ลูก​เอ๋ย จง​ใส่​ใจ​ถ้อย​คำ​ของ​ข้า จง​เอียง​หู​ของ​เจ้า​เข้า​หา​คำ​พูด​ของ​ข้า อย่า​ให้​มัน​คลาด​สาย​ตา​ของ​เจ้า จง​รัก​ษา​มัน​ไว้​ภาย​ใน​ใจ​ของ​เจ้าเพราะ​มัน​เป็น​ชีวิต​แก่​ผู้​ค้น​พบ และ​เป็น​พลา​นามัย​แก่​กาย​ทุก​ส่วน​ของ​ผู้นั้น (สุภาษิต 4:20-22)

พระคำของพระเจ้าเป็นยา นั่นคือมีพลังในการรักษาโรค ถ้าคุณใคร่ครวญพระคำ พระคำก็จะทำลายโรคและความอ่อนแอทุกอย่างและทุกรูปแบบในร่างกายของคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระ​องค์​ทรง​ใช้​พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​ไป​รัก​ษา​เขา​ทั้ง​หลาย และ​ทรง​ช่วย​กู้​เขา​จาก​หลุม​มรณา” (สดุดี 107:20)

พระคำของพระเจ้าเป็นทางออกสำหรับความท้าทายทุกอย่าง ศักยภาพและประสิทธิภาพของพระคำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ขณะที่คุณใคร่ครวญพระคำ การเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ ถ้าคุณกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายเรื่องสุขภาพ อย่าสิ้นหวัง จงยึดพระคำของพระเจ้าเอาไว้ และจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

พระคำของพระเจ้าทำสิ่งต่างๆ เพื่อวิญญาณของคุณมากกว่าที่อาหารทำเพื่อสุขภาพฝ่ายร่างกายของคุณ จงคงอยู่ในพระคำ และคุณจะมีสุขภาพที่ดีและเป็นปกติเสมอ การใคร่ครวญพระคำจะช่วยรักษาโรคเลือด กำจัดเชื้อเอชไอวี และเชื้อไวรัสที่ติดต่อทุกชนิด พระคำจะรักษากระดูก หัวใจ และผิวหนังของคุณ และผลิตชีวิตในตัวคุณ! พระคำจะรักษาแผลที่รักษาไม่หาย จงพูดพระคำต่อความอ่อนแอนั้น จงพูดกับมะเร็ง กับเบาหวาน จงสั่งให้พวกมันได้รับการรักษา และก็จะเป็นดังนั้น จงรักษาตัวของคุณเองให้มีสุขภาพดีด้วยพระคำ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณที่พระคำของพระองค์เป็นยาและชีวิตสำหรับร่างกายของข้าพระองค์ ข้าพระองค์บังเกิดมาจากจาก​เมล็ด​พันธุ์​ที่​ไม่​เสื่อม​สลายแห่งพระคำของพระองค์ ดังนั้นชีวิตของข้าพระองค์จึงได้รับการดูแลโดยพระคำของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:สดุดี 107:17-20; มัทธิว 8:16; สดุดี 34:12-13


เขา​ทูล​ตอบ​ว่า “คือ​คน​นั้น​แหละ​ที่​แสดง​ความ​เมตตา​ต่อ​เขา” พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ท่าน​จง​ไป​ทำ​เหมือน​อย่าง​นั้น” (ลูกา 10:37)

คำพูดในข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเราเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาขององค์พระผู้เป็นเจ้ากับทนายความคนหนึ่งซึ่งถามพระองค์ใน ลูกา 10:25 ว่า “ท่าน​อาจารย์ ข้าพ​เจ้า​จะ​ต้อง​ทำ​อะไร​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์?”

พระเยซูตอบสนองเขาด้วยการบอกคำอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี: นักเดินทางคนหนึ่งได้ถูกปล้นเอาเสื้อผ้าของเขา ถูกทุบตี และถูกทิ้งไว้ในสภาพปางตายที่ข้างทาง ครั้งแรกปุโรหิต และหลังจากนั้นฟาริสีก็ผ่านมา แต่ทั้งคู่ก็หลีกเลี่ยงชายคนนั้น ในที่สุดชาวสะมาเรียคนหนึ่งก็ช่วยชายที่บาดเจ็บนั้น

หลังจากนั้นตามที่ได้อ่านในข้อพระคัมภีร์หลักของเรา พระเยซูตรัสกับทนายที่สงสัยนั้นว่า “ท่าน​จง​ไป​ทำ​เหมือน​อย่าง​นั้น” (ลูกา 10:37) กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือให้ทำสิ่งที่ชาวสะมาเรียทำ สิ่งนี้มีผลกับคุณอย่างไรในวันนี้? เอเฟซัส 5:1 บอกให้เราเลียนแบบพระเจ้าในเรื่องความรัก

ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าและอาณาจักรนิรันดร์ของพระองค์นั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ความรักของพระองค์ พระองค์ต้องการให้ทุกคนในโลกรู้ว่าพระองค์ทรงรักพวกเขามากขนาดไหน พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระ​เจ้า​ทรง​รัก​โลก​ดัง​นี้ คือ​ได้​ประทาน​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์” (ยอห์น 3:16) ความรักของพระองค์เป็นพื้นฐานสำหรับทุกสิ่ง และพระองค์ให้เกียรติเราในการสำแดงและประกาศความรักนั้นในทุกที่ เพราะว่าสิ่งนี้ได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (โรม 5:5)

จงทุ่มเทที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้รู้จักพระคริสต์และมีประสบการณ์กับความรักของพระองค์ จงให้ชีวิตของคุณพรรณาถึงภาพของพระองค์ตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่ชาวสะมาเรียทำ เขาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความรักของพระเจ้าและเราจะต้องทำเหมือนกัน

คำอธิษฐาน

พระบิดาผู้ล้ำค่า ขอบพระคุณสำหรับข้อความแห่งความรอดซึ่งข้าพระองค์ถูกทำให้เป็นความชอบธรรมของพระองค์ในพระเยซูคริสต์ และตอนนี้ข้าพระองค์ได้รับเกียรติในการมีความรับผิดชอบในการเผยแพร่ข่าวประเสริฐแห่งความรักของพระองค์นี้ต่อโลกของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ถูกบังคับจากภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อบอกถึงความรักของพระองค์และสำแดงให้เห็นถึงพระคุณของพระองค์เพื่อพระสิริและคำสรรเสริญของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 5:1-2; ยอห์น 13:34


 ดัง​นั้น พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย โดย​เห็น​แก่​ความ​เมต​ตา​กรุณา​ของ​พระ​เจ้า ข้าพ​เจ้า​จึง​วิง​วอน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ให้​ถวาย​ตัว​ของ​ท่าน​แด่​พระ​องค์ เพื่อ​เป็น​เครื่อง​บูชา​อัน​บริ​สุทธิ์​ที่​มี​ชีวิต และ​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​พระ​เจ้า ซึ่ง​เป็น​การ​นมัส​การ​โดย​วิญ​ญาณ​จิต​ของ​ท่าน (โรม 12:1)

บ่อยครั้งที่ผู้คนมีความปรารถนาที่ไม่สอดคล้องกับแผนการของพระเจ้า พวกเขาไม่สนใจเกี่ยวกับน้ำพระทัยของพระเจ้า ดังนั้นพวกเขาจึงทำสิ่งที่พวกเขาเลือกโดยหวังว่าพระเจ้าจะยอมรับการกระทำของพวกเขา พวกเขาพยายามบังคับให้พระเจ้าทำตามความปรารถนาของพวกเขา แต่การทำแบบนี้จะไม่ได้ผล ถามว่า “ทำไมคุณถึงทำสิ่งเหล่านี้?” และพวกเขาจะบอกคุณว่า “ฉันอธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนี้” สิ่งเท่าที่พวกเขาคิดก็คือว่าพระเจ้าควรยอมรับการกระทำและทางเลือกของพวกเขาเนื่องจากพวกเขาได้ “อธิษฐาน” เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว นั่นเป็นเรื่องไร้ที่สาระ!

มีความแตกต่างระหว่างการทำบางสิ่งเพราะว่าคุณได้ “อธิษฐาน” เกี่ยวกับสิ่งนั้นแล้วและการทำบางสิ่งเพราะว่าพระเจ้าทรงพูดอย่างนั้น และนั่นคือน้ำพระทัยของพระองค์สำหรับคุณ วิธีหลังเป็นจุดที่ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด นั่นคือเป็นการทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณสำเร็จ อย่าพบว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่คุณคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากพระเจ้า แผนการ ความคิด หรือความปรารถนาที่อยู่ในหัวใจของคุณตลอดชีวิตของคุณไม่ได้หมายความว่ามาจากพระเจ้า

มีคนที่มีวิญญาณชั่วตั้งแต่เกิด บางคนได้รับวิญญาณชั่วในขณะที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ความอธรรม และการสำแดงออกของพวกวิญญาณชั่ว นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่บางคนเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความปรารถนาที่ผิดปกติซึ่งคงอยู่กับพวกเขาเป็นเวลาหลายปี และในที่สุดแล้วพวกเขาก็ลงมือทำ

แต่ตอนนี้คุณได้บังเกิดใหม่แล้ว พระเจ้าจึงคาดหวังให้คุณถวายร่างกายของคุณให้พระองค์เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต นอกจากนี้ความคิดของคุณต้องยอมจำนนต่อพระคำของพระองค์ นั่นคือหัวใจของคุณจะต้องถูกควบคุมโดยพระคำ นี่คือเหตุผลของการใคร่ครวญ การใคร่ครวญพระคำจะปกป้องความคิดของคุณในเรื่องของพระเจ้า ในทิศทางของแผนการและเป้าหมายของพระองค์สำหรับชีวิตของคุณ อย่ากระทำตามความปรารถนาทางเนื้อหนังของความคิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกและระบบของมัน จงจดจ่อกับพระคำอยู่เสมอ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

วิญญาณ จิตใจ และร่างกายของฉันนั้นเต็มไปด้วยพระเจ้า ฉันปลดปล่อยแนวความคิด ความคิด และความปรารถนาของพระองค์เท่านั้น พระองค์กำลังทำงานอยู่ในตัวฉันทั้งให้ปรารถนาและทำตามความพึงพอใจของพระองค์ ชีวิตของฉันคือการสำแดงออกของน้ำพระทัยและพระสิริของพระองค์ ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 12:1-2; สุภาษิต 3:5


 มี​ทูต​องค์​หนึ่ง​จาก​ฟ้า​สวรรค์​มา​ปรา​กฏ​ต่อ​พระ​องค์​และ​ช่วย​ชู​กำ​ลัง​พระ​องค์ (ลูกา 22:43)

หนึ่งในผลประโยชน์มากมายของการอธิษฐาน คือทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้นจากความไม่เชื่อเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ความไม่เชื่อนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการไม่สำแดงความเชื่อออกมาในสิ่งที่คุณต้องการจากพระเจ้าเท่านั้น การไม่เชื่อยังรวมถึงการปฏิเสธที่จะทำตามที่พระเจ้าบอกว่าเราควรทำ ลองนึกภาพว่าคุณไม่มีความสุขกับบางสิ่ง และคุณต้องการทำบางอย่าง และพระวิญญาณตรัสว่า “ไม่จำเป็น จงปล่อยเรื่องนี้ไป” แต่คุณก็ยังไปทำตามที่คุณตัดสินใจ นั่นคือความไม่เชื่อ

ลองนึกถึงโมเสสในกันดารวิถี 20 พระเจ้าทรงสั่งให้เขาพูดกับหิน และน้ำจะออกมาจากหินเพื่อให้ชนชาติอิสราเอลดื่ม แต่เนื่องจากโมเสสโกรธประชาชน เขาจึง “ตีหิน” 2 ครั้งแทนที่จะ “พูด” กับหินนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงพอพระทัยและตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “…เพราะ​เจ้า​ไม่​ได้​เชื่อ​เรา​ที่​จะ​ถวาย​ความ​ศักดิ์​สิทธิ์​แก่​เรา​ต่อ​หน้า​คน​อิส​รา​เอล เพราะ​ฉะนั้น​เจ้า​จะ​ไม่​ได้​นำ​คน​ในที่​ประ​ชุม​นี้​เข้า​ไป​ใน​แผ่น​ดิน​ที่​เรา​ได้​ให้​แก่​พวก​เขา” (กันดารวิถี 20:12) พระเจ้าตรัสว่าการไม่เชื่อฟังของโมเสสเป็นผลมาจากความไม่เชื่อ

บางทีถ้าเขาทำตามที่พระเจ้าสั่ง เขาก็จะได้รับการรักษาให้หายจากความโกรธและความไม่พอใจประชาชน นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งของการอธิษฐาน ในสถานที่แห่งการอธิษฐาน คุณควรละทิ้งการระลึกถึงทุกสิ่งและทุกคน สิ่งที่บางคนพูดหรือทำต่อคุณซึ่งคุณไม่ชอบ เมื่อคุณอยู่ในการอธิษฐาน คุณละทิ้งความขุ่นข้องใจและสามัคคีธรรมอย่างถ่อมใจในการทรงสถิตของพระเจ้า วิญญาณของคุณสงบจากการรบกวนหรือสิ่งที่ทำให้วอกแวก ในขณะนั้นคุณสามารถยอมจำนนต่อความรักและทิศทางของพระองค์

ถึงแม้ว่าคุณจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณต้องการบอกพระองค์ บางครั้งพระองค์ก็ขัดจังหวะคุณ พระองค์เริ่มพูดก่อนที่คุณจะพูด ทันใดนั้นความสงสัย ความโกรธ และความหงุดหงิดทั้งหมดก็จะหายไป และคุณก็เข้มแข็งขึ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกับพระเยซูในขณะที่พระองค์อธิษฐานในช่วงเวลาแห่งความปวดร้าว พระคัมภีร์กล่าวว่า “…มี​ทูต​องค์​หนึ่ง​จาก​ฟ้า​สวรรค์​มา​ปรา​กฏ​ต่อ​พระ​องค์​และ​ช่วย​ชู​กำ​ลัง​พระ​องค์” ในสถานที่แห่งการอธิษฐาน พระองค์ได้รับกำลังเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระบิดา

ดังนั้นจงอธิษฐานให้มากขึ้นโดยเฉพาะในวันวาระสุดท้ายนี้ ยิ่งคุณอธิษฐานบ่อยขึ้นเท่าไร คุณก็ยิ่งได้รับการยกชูขึ้นโดยความคิด (วิถีทาง ยุทธวิถี และทิศทางของพระองค์) ของพระวิญญาณบ่อยขึ้นเท่านั้น ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับสันติสุขของพระองค์ซึ่งปกป้องหัวใจและความคิดของข้าพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับโอกาสในการสามัคคีธรรมกับพระองค์ในการอธิษฐานและได้รับการเสริมกำลังเพื่อที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระองค์และดำเนินชีวิตเพื่อพระสิริของพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:ฟีลิปปี 2:13; โรม 8:2627


พระ​เจ้า​ทรง​ประ​สงค์​ที่​จะ​ให้​พวก​เขา​รู้​ว่า ความ​ล้ำ​ลึก​นี้​มี​ศักดิ์​ศรี​อุดม​เพียง​ไร​ใน​หมู่​คน​ต่าง​ชาติ นั่น​คือ​พระ​คริสต์​สถิต​ใน​พวก​ท่าน อัน​เป็น​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​รับ​ศักดิ์​ศรี (โคโลสี 1:27)

บางคนคร่ำครวญว่าพวกเขาได้ทำทุกสิ่งที่พวกเขารู้ แต่ชีวิตของพวกเขาก็ยังคงแตกต่างจากความเป็นจริงแห่งพระคำของพระเจ้า พวกเขาถามคำถามทำนองนี้ว่า “ฉันควรจะทำอะไรมากกว่านี้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ?” “ฉันควรทำอะไรมากกว่านี้เพื่อให้ได้รับการรักษาโรค?” พวกเขาเผชิญหน้ากับคำถามเหล่านี้และคำถามอื่นๆ ในชีวิตที่พวกเขาแสวงหาคำตอบ

ตอนนี้ฉันมีบางอย่างที่จะบอกคุณเกี่ยวกับสิ่งนี้และมันสำคัญมาก นั่นคือวันหนึ่งฉันกำลังมีสามัคคีธรรมที่ยอดเยี่ยมกับองค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับสิ่งอัศจรรย์ที่ผู้เผยพระวจนะได้ทำในพันธสัญญาเดิมและความสามารถที่น่าอัศจรรย์นี้ที่พระองค์ได้ทรงประทานให้แก่ลูก ๆ ของพระองค์ ขณะที่ฉันไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้ในขณะที่มองผ่านพระคัมภีร์ ฉันใคร่ครวญว่า “พระเจ้าต้องการอะไร? แผนการของพระองค์ คือ อะไร? ถ้าเราจะทูลขอสิ่งใดจากพระองค์ เราควรทูลขออะไร?”

หลังจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับฉันว่า “สิ่งใดๆก็ตามที่เจ้าปรารถนาก็ไม่มีสิ่งใดเปรียบเทียบได้กับ “สิ่งเดียวที่จำเป็น” ซึ่งเจ้ามีอยู่แล้ว นั่นคือพระคริสต์ในตัวเจ้า!” พระคริสต์ในตัวคุณครอบคลุมทุกอย่าง นั่นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราได้รับจากพระเจ้า การรับรู้และการยอมรับในความจริงข้อนี้ของคุณจะหยุดความหิวโหยและความปรารถนาในสิ่งอื่นใดของคุณ คุณจะพบว่ามันเป็นสิ่งที่โง่เขลาในการขอสิ่งอื่นใดจากพระเจ้า

ถ้าคุณเพียงแต่ยอมรับว่าพระคริสต์ได้ทรงเลือกที่อยู่อาศัยของพระองค์ในหัวใจของคุณ นั่นก็จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ ทุกสิ่งที่พระองค์ประทานให้นั้นอยู่ในพระองค์ ทุกสิ่งที่พระองค์เป็นอยู่ในพระองค์ จงระลึกว่าความบริบูรณ์ของพระเจ้า ความสมบูรณ์ทั้งสิ้นของพระเจ้า สถิตอยู่ในร่างกายของพระเยซูคริสต์ และเราก็สมบูรณ์ในพระองค์ ถ้านั่นเป็นจริง แล้วคุณยังต้องการอะไรอีก?

นั่นเป็นสาเหตุที่เปาโลกล่าวว่า “ทุก​สิ่ง​นั้น​ล้วนเป็น​ของ​ท่าน” (1 โครินธ์ 3:21-22) เมื่อคุณมีการตระหนักรู้นี้ โลกนี้จะกลายเป็นสิ่งที่เล็กสำหรับคุณ ความกล้าหาญของคุณแข็งแกร่งขึ้นมาก คุณจะไม่กลัวอนาคต ไม่กลัวความมืด ความล้มเหลว หรือการขาดแคลน เพราะว่าในพระองค์ คุณมีและคุณเอาชนะทุกสิ่งแล้ว คุณเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิต สาธุการแด่พระนามของพระองค์ตลอดไป!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ทุกสิ่งเป็นของฉัน ฉันมีชีวิตที่มีสุขภาพดี เจริญรุ่งเรือง มีชีวิตชีวา และประสบความสำเร็จ เพราะว่าพระคริสต์ได้ทรงเลือกที่อยู่อาศัยของพระองค์ในหัวใจของฉัน ฉันไม่มีสิ่งใดต้องกลัว ไม่กลัวอนาคต ไม่กลัวความมืด ไม่กลัวความล้มเหลว เพราะว่าพระคริสต์ในฉันเป็นหลักประกันของชีวิตแห่งชัยชนะอย่างต่อเนื่องและพระสิรินิรันดร์ สรรเสริญพระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:1 โครินธ์ 6:17; กาลาเทีย 3:27; โคโลสี 2:9-10