อังคาร ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2016

เชื่อในความจริงเสมอ
Believe The Truth Always

“ขอทรงโปรดชำระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง” (ยอห์น 17:17)

    ทางที่ง่ายที่สุดทางหนึ่งที่คริสเตียนจะสามารถยอมจำนนต่ออิทธิพลของมารได้ก็คือเมื่อเขาเชื่อในคำโกหก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณรับพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยการได้รับความจริงแห่งข่าวประเสริฐของพระคริสต์ คุณต้อนรับพระคริสต์เมื่อคุณเชื่อในพระคำของพระเจ้า พระองค์ไม่ได้เข้ามาในคุณเนื่องจากคุณกินหรือกลืนอะไรบางอย่าง แต่เกิดขึ้นโดยผ่านทางพระคำ คุณเชื่อและรับเอาถ้อยคำแห่งข่าวประเสริฐ และพระคริสต์ได้เข้ามาสถิตในใจของคุณ

ในทางเดียวกัน มารก็เข้าไปอยู่ในผู้คนเมื่อพวกเขายอมรับและเชื่อในคำโกหก เมื่อซาตานหลอกลวงผู้คนด้วยคำโกหก มันจะเข้ามาในชีวิตของพวกเขาผ่านคำโกหกเหล่านั้นและเริ่มต้นมีอิทธิพลเหนือพวกเขา นั่นคือเห็นผลที่เมื่อใครบางคนเชื่อในคำโกหก เขาจะเริ่มต้นประพฤติตัวผิดไปจากเดิม อาจเป็นที่ทำงาน ในคริสตจักร ท่ามกลางเพื่อนของเขาหรือที่ทำงาน และทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับคำโกหกที่เขาเชื่อและวิญญาณที่นำการโกหกนั้นมา เมื่อวิญญาณนั้นอยู่อย่างสบายในคนนั้น มันก็จะพามารตัวอื่นเข้ามา และทำให้คนนั้นต้องทนทุกข์ทรมาน

ส่วนที่ร้ายที่สุดก็คือ บางคนถูกหลอกจนกระทั่งเมื่อพบกับความจริงแล้วก็ยังไม่เชื่อหรือยอมรับความจริงนั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าเป็นการทำงานของมาร คนอื่นๆ จะสงสัยในพฤติกรรมของคนนั้น และเหตุผลที่เขาแปลกไป เป็นเพราะว่าวิญญาณชั่วได้ยึดครองความคิดของเขา

แต่เมื่อคุณเรียนรู้และดำเนินชีวิตโดยพระคำ คุณจะสามารถยืนหยัดต่อสู้อิทธิพลของมารร้ายและการหลอกลวงของมัน คุณจะสามารถตัดสินทุกสิ่งด้วยความจริงของพระคำพระเจ้า อย่าเชื่อในคำโกหก เชื่อในความจริงเท่านั้น แล้วคุณจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าอะไรคือความจริง?

ความจริงให้พรและยกชู ความจริงทำให้คุณเติบโต เติมเต็มคุณด้วยความรัก และทำให้คุณเดินและพูดเหมือนพระเจ้า! ความจริงทำให้คุณและคนที่อยู่กับคุณก้าวหน้า ความจริงไม่ทำให้เกิดความสับสน ความเกลียดชัง หรือความขมขื่น ความจริงคือความสว่าง สรรเสริญพระเจ้า!

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณพระองค์สำหรับการสำแดงแห่งพระคำของพระองค์แก่วิญญาณของข้าพระองค์ในวันนี้ ข้าพระองค์ได้รับพร รับการยกชู และการก้าวหน้าโดยพระคำของพระองค์ ซึ่งเป็นความจริงที่ข้าพระองค์ดำเนินชีวิตอยู่ในวันนี้ และตลอดไป ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: ยอห์น 8:31-32


Comments are closed