พุธ ที่ 15 มีนาคม 2017
การตอบสนองของคุณสำคัญ
Your Response Is Important
“พี่น้องทั้งหลาย บัดนี้ข้าพเจ้าฝากท่านไว้กับพระเจ้าและกับพระดำรัสแห่งพระคุณของพระองค์ ซึ่งมีฤทธิ์ก่อสร้างท่านขึ้นได้” (กิจการ 20:32)

    พระคำของพระเจ้าต้องการการตอบสนองจากคุณ คริสเตียนบางคนไม่ได้ตระหนักในสิ่งนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าพระคำมีไว้ทำไม จินตนาการถึงตอนที่ผู้ปกครองของคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสได้รับจดหมายในข้อพระคำตอนต้นจากอาจารย์เปาโล พวกเขากลับไปบ้านพูดว่า “โอ เราชอบในสิ่งที่เปาโลได้บอกไว้” นั่นคงจะไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา หรือสถานการณ์ของพวกเขา

บางคนสามารถบอกคุณว่าเขามีของขวัญสำหรับคุณ และคุณคงจะมีความสุขในการที่เขาแสดงออก ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ของขวัญนั้น คุณอาจจะพูดกับคนนั้นว่า “ฉันดีใจมากในสิ่งที่คุณพูด เป็นพระพรสำหรับฉันมากเลย” คุณได้รับพระพรเพียงเพราะสิ่งที่คนนั้นพูด นั่นเพราะว่าเราสามารถได้รับพระพรโดยถ้อยคำได้ แน่นอนพระคำของพระเจ้าจะอวยพรคุณ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะเดินในความสว่างของพระพรที่พระคำได้กล่าวไว้ คุณจะต้องตอบสนองโดยการยืนยันในสิ่งเดียวที่พระคำได้บอกไว้ “เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสไว้…เพราะฉะนั้นเราอาจกล่าวด้วยความมั่นใจว่า…” (ฮีบรู 13:5-6)

วัตถุประสงค์ของการที่คุณได้รู้จักพระคำก็เพื่อที่พระคำจะเสริมสร้างคุณขึ้น พระคำมีความสามารถในการสร้างคุณ ตอนนี้การตอบสนองของคุณควรที่จะเป็น “พระคำกำลังสร้างข้าพเจ้าขึ้น ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าได้ยินและศึกษาพระคำ ข้าพเจ้าได้รับการเปลี่ยนแปลง ยกชู เสริมกำลัง และความเชื่อของข้าพเจ้าถูกสร้างให้เข้มแข็ง” เมื่อถึงเวลาที่สิ่งนี้กลายเป็นความจริงในวิญญาณของคุณ ทั้งหมดที่คุณเห็นก็จะเป็นความเข้มแข็ง ชัยชนะ ความก้าวหน้า และความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด คุณจะค้นพบว่าคุณกำลังเข้มแข็งและฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ผ่านทางพระคำพระองค์ประทานพระคำของพระองค์แก่เราเพื่อที่เราจะสามารถเห็น เข้าใจ และยืนยันทุกสิ่งที่เป็นของเราในพระเยซูคริสต์

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

    ข้าพเจ้าเป็นในสิ่งที่พระเจ้าบอกว่าข้าพเจ้าเป็น ข้าพเจ้ายอมรับและเดินในแสงสว่างแห่งพระคำของพระเจ้าเกี่ยวกับความรอด ความชอบธรรม สุขภาพ ความรุ่งเรือง และการปกป้องของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีชัยเหนือโลก เพราะว่าผู้ที่อยู่ภายในข้าพเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่า และพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามีชัยในทุกที่ และเกิดผลในทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าทำ สรรเสริญพระเจ้า!
ศึกษาเพิ่มเติม: ฮีบรู 13:5-6; 2 โครินธ์ 4:13


Comments are closed