พฤหัสบดี ที่ 13 สิงหาคม 2015

นำพระคำเข้ามาในคุณ
Get The Word Into You

“การคลี่คลายพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง ทั้งให้ความเข้าใจแก่คนรู้น้อย” (สดุดี 119:130)

    สังเกตถึงข้อคำแนะนำของผู้เขียนสดุดีในข้อพระคำตอนต้น บอกให้เรารู้ว่าการเข้ามาของพระคำพระเจ้านั้นคือสิ่งที่ให้แสงสว่าง นั่นหมายความว่าพระคำจะต้องเข้าไปในวิญญาณของคุณ! พระคำในคุณ ร่วมกับวิญญาณของคุณ คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการ! จะทำให้คุณเป็นในสิ่งที่พระคำได้กล่าวไว้ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ เมื่อพระคำของพระเจ้าเข้ามาภายในคุณ ก็จะนำแสงสว่างมา นี่หมายความว่าคนที่ไม่มีพระคำของพระเจ้าอยู่ในวิญญาณของเขาก็จะไม่มีแสงสว่าง ผลก็คือเดินในความมืด

ด้วยพระคำในวิญญาณของคุณ คุณจะแน่ใจได้ว่ากำลังก้าวหน้าในชีวิต ไม่ได้เป็นเพียงการฟังพระคำในทีวีหรือดีวีดีเท่านั้น แต่เป็นมากกว่านั้น คุณต้องให้พระคำอยู่ภายในคุณ ในหัวใจของคุณ นั่นคือสิ่งที่จะทำให้เกิดความแตกต่าง ถ้าคุณนำเอาเมล็ดข้าวโพดมา และใส่ไว้ในตู้เย็นที่ดีที่สุดในโลก คุณจะไม่มีทางเก็บเกี่ยวผลได้ ถ้าคุณเอาไปฝากไว้ในธนาคารที่ดีที่สุด ในตู้นิรภัยที่ปลอดภัยที่สุด ก็ยังคงเก็บเกี่ยวผลไม่ได้เช่นกัน เพราะว่าไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการที่เมล็ดจะเติบโตได้ เมล็ดจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการที่มันจะเติบโตและออกผล

วิญญาณของคุณคือระบบรองรับสำหรับพระคำของพระเจ้า นั่นคือที่ซึ่งแสงสว่างของพระเจ้าอยู่ “มโนธรรมของมนุษย์เป็นประทีปของพระเจ้า ส่องดูส่วนลึกที่สุดของเขาทั้งสิ้น” (สุภาษิต 20:27) บางคนสามารถท่องจำข้อพระคำได้ขึ้นใจ แต่พระคำไม่เกิดผลอะไรภายในเนื่องจากอยู่ในหัวของเขา ไม่ใช่ในใจของเขา

วิญญาณของคุณจะต้องย่อยพระคำจนกระทั่งส่งผลต่อวิธีการคิดของคุณ และให้แนวความคิดใหม่แก่คุณ ถ้าพระคำไม่ได้เปลี่ยนแปลงความคิดของคุณ พระคำนั้นก็ยังไม่ได้เข้าไปในคุณ และนั่นหมายความว่าผลกระทบของพระคำในชีวิตของคุณก็จะจำกัด ดังนั้นใส่พระคำในคุณ และให้พระคำนั้นคงอยู่ภายในคุณ และเกิดผลตามที่กล่าวไว้ พระคำจะเป็นพลังที่สำคัญสำหรับคุณในการทำให้คุณดำเนินชีวิตตามนั้น

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระเจ้า พระคำของพระองค์อยู่ในหัวใจของข้าพระองค์ และเกิดผลในทุกส่วนในชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยินดีในพระคำของพระองค์ และขณะที่ข้าพระองค์ภาวนาพระคำ ข้าพระองค์ได้รับพลังสำหรับชัยชนะ เปลี่ยนแปลงจากพระสิริสู่พระสิริ และจิตใจของข้าพระองค์ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: โยชูวา 1:8; 1 ทิโมธี 4:15


Comments are closed