พฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน 2014

การเข้าแทนที่สิ่งเก่าโดยสิ่งใหม่
A Supplanting Of The Old By The New

“เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” (2 โครินธ์ 5:17)

    มีหลักข้อเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับ “สองธรรมชาติ” ที่เชื่อท่ามกลางคริสเตียนบางกลุ่ม พวกเขาเชื่อว่าคริสเตียนมีธรรมชาติสองอย่าง ธรรมชาติเก่าและธรรมชาติใหม่ และถ้าเข้ายอมต่อธรรมชาติเก่าเขาจะทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้าเขายอมต่อธรรมชาติใหม่ เขาจะทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่นไม่ใช่สิ่งที่พระคัมภีร์สอนไว้ คริสเตียนไม่ได้มีสองธรรมชาติ เมื่อคุณบังเกิดใหม่ ธรรมชาติเก่าแห่งความบาปถูกแทนที่ด้วยธรรมชาติแห่งความชอบธรรมของพระเจ้า พระคัมภีร์ประกาศไว้ใน 2 โครินธ์ 5:17 “…สิ่งสารพัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” คริสเตียนบางคนเมื่อทำสิ่งที่ตรงข้ามกับพระคำจะกล่าวว่า “ตัวเก่าของฉันโผล่ออกมา” ถ้าคุณบังเกิดใหม่แล้ว คุณจะไม่มี “ตัวเก่า” อีกต่อไป คุณเป็นสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน คุณมีธรรมชาติเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือธรรมชาติของพระเจ้า ร่างกายของคุณอาจดูเหมือนเดิม แต่ทุกส่วนในชีวิตมนุษย์ซึ่งอยู่ภายในถูกแทนที่ด้วยชีวิตของพระเจ้า! ดังนั้นคุณไม่ควรที่จะต้องอยู่ภายใต้ของโลกนี้หรือธรรมชาติบาป คุณมีชีวิตอยู่เหนือทั้งหมดนั้น

ในโรม 6:6 อาจารย์เปาโลแสดงให้เราเห็นถึงสิ่งที่น่าทึ่งซึ่งลบล้างการที่คริสเตียนบางคนที่บอกว่ามีสองธรรมชาติ เขาเขียนไว้ว่า “เราทั้งหลายรู้แล้วว่า ตัวเก่าของเรานั้นได้ถูกตรึงไว้กับพระองค์แล้ว เพื่อตัวที่บาปนั้นจะถูกทำลายให้สิ้นไป และเราจะไม่เป็นทาสของบาปอีกต่อไป” กระจกของพระเจ้าคือพระคำของพระองค์ แสดงให้คุณเห็นภาพที่แท้จริงของพระคริสต์ แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติเก่าได้ถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ไม่ได้ถูกซ่อนอยู่ลึกภายในคุณพร้อมที่จะออกมาได้ทุกเมื่อ การกระทำในฐานะคริสเตียนในเวลานี้สะท้อนบุคลิกใหม่ของคุณในพระเยซูคริสต์ ธรรมชาติใหม่ของคุณซึ่งเป็นธรรมชาติแห่งความชอบธรรม

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระบิดาในสวรรค์ ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานความชอบธรรมของพระองค์เป็นของขวัญแก่ข้าพระองค์ และเร้าใจให้ข้าพระองค์ตระหนักถึงความชอบธรรม ข้าพระองค์ตายต่อบาปแล้ว และมีชีวิตในพระเจ้า สวมใส่ชีวิตใหม่ ซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่ตามพระลักษณะของพระคริสต์ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: โรม 10:6; โรม 6:13-14


Comments are closed