ข้าพ​เจ้า​ทราบ​ว่า​สาร​พัด​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​กระ​ทำ​ก็​ดำรง​อยู่​เป็น​นิตย์ (ปัญญาจารย์ 3:14)

พระคำของพระเจ้าสามารถนำไปใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิต สติปัญญาในนั้นคือสิ่งที่ครอบคลุมทุกอย่าง 2 ทิโมธี 3:15 กล่าวว่าพระคัมภีร์สามารถทำให้คุณฉลาดได้ นั่นคือฉลาดต่อความรอดซึ่งเป็นเหตุให้พระสิริของพระเจ้าถูกเปิดเผยในตัวคุณ ยิ่งคุณศึกษาพระคัมภีร์มากเท่าไร ความคิดของคุณก็ยิ่งละเอียดและแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น นั่นคือความคิดสำหรับความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม ความสมบูรณ์แบบ กลยุทธ์ สุขภาพ และความเจริญรุ่งเรือง

นี่คือสิ่งที่ชาวยิวจำนวนมากในอิสราเอลเข้าใจและฉวยโอกาส พวกเขาใช้ความคิดของพวกเขาสำหรับงานศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรือแม้แต่การทหารจากพระคัมภีร์ พวกเขาเข้าใจว่าความคิดที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้านั้นไม่มีทางผิดพลาด ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะอย่างน่าอัศจรรย์และความเจริญรุ่งเรือง

ความคิดที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าของคุณจะอยู่รอดและเอาชนะอุปสรรคและระบบทั้งหมดของโลกนี้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดความผิดพลาดในระบบเศรษฐกิจ คุณก็จะก้าวหน้าต่อไป เพราะว่าคุณดำเนินการจากมิติที่สูงกว่า ความคิดและกลยุทธ์ของคุณมาจากสติปัญญาของพระวิญญาณผ่านทางพระคำ สาธุการแด่พระเจ้า!

ลองคิดดูว่าใครจะคิดว่าดาวิดจะเอาชนะโกลิอัท ผู้ซึ่งเป็นยักษ์แห่งเมืองกัท แชมเปี้ยนของคนฟิลิสเตีย ด้วยก้อนหินและสายสลิงได้? ใครจะสามารถอธิบายได้ว่าอิสอัคขุดและพบน้ำในที่แห้งแล้งที่คนอื่นๆ ละทิ้งไปได้อย่างไร? เขาทำตามความหยั่งรู้ของพระเจ้าซึ่งมาถึงเขาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

เขากำลังจะย้ายที่อยู่เนื่องจากภัยแล้ง แต่พระเจ้าตรัสว่า “จงอยู่ในดินแดนนี้และเราจะทำให้เจ้าเจริญรุ่งเรือง” แผ่นดินเดียวกันกับที่เกิดการกันดารอาหาร เขาก็เพียงแต่ทำตามที่พระเจ้าบอกให้เขาทำ และพระคัมภีร์บอกว่าเขา “ก็​ร่ำ​รวย​และ​มั่ง​มี​ขึ้น​เรื่อยๆ จน​ท่าน​เป็น​คน​มั่งคั่ง” (ปฐมกาล 26:13) อย่าปฏิบัติตามหลักการและความคิดของโลกเพื่อความสำเร็จ จงเปิดหัวใจของคุณต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระคำของพระองค์เพื่อสติปัญญาและความคิดที่ถูกต้องที่คุณจำเป็นต้องมีเพื่อชีวิตแห่งพระสิริ ความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างที่ฉันต้องการเพื่อความสำเร็จในขั้นต่อไป ฉันมีความเข้าใจเป็นพิเศษ ฉันเต็มไปด้วยสติปัญญาของพระวิญญาณผ่านทางพระคำซึ่งทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นในชีวิตของฉันและในชีวิตของผู้อื่น ฉันเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นและทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าความคิดของฉันได้รับการเจิมเพื่อความคิดพิเศษเพื่อความสำเร็จ ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:สุภาษิต 2:6; เอเฟซัส 1:17-18; อิสยาห์ 30:21


จงก้มลงและเข้าหาผู้ที่ถูกกดขี่ จงแบ่งเบาภาระของพวกเขาและทำพระบัญญัติของพระคริสต์ให้ครบถ้วน (กาลาเทีย 6:2 ฉลับ MSG)

หลายปีขณะที่เป็นวัยรุ่น ฉันร้องไห้อย่างหนักในคำอธิษฐาน เพราะว่ามีหลายคนในโลกที่ไม่รู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า นั่นคือการทุกข์ยากของมนุษยชาติในฐานะคนบาป คนป่วย และคนขัดสน ฉันสัมผัสถึงภาระและคิดว่าความรับผิดชอบที่จะต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความเจ็บปวดของผู้คนที่แตกสลายไปทั่วโลกนั้นอยู่ที่ฉัน ฉันตื่นนอนตั้งแต่ตอนกลางคืนเพื่อขึ้นมาอธิษฐานด้วยน้ำตาเนื่องจากคนขัดสน คนยากจนและคนที่ทุกข์ยาก

นั่นทำให้ฉันไปตามบ้านต่างๆโรงพยาบาลโรงเรียนและหมู่บ้านเพื่อประกาศข่าวประเสริฐ และฉันยังคงทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ อย่าปิดใจของคุณต่อความทุกข์ยากของมนุษยชาติ มีคนจำนวนมากที่ทนทุกข์อย่างมากมาย การทนทุกข์ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนที่ตกงานเท่านั้น แล้วผลที่เกิดขึ้นกับลูกๆ ของเขาที่อาจไม่สามารถเรียนหนังสือต่อไปได้ล่ะ? ลองคิดถึงเด็กเล็กๆที่อาจสูญเสียทั้งพ่อและแม่ ชีวิตของพวกเขาจะย่ำแย่ขนาดไหน อนาคตของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่มืดมน

หลายครอบครัวกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะว่าคนที่รักป่วยหรือเสียชีวิต ทั้งหมดนี้ควรได้รับความสนใจจากคุณเพื่อการอธิษฐานและเพิ่มความทุ่มเทและความเร็วในการเผยแพร่ข่าวประเสริฐ ถ้าเราช่วยคนให้รอดได้มากขึ้นก็จะมีความเจ็บปวดน้อยลง อย่ากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณมากเกินไปจนคุณลืมสิ่งที่คนอื่นกำลังเผชิญอยู่

พระพรของคุณอยู่ในการอวยพรคนอื่น คุณถูกยกขึ้นเมื่อคุณยกคนอื่นขึ้น ดังนั้นจงสำรวจทุกวิธีที่เป็นไปได้และคิดค้นวิธีใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงคนที่ทนทุกข์และเจ็บปวด อย่าเพิกเฉยต่อเสียงร้องของพวกเขา

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับการงานแห่งความรอดที่ยอดเยี่ยม ขอบพระคุณสำหรับข่าวประเสริฐที่เปี่ยมด้วยพระสิริของพระคริสต์ซึ่งเปิดเผยชีวิตและสภาพอมตะ ข้าพระองค์มุ่งมั่นในการเผยแพร่สิ่งนี้ไปทั่วโลก และนำคนจำนวนมากออกมาจากความบาป ความยากจน และความทุกข์ยากไปสู่ชีวิตที่เปี่ยมด้วยพระสิริในพระคริสต์ พระคำของพระองค์กำลังเติบโตขึ้นและแพร่หลายในหมู่ประชาชาติของโลก ด้วยการนำชายและหญิงเข้าสู่มรดกของพวกเขาในพระคริสต์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:กาลาเทีย 6:10; 1 ยอห์น 3:17; โรม 15:1


เพราะ​เขา​จะ​ได้​ประ​โยชน์​อะไร​ถ้า​ได้​สิ่ง​ของ​สิ้น​ทั้ง​โลก แต่​ต้อง​เสีย​ชีวิต​ของ​ตน คน​นั้น​จะ​เอา​อะไร​ไป​แลก​ชีวิต​ของ​ตน​กลับ​คืน​มา? (มาระโก 8:36-37)

ตลอดประวัติศาสตร์มีผู้นำที่มีชื่อเสียงหลายร้อยคนที่ปราบผู้อื่นได้ โลกทั้งใบอยู่ภายใต้พวกเขา พวกเขามีทุกสิ่งภายใต้ความเป็นเผด็จการของพวกเขา บางคนได้รับการเคารพนับถือและถูกคนอื่นยกย่องว่าเป็นพระเจ้า แต่พระเยซูตรัสว่า “เพราะเขาจะได้ประโยชน์อะไรถ้าได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน? คนนั้นจะเอาอะไรไปแลกชีวิตของตนกลับคืนมา?” (มาระโก 8:36-37)

อย่าภาคภูมิใจในความสามารถของคุณในการปราบหรือควบคุมผู้อื่นได้ แต่จงเรียนรู้ที่จะใช้สิทธิอำนาจเหนือตัวของคุณเอง จงพิชิตตัวเอง! นั่นคือเวลาที่คุณชนะอย่างแท้จริงเมื่อคุณพูดกับตัวเองว่า “ฉันกำลังจะทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและพูดในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น” และทำแบบนั้น

เมื่อคำพูดและการกระทำของคุณอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ นั่นคือตั้งใจยอมจำนนต่อพระคำของพระเจ้า คุณก็พร้อมสำหรับความสำเร็จที่แท้จริง เมื่อคุณบอกตัวเองว่า “จะไม่มีสิ่งใดที่สกปรกออกมาจากตัวฉัน” และตั้งใจมีวิถีชีวิตแบบนั้นผ่านทางพระคำ นั่นคือหนทางแห่งชัยชนะ

จงปฏิเสธที่จะให้ช่องทางหรือการแสดงออกต่อการสำแดงออกของมาร เช่น ความโกรธ ความเกลียดชัง ความขมขื่น ความหึงหวง และความริษยา แต่ให้แน่ใจว่าทุกคนรอบตัวคุณจะเห็นและมีประสบการณ์กับพระพร พระคุณ และความเห็นอกเห็นใจของพระเยซูเท่านั้น จงตัดสินใจเลือกว่ามีเพียงแค่ความรักและการงานแห่งความชอบธรรมเท่านั้นที่จะไหลออกจากตัวคุณไปสู่โลกของคุณ

คำอธิษฐาน

สรรเสริญพระบิดา ขอบพระคุณสำหรับพระพรและสิทธิพิเศษที่ได้รับพระคำของพระองค์ ความคิดของข้าพระองค์คงอยู่ที่พระคำของพระองค์ พระวิญญาณแห่งความเป็นเลิศกำลังทำงานอยู่ในข้าพระองค์เพื่อนำวินัยและความมั่นคงเข้ามาสู่ชีวิตของข้าพระองค์เพื่อผลิตผลแห่งความชอบธรรมและสำแดงความรักของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 โครินธ์ 9:25-27; สุภาษิต 25:28; สุภาษิต 16:32


เพราะ​ว่า​เนื้อ​ของ​เรา​เป็น​อาหาร​แท้ และ​โล​หิต​ของ​เรา​ก็​เป็น​เครื่อง​ดื่ม​แท้ (ยอห์น 6:55 ฉบับ NKJV)

มีบางคนที่ยังคงร้องขอต่อพระเจ้าเพื่อให้เติมพวกเขาอย่างสดใหม่เพื่อตอบสนองต่อความกระหายและความหิวฝ่ายวิญญาณ มันเป็นการร้องขอที่ไร้เหตุผลและไม่เกิดผลใดๆเลย พระองค์รู้ว่าเราหิวและพระองค์ได้ส่งอาหารจากสวรรค์มา ทุกวันนี้คริสเตียนที่ขอและร้องขอให้พระเจ้าเติมให้เต็มกำลังเสียเวลา

เมื่อพระเยซูตรัสว่า “คน​ที่​หิว​และ​กระ​หาย​ความ​ชอบ​ธรรมก็​เป็น​สุข เพราะ​ว่า​พระเจ้า​จะ​ทรง​ให้​อิ่ม” (มัทธิว 5:6) พระองค์แค่กำลังแนะนำข่าวสารที่พระองค์นำมาถึงชาวยิวเท่านั้น พันธสัญญาใหม่ยังไม่ได้เริ่ม พระองค์ไม่ได้กำลังพูดกับคริสเตียน ซึ่งเป็นคนที่ถูกสร้างใหม่

ใน ยอห์น 6:35 พระองค์ตรัสว่า “เรา​เป็น​อาหาร​แห่ง​ชีวิต คน​ที่​มา​หา​เรา​จะ​ไม่​หิว และ​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​เรา​จะ​ไม่​กระ​หาย​อีก​เลย” อาหารนั้นมีให้สำหรับทุกคนที่มาหาพระองค์ คำถามคือคุณมาหาพระองค์หรือยัง? ถ้าคุณบังเกิดใหม่แล้ว ก็คือใช่เลย! คุณอยู่ในพระองค์ผ่านทางการบังเกิดใหม่ แล้วทำไมคุณจึงยังหิวอยู่? อาหารนั้นได้มาแล้ว พระเยซู คือ อาหารจากสวรรค์ (ยอห์น 6:41)

นอกจากนี้จากข้อพระคัมภีร์หลักของเรา เราอ่านพบว่าพระคำของพระองค์เป็นอาหาร เพราะว่าพระเยซูและพระคำของพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน ยอห์น 1:14 กล่าวว่า “พระ​วาทะ​ทรง​เกิด​เป็น​มนุษย์​และ​ทรง​อยู่​ท่าม​กลาง​เรา…” ดังนั้นถ้าคุณกำลังประสบกับความหิวฝ่ายวิญญาณ คุณควรทำอย่างไร? คุณจะได้รับการเติมได้อย่างไร? “กิน” พระคำ นั่นคืออยู่ภายใต้พันธกิจแห่งพระคำของพระเจ้า แม้ตอนนี้ขณะที่พระคำของพระเจ้ากำลังมาหาคุณผ่านทางการเฝ้าเดี่ยว คุณก็กำลังถูกป้อน นั่นคือคุณกำลังได้รับการบำรุงเลี้ยงฝ่ายวิญญาณ

พระคัมภีร์กล่าวว่า “มนุษย์​จะ​ดำรง​ชีวิต​ด้วย​อาหาร​เพียง​อย่าง​เดียว​ไม่​ได้ แต่​ต้อง​ดำรง​ชีวิต​ด้วย​พระ​วจนะ​ทุก​คำ ซึ่ง​ออก​มา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​เจ้า” ​(มัทธิว 4:4) เมื่อใดก็ตามที่คุณหิว แทนที่จะร้องเพลงและร้องขอว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์หิว” จงศึกษาพระคัมภีร์ เพราะว่ามีเพียงพระคำของพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถตอบสนองต่อความหิวของคุณได้ ตอนนี้คุณสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมผู้เผยพระวจนะจึงพูดว่า “เมื่อ​พบ​พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​แล้ว ข้า​พระ​องค์​ก็​กิน​เสีย พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​เป็น​ความ​ชื่น​บาน​แก่​ข้า​พระ​องค์ และ​เป็น​ความ​ปีติ​ยินดี​แห่ง​จิต​ใจ​ของ​ข้า​พระ​องค์ ข้า​แต่​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​เจ้า​จอม​ทัพ เพราะ​ว่า​เขา​เรียก​ข้า​พระ​องค์​ตาม​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์” (เยเรมีย์ 15:16)

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ความหิวโหยของฉันได้รับการดับผ่านทางพระคำของพระคริสต์ซึ่งอาศัยอยู่ในฉันอย่างล้นเหลือในสติปัญญาและความเข้าใจฝ่ายวิญญาณทุกอย่าง ชีวิตของฉันนั้นขึ้นไปข้างบนและก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น ฉันเกิดผลในการดีทุกอย่างในขณะที่ฉันเพิ่มพูนในความรู้ของพระเจ้า ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:ยอห์น 6:35; กิจการ 20:32; 1 เปโตร 2:2; มาระโก 4:4


ด้วย​ว่า​ซึ่ง​พระ​องค์​ได้​ทรง​ตาย​นั้น​พระ​องค์​ได้​ทรง​ตาย​ต่อ​บาป​ครั้ง​เดียว​เป็น​พอ แต่​ซึ่ง​พระ​องค์​ทรง​ชีวิต​อยู่​นั้น พระ​องค์​ทรง​ชีวิต​สนิท​กับ​พระ​เจ้า ใน​ทำ​นอง​เดียว​กัน พวก​ท่าน​จง​ถือ​ว่า​ท่าน​ได้​ตาย​ต่อ​บาป และ​มี​ชีวิต​สนิท​กับ​พระ​เจ้า​โดย​พระ​เยซู​คริสต์ (โรม 6:10-11)

คำว่า “ถือว่า” ในข้อพระคัมภีร์ข้างบน คือ “โลกิโซไม” (logizomai) ในภาษากรีก มันเป็นศัพท์ทางบัญชี ซึ่งหมายถึงการนับหรือบันทึกบางอย่างว่าเป็นเช่นนั้น เพื่อบันทึกหรือนับกับผลรวม ยกตัวอย่างเช่น มาระโก 15:28 กล่าวว่าพระเยซู “​ถูก​นับ” (ถือว่า) ​เข้า​กับ​คน​ล่วง​เกิน พระเยซูไม่ได้เป็นผู้ล่วงเกิน แต่พระองค์ก็สิ้นพระชนม์ระหว่างขโมย 2 คน พระองค์ถูกนับเข้ากับผู้ล่วงเกิน

ตอนนี้พระคัมภีร์กล่าวว่า “เพราะ​ฉะนั้น เรา​จึง​ถูก​ฝัง​ไว้​กับ​พระ​องค์​แล้ว โดย​การ​รับ​บัพ​ติศ​มา​เข้า​ใน​การ​ตาย​นั้น เพื่อ​ว่า​เมื่อ​พระ​บิดา​ทรง​ให้​พระ​คริสต์​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย​โดย​พระ​สิริ​ของ​พระ​องค์​แล้ว เรา​ก็​จะ​ได้​ดำ​เนิน​ตาม​ชีวิต​ใหม่​ด้วย​เหมือน​กัน” (โรม 6:4) เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ เราก็ตายในและกับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์แทนเรา พระองค์อยู่บนไม้กางเขนแทนทุกคนที่เกิดในโลกนี้และจะเกิดในโลกนี้

นั่นคือสิ่งที่ข้อพระคัมภีร์หลักของเรากำลังพูดถึง เมื่อกล่าวว่า “ในทำนองเดียวกัน พวกท่านจงถือว่าท่านได้ตายต่อบาป และมีชีวิตสนิทกับพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์” ดังนั้นตอนนี้คุณสามารถป่าวประกาศว่า “ฉันได้ตายเพื่อบาป และฉันมีชีวิตสนิทกับพระเจ้า!” นี่ควรจะเป็นการกล่าวสารภาพพระคำของคุณอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจไม่รู้สึกว่าคุณสนิทกับพระเจ้า แต่คำถามก็คือ คุณบังเกิดใหม่หรือไม่? ถ้าใช่ ก็ให้นำสิ่งนี้มาคิดบัญชี นั่นคือถือว่าทุกสิ่งที่พระเยซูทำนั้นก็เพื่อคุณ

แทนที่จะพูดว่า “ฉันอ่อนแอเหลือเกิน ฉันไม่สามารถต่อต้านการทดลองได้เหมือนคริสเตียนคนอื่นๆ” จงถือว่าหรือพิจารณาว่าตัวคุณเองได้ตายต่อบาปแล้ว! อย่าคิด พูด หรือปฏิบัติตัวเหมือนคนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนกับความบาป จงเปลี่ยนวิธีคิดของคุณและยอมรับสิ่งที่พระเยซูได้ทำแทนคุณ การตระหนักรู้นี้จะเสริมกำลังให้คุณดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง!

จงใช้ความคิดของคุณ! จงถือว่าตัวคุณเองได้ตายต่อบาปแล้ว จงอนุญาตให้สิ่งนี้เป็นความคิดในปัจจุบันของคุณ นั่นคือวิธีปฏิบัติที่สอดคล้องกับวิธีที่พระเจ้ามองดูคุณและวิธีที่พระองค์คิดเกี่ยวกับคุณ คุณอยู่ในพระคริสต์เมื่อพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ คุณอยู่ในพระองค์เมื่อพระองค์ทรงถูกฝัง และคุณอยู่ในพระองค์เมื่อพระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์ทรงเห็นคุณมีชีวิตอยู่ในพระองค์ในตอนนี้ สรรเสริญพระเจ้า

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันมีชีวิตอยู่กับพระเจ้า และฉันอยู่ในอาณาจักรแห่งพระบุตรที่รักของพระเจ้า ซึ่งฉันครอบครองและปกครองโดยฤทธิ์อำนาจแห่งพระวิญญาณ! ฉันเดินในการงานที่สำเร็จแล้วของพระคริสต์ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการเสียสละแทนของพระองค์ ฉันแข็งแกร่ง เพราะว่าพระองค์แข็งแกร่ง! และฉันมีชีวิตอยู่ เพราะว่าพระองค์ทรงมีชีวิตอยู่! สาธุการแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 2:1; โรม 6:4; โรม 6:10-11