณล้มละลายหรือยากจนได้ คุณเป็นทายาทของพระเจ้า นั่นคือทายาทร่วมกับพระคริสต์ ซึ่งถูกเสียบเข้ากับทรัพยากรที่ไม่มีวันแห้งเหือด

เมื่อคุณให้ยืมเงิน ถ้าพวกเขาจ่ายคืนให้แก่คุณ จงสรรเสริญพระเจ้า แต่ทันทีที่คุณให้มันออกไป จงลุกขึ้นเหนือมัน ไม่มีสิ่งใดที่สามารถจำกัดคุณได้ พระเยซูตรัสในลูกา 6:35 ว่า “…​จง​รัก​ศัตรู​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย และ​ทำ​การ​ดี​ต่อ​เขา จง​ให้​เขา​ยืม​โดย​ไม่​หวัง​ที่​จะ​ได้​คืน​อีก บำเหน็จ​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จึง​จะ​มี​บริบูรณ์ และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​สูงสุด เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ยัง​ทรง​โปรด​แก่​คน​อกตัญญู​และ​คน​ชั่ว​ พระองค์ทำให้คุณสนใจในสิ่งที่สูงกว่า นั่นคือความมั่งคั่งของพระเจ้าคือความมั่งคั่งของคุณ คุณเป็นเพียงท่อ ท่อที่ไหลอย่างอิสระ  เพื่อส่งต่อไปให้แก่ผู้อื่น การไหลของคุณไม่สามารถถูกปิดกั้นได้ ดังนั้นในเรื่องความเจริญรุ่งเรืองทางการเงินในชีวิตของคุณ จงเพ่งความสนใจไปที่องค์พระผู้เป็นเจ้าในฐานะที่เป็นแหล่งทรัพยากรของคุณ ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ความมั่งคั่งทั้งหมดในโลกนี้เป็นของฉัน เพราะว่าฉันเป็นทายาทของพระเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เงินและทองคำเป็นของฉัน รวมทั้ง​สัตว์​เลี้ยง​บน​ภูเขา​ตั้ง​พัน​ยอด ดังนั้นฉันจึงปฏิเสธที่จะถูกจำกัดโดยสิ่งใดสิ่งหนึ่งในโลกนี้ ฉันเป็นท่อแห่งความมั่งคั่งและพระพรของพระเจ้าที่ไหลอย่างอิสระ และฉันได้ถูกเสียบเข้ากับแหล่งทรัพยากรที่ไม่สิ้นสุด ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:2 โครินธ์ 8:9; 1 ทิโมธี 6:17; ฟิลิปปี 4:19; สดุดี 37:12


วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม  2020 

ถูกย้ายเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์
Translated Into The Kingdom Of His Love-Son

และให้ท่านขอบพระคุณพระบิดาผู้ทรงทำให้พวกท่าน สามารถมีส่วนในมรดกของธรรมิกชนในความสว่าง พระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากอำนาจของความมืด และทรงย้ายเราเข้ามาไว้ในอาณาจักรของพระบุตรที่รักของพระองค์ (โคโลสี 1:12-13)

ในข้อพระคัมภีร์ข้างบน พระคำป่าวประกาศว่าพระบิดาไม่เพียงแต่ทำให้เรามีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้มีส่วนในมรดกของธรรมิกชนในความสว่าง แต่ยัง “ช่วยเราให้พ้น” จากอำนาจของความมืด หลังจากนั้นก็ไปถึงจุดสุดยอดเมื่อพระวิญญาณตรัสว่าพระบิดา “…ได้ทรงย้ายเราเข้ามาไว้ในอาณาจักรของพระบุตรที่รักของพระองค์” ช่างลึกซึ้งเหลือเกิน!

คงจะดีพอแล้วถ้าพระองค์เพียงแต่ช่วยเราให้พ้นจากอำนาจแห่งความมืดเท่านั้น แต่การก้าวไปอีกขั้นของการย้ายเราเข้าไปสู่อาณาจักรของพระบุตรที่รักของพระองค์นั้นยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง แต่น่าเศร้าที่ถึงแม้จะมีความจริงที่เปี่ยมด้วยพระสิรินี้ เนื่องจากความไม่รู้คริสเตียนบางคนยังคงพยายามแสวงหาการบำบัดปลดปล่อยจากซาตาน เหมือนกับเพื่อนที่พูดว่า “คุณรู้ไหมว่าพวกวิญญาณชั่วมีอยู่จริง? ฉันจำเป็นต้องให้คนของพระเจ้าที่เปี่ยมไปด้วยฤทธิ์อำนาจอธิษฐานเผื่อฉันและบำบัดปลดปล่อยฉัน” ไม่! ไม่มีคนที่่บังเกิดใหม่อย่างแท้จริงคนใดที่ต้องการการบำบัดปลดปล่อยจากซาตาน ซาตานเป็นศัตรูที่พ่ายแพ้ไปแล้ว คุณไม่ได้รับการบำบัดปลดปล่อยจากสิทธิอำนาจของความมืด เพราะว่าคุณอธิษฐานอย่างหนัก หรือเพราะว่าบางคนอธิษฐานเผื่อคุณ นั่นเป็นผลลัพธ์ของสิ่งที่พระคริสต์ได้ทรงกระทำ ทันทีที่คุณยอมรับการงานแห่งการทรงไถ่ของพระคริสต์เพื่อคุณและกล่าวยอมรับความเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเหนือชีวิตของคุณ การครอบครองของซาตานเหนือคุณก็ถูกทำลาย

จงตระหนักถึงสถานภาพ สถานะ และทรัพย์สินในปัจจุบันของคุณ คุณนั่งอยู่ด้วยกันกับพระคริสต์ในสวรรคสถาน สูง​ยิ่ง​เหนือ​บรรดา​เทพ​ผู้​ครอง เหนือ​ศักดิ​เทพ เหนือ​อิทธิ​เทพ เหนือ​เทพ​อาณาจักร และ​เหนือ​นาม​ทั้ง​ปวง​ที่​เขา​เอ่ย​ขึ้น มิใช่​ใน​ยุค​นี้​เท่านั้น แต่​ใน​ยุค​ที่​จะ​มาถึง​ด้วย​ (เอเฟซัส 1:21) จงดำเนินชีวิตจากอาณาจักรแห่งชัยชนะ การครอบครอง สันติสุข และความชื่นชมยินดีตลอดไปและปกครองโลกของคุณด้วยสิทธิอำนาจที่พระองค์ได้ประทานให้แก่คุณ

คำอธิษฐาน

ข้าพระบิดาในสวรรค์ที่รัก ขอบพระคุณที่ย้ายข้าพระองค์ออกจากอาณาจักรแห่งความมืดเข้ามาสู่อาณาจักรของพระเยซู พระบุตรที่รักของพระองค์ ฉันดำเนินชีวิตอยู่ในการทรงสถิตของพระองค์ และทำหน้าที่ร่วมกับการครอบครองของพระคริสต์เหนือความมืด ฤทธิ์อำนาจที่ชั่วร้าย พวกวิญญาณชั่ว และการงานของพวกเขา ฉันดำเนินชีวิตอย่างมีชัยชนะ เจริญรุ่งเรือง และพระสิรินิรันดร์ซึ่งฉันได้รับในพระคริสต์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 2:6; 1 ยอห์น 4:4


วันอังคารที่ 21 มกราคม    2020       

การเข้าไปถึงพระเจ้า
Divine Access

ที่จริงเธอมารับตำแหน่งราชินีก็เพื่อยามวิกฤตเช่นนี้ก็เป็นได้นะ ใครจะรู้? (เอสเธอร์ 4:14)

มีคนในโลกนี้ที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้เพื่อให้การเข้าถึงแก่ผู้อื่น นั่นคือการเข้าถึงความมั่งคั่ง ฤทธิ์อำนาจ ทรัพยากรฯลฯ พระองค์ได้กำหนดให้บางคนเป็นการเข้าถึงของคุณ และคุณอาจไม่สามารถเข้าถึงสิ่งนั้นได้ยกเว้นผ่านทางบุคคลนั้น นี่เป็นเพราะว่าพระองค์จะใช้มนุษย์อีกคนหนึ่งในการทำงานกับมนุษย์และอวยพรมนุษย์

ยกตัวอย่างเช่นใน 1 พงษ์กษัตริย์ 17:9 (ฉบับ ASV) พระเจ้าตรัสกับเอลียาห์ว่า “จง​ลุก​ขึ้น​ไป​ยัง​เมือง​ศา​เร​ฟัท ซึ่ง​ขึ้น​กับ​เมือง​ไซ​ดอน และ​อา​ศัย​อยู่​ที่​นั่น นี่​แน่ะ เรา​ได้​สั่ง​หญิง​ม่าย​คน​หนึ่งที่​นั่น​ให้เลี้ยงดูเจ้า” นั่นเป็นช่วงเวลาของการกันดารอาหารอย่างรุนแรง และถ้าเอลียาห์จะมีอาหารกินก็จะมาจากผู้หญิงคนนั้น เอลียาห์สามารถเลือกที่จะไปที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าเขาจะเดินตามน้ำพระทัยที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้าในช่วงเวลานั้นก็ต้องผ่านทางผู้หญิงคนนั้น

สำหรับผู้หญิงคนนั้นเอลียาห์คือการเข้าถึงระดับต่อไปของเธอ เธอตกอยู่ในความอัตคัดขัดสน และถ้าเธอจะออกมาจากความมอซอนั้นได้ก็จะเกิดขึ้นเนื่องจากการเชื่อมโยงกับเอลียาห์ ผ่านทางเอลียาห์เธอได้รับการเลี้ยงดูและเปลี่ยนจากความอัตคัดสู่ความเจริญรุ่งเรือง (อ่านเรื่องราวทั้งหมดใน 1 พงษ์กษัตริย์ 17) นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อลูกชายของเธอป่วยและเสียชีวิต เธอก็ได้รับการอัศจรรย์ นั่นคือเด็กหนุ่มคนนี้ถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายโดยผู้เผยพระวจนะเอลียาห์

เช่นเดียวกับที่ลูกหลานของอิสราเอลเป็นทาสในอียิปต์จนกระทั่งโมเสสตอบสนองต่อการทรงเรียกของพระเจ้าเพื่อนำพวกเขาออกมา เขาคือการเข้าถึงของพวกเขา พระเยซูเองคือการเข้าถึงการทรงสถิตของพระบิดาของเรา และพระองค์ก็รู้เรื่องนี้ พระองค์กล่าวว่า ไม่​มี​ใคร​มา​ถึง​พระ​บิดา​ได้​นอก​จาก​จะ​มา​ทาง​เรา (ยอห์น 14:6)

จงตระหนักถึงคนเหล่านั้นที่คุณจะให้การเข้าถึงและพร้อมที่จะทำสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงวางไว้ในหัวใจของคุณ เพื่อประโยชน์หรือข้อได้เปรียบของพวกเขา นอกจากนี้จงตระหนักถึงผู้คนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงวางไว้ในเส้นทางของคุณเพื่อให้การเข้าถึงแก่คุณ ไม่ว่าจะเป็นพันธกิจ งาน อาชีพ การเมืองของคุณฯลฯ นี่เป็นหลักการในแผ่นดินของพระเจ้า และคุณต้องเข้าใจสิ่งนี้

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันเป็นคำตอบให้กับเสียงร้องของหลายๆ คนและวิธีแก้ปัญหาแก่โลกของฉัน! ดวงตาแห่งความเข้าใจของฉันเต็มไปด้วยความสว่างเพื่อตระหนักและให้การเข้าถึงแก่ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงวางไว้ในเส้นทางของฉัน และฉันมีความสามารถทั้งในฝ่ายวิญญาณและทางการเงินที่จะทำให้วัตถุประสงค์นี้สำเร็จ นอกจากนี้ฉันตระหนักและใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากผู้ที่ได้รับการเสริมกำลังจากพระเจ้าในการให้การเข้าถึงระดับต่อไปและสูงขึ้นแก่ฉันในการทำงาน พันธกิจของฉันฯลฯ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:2 โครินธ์ 9:9-10; ปฐมกาล 12:2; ฮีบรู 13:16; ลูกา 6:38


วันจันทร์ที่ 20 มกราคม    2020     

จงใคร่ครวญถึงพระคริสต์
Meditate On Christ

พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะให้พวกเขารู้ว่า ความล้ำลึกนี้มีศักดิ์ศรีอุดมเพียงไรในหมู่คนต่างชาติ นั่นคือพระคริสต์สถิตในพวกท่าน อันเป็นความหวังที่จะได้รับศักดิ์ศรี (โคโลสี 1:27)

 “พระคริสต์ในตัวคุณ” ไม่ใช่วลีทางศาสนา แต่คือความเป็นจริงของพระเจ้า แต่หลายคนยังไม่เข้าใจถึงฤทธิ์อำนาจและความสำคัญของความเป็นจริงนั้น นั่นเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวและเป็นไข้ที่พวกเขาบ่นถึง นั่นเป็นสาเหตุที่พวกเขาตื่นขึ้นมาด้วยโรคมะเร็ง เบาหวาน และความผิดปกติทั้งหมดในร่างกายของพวกเขา คุณจะป่วยได้อย่างไร ถ้าพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ในร่างกายของคุณอย่างแน่นอน?

ก่อนที่พระคริสต์จะเสด็จมา มนุษย์ทุกคนอยู่ภายใต้คำสาปแช่งของความบาป จึงอยู่ภายใต้การควบคุมของซาตาน การกล่าวโทษ โรค ความเจ็บป่วย ความยากจน และความตาย พระคัมภีร์กล่าวว่า เพราะ​ว่า​ทุก​คน​ทำ​บาป และ​เสื่อม​จาก​พระ​สิริ​ของ​พระ​เจ้า (โรม 3:23) นี่เป็นผลสืบเนื่องจากการตกสู่ความบาปของมนุษย์ในสวนเอเดน แต่คุณรู้ไหม? พระสิริที่สูญหายไปโดยความบาปได้กลับคืนมาในพระคริสต์! ดังนั้นถ้าพระคริสต์อยู่ในตัวคุณ พระสิริก็คือผลลัพธ์ นั่นคือพระสิริในสุขภาพของคุณ ในการเงินของคุณ ในงาน ครอบครัว และทุกด้านของชีวิตคุณ ฮาเลลูยา!

ตอนนี้ชีวิตของคุณซึ่งบังเกิดใหม่มีไว้เพื่อพระสิริเท่านั้น นี่ควรเป็นการตระหนักรู้ของคุณ มิฉะนั้นคุณก็จะดำเนินชีวิตที่ธรรมดา ให้พระคริสต์สำแดงพระองค์ในตัวคุณ ผ่านทางพระคำและพระวิญญาณบริสุทธิ์

จงมีการตระหนักรู้ว่า “พระคริสต์อยู่ในตัวฉัน” จงใคร่ครวญถึงพระคริสต์ นั่นคือพระองค์คือใคร พระองค์คือใครสำหรับคุณและในคุณ และพันธกิจของพระองค์ในตัวคุณในวันนี้! พระคริสต์ไม่ได้อยู่รอบตัวคุณหรือใกล้คุณ พระองค์ไม่ได้แค่อยู่กับคุณเท่านั้น พระองค์อยู่ในตัวคุณ นั่นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สรรเสริญพระเจ้าตลอดไป!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันอยู่ในระดับของสิ่งมีชีวิตแบบพระเจ้าที่พิเศษ นั่นคือ “เผ่าพันธุ์ที่มีพระคริสต์อยู่ในตัวฉัน!” นี่คือความมั่นใจของฉันเกี่ยวกับชีวิตแห่งชัยชนะที่ต่อเนื่องและพระสิรินิรันดร์ ฤทธิ์อำนาจ ความงดงาม และความยอดเยี่ยมของพระเจ้านั้นอาศัยอยู่ในวิญญาณของฉัน ฉันสำแดงถึงชีวิตและพระสิริของพระคริสต์ ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:อิสยาห์ 60:1-2;2 โครินธ์ 3:9-10; 2 โครินธ์ 3:11; 2 เปโตร 1:17


วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม   2020         

อย่ากลัวเลย
Have No Fears

เมื่อข้าพเจ้าเห็นพระองค์ ข้าพเจ้าก็ล้มลงแทบพระบาทของพระองค์เหมือนอย่างคนตาย และพระองค์วางพระหัตถ์ขวาบนตัวข้าพเจ้า แล้วตรัสว่า อย่ากลัวเลย เราเป็นเบื้องต้นและเป็นเบื้องปลาย (วิวรณ์ 1:17)

เมื่อคุณศึกษาพระคัมภีร์ คุณจะพบว่าพระเจ้าบอกเราเสมอว่า “อย่ากลัวเลย” ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า เที่ยง หรือกลางคืน โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่คุณได้ยินหรืออาการที่คุณอาจรู้สึก พระองค์ไม่ต้องการให้มีความกลัวอยู่ในหัวใจของคุณ นั่นเป็นเพราะว่าพระองค์รู้ทุกสิ่ง พระองค์รู้อนาคตและสามารถเห็นได้ว่าไม่มีสิ่งใดต่อต้านคุณหรือสามารถทำอันตรายต่อคุณได้ พระองค์เป็นพระเจ้านิรันดร์และมีชีวิตอยู่ในนิรันดร์กาล พระองค์เห็นจุดจบตั้งแต่เริ่มต้น

ดังนั้นถึงแม้จะดูเหมือนว่าคุณจะมีปัญหาเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างและต้องการให้พระองค์ทำทันที พระองค์ก็ไม่รู้สึกอึดอัดและไม่รีบร้อน เพราะว่าพระองค์เห็นแล้วว่าคุณมีชัย อนาคตของคุณคือประวัติศาสตร์สำหรับพระองค์ เมื่อคุณศึกษาเรื่องราวของอับราฮัม คุณจะสังเกตเห็นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเล่าถึงประวัติศาสตร์แห่งอนาคตของเขาให้เขาฟัง พระองค์พูดกับเขาว่า “…​เรา​ให้​เจ้า​เป็น​บิดา​ของ​ประ​ชา​ชาติ​มาก​มาย (ปฐมกาล 17:5) ในเวลานั้นอับราฮัมไม่มีลูก แต่ในความคิดของพระเจ้านั่นเป็นความจริงที่ตัดสินไปแล้ว อนาคตของเขาคือประวัติศาสตร์สำหรับพระเจ้า

ก็เหมือนกับคุณในวันนี้ อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระองค์ได้ทรงเห็นทุกสิ่งและรู้ว่าไม่มีอะไรที่อยู่หน้าคุณที่สามารถเอาชนะหรือทำลายคุณได้ ไม่มีสิ่งใดเลย! มันไม่แตกต่างอะไรไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรืออาศัยอยู่ที่ใดในโลกนี้ ไม่มีข้อจำกัดในเส้นทางของคุณ ทั้งหมดที่พระเจ้าต้องการก็คือคุณทำตามพระคำของพระองค์ พระคำของพระองค์รับประกันถึงชัยชนะ ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จของคุณ

พระคำของพระองค์คืออาวุธของคุณที่ใช้ต่อต้านศัตรูและความทุกข์ยากทุกอย่าง พระคำของพระองค์คือดาบของพระวิญญาณ ถ้าคุณดำเนินชีวิตโดยพระคำของพระองค์และเก็บไว้ในปากของคุณ ก็จะไม่มีอะไรที่จะหยุดคุณได้ ดังนั้นจงเอาข้อจำกัดออกไป จงพูดกับตัวเองว่า “ข้อจำกัดทั้งหมดออกไปจากความคิดของฉันแล้ว! ฉันสามารถและจะเป็นทุกอย่างที่พระเจ้าต้องการให้ฉันเป็น ฉันเป็นความสำเร็จ!” ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันกล้าและกล้าหาญมาก! พระคำของพระเจ้ากำลังผลิตสิ่งที่พระคำกล่าวถึงในตัวฉัน และฉันลุกขึ้นเหนือระบบที่จำกัดทุกอย่างของโลกนี้ ฉันมีความสามารถพิเศษในการพิจารณา คิด จินตนาการ และมองเห็นความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบ และไม่มีสถานการณ์หรือความยากลำบากใดที่สามารถขัดขวางฉันได้ เพราะว่าฉันได้ถูกกำหนดไว้สำหรับการเดินทางเพื่อความก้าวหน้า การยกระดับ และการเลื่อนระดับตลอดเวลา ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:โยชูวา 1:6-7; 2 โครินธ์ 4:18; 2 โครินธ์ 2:14; 1 ยอห์น 4:4