วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2013

คู่มือความสำเร็จที่ไม่มีข้อผิดพลาด
The Infallible Manual For Success

“บัดนี้ข้าพเจ้าฝากท่านไว้กับพระเจ้าและกับคำแห่งพระคุณของพระองค์ ซึ่งมีฤทธิ์อาจก่อสร้างท่านขึ้นได้ และให้ท่านมีมรดกด้วยกันกับบรรดาวิสุทธิชน” (กิจการ 20:32)

    โยชูวา 1:8 เปิดเผยว่าพระเจ้าได้ทดสอบและรับประกันส่วนประกอบของความสำเร็จที่ไม่มีวันสิ้นสุด “อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้นทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี”

มีหนังสือและคำสอนมากมายเกี่ยวกับความสำเร็จ ซึ่งอาจมีประโยชน์อยู่บ้างในโลกที่ชั่วคราวแห่งนี้ แต่ปราศจากมุมมองฝ่ายวิญญาณ ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลายคนซึ่งอ่านหนังสือเหล่านั้นจะล้มเหลวไม่ช้าก็เร็วในหลักการซึ่งมีพื้นฐานบนสติปัญญาของมนุษย์ มีเพียงพระคำของพระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จที่แท้จริงได้

คุณต้องการพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นผู้เขียนชีวิต เพื่อนำคุณเข้าใจพระคำของพระองค์ และช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิต สดุดี 39:5 กล่าวว่า “…มนุษย์ทุกคนดำรงอยู่อย่างลมหายใจแน่ทีเดียว” สติปัญญาหรือความชำนาญของมนุษย์ ไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณมีชัยชนะในชีวิตได้ รับเอาสติปัญญาของพระเจ้า สุภาษิต 4:7 กล่าวว่า “ปัญญาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉะนั้นจงเอาปัญญา…” และสติปัญญาก็คือพระคำของพระเจ้า

เศรษฐกิจของโลกมีความยุ่งเหยิงในทุกวันนี้ แม้ว่าการทำงานของนักเศรษฐศาสตร์ที่เก่งที่สุดทั่วทั้งโลกก็ตาม หลักเศรษฐศาสตร์และสมมุติฐานต่างๆ กำลังพังทะลายลง แต่พระคำของพระเจ้าได้ให้ความหวังและสติปัญญากับเรา พระเจ้าได้ประทานพระคำของพระองค์แก่เราเพื่อสอนเราในการมีชีวิตที่ชื่นชมยินดี ประสบความสำเร็จ ตื่นเต้น และเจริญรุ่งเรือง

ทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับชีวิตที่ประสบความสำเร็จได้รวมอยู่ในพระคำแล้ว สั่งสมพระคำของพระเจ้าเข้าไว้ในวิญญาณของคุณ! มันเป็นวิธีการที่ไม่มีวันผิดพลาดสำหรับความสำเร็จ ชัยชนะ และชีวิตที่รุ่งเรือง

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคุณของพระองค์ที่สร้างข้าพระองค์ขึ้น และที่ซึ่งข้าพระองค์ดำเนินชีวิตทุกวันในชัยชนะ และความเจริญรุ่งเรือง ในขณะที่ข้าพระองค์ภาวนาพระคำของพระองค์ในวันนี้ ความสำเร็จและความก้าวหน้าของข้าพระองค์ได้สำแดงออกในทุกสิ่ง ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: มัทธิว 7:24-27; 1 ทิโมธี 4:15


Comments are closed