About rorthai

                  แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ซึ่งพวกท่านได้ทำกับคนใดคนหนึ่งที่เล็กน้อยที่สุดในพี่น้องของเรานี้ ก็เหมือนทำกับเราด้วย’ (มัทธิว 25:40)

ความปรารถนาของพระเจ้าสำหรับคุณคือให้คุณประสบความสำเร็จและมีความสุขอย่างมากเพื่อให้คุณสามารถยื่นมือออกไปช่วยเหลือคนอื่นที่สิ้นหวัง เพราะว่าพระองค์ตรัสว่า “…เรา​จะ​อวย​พร​เจ้า จะ​ให้​เจ้า​มี​ชื่อ​เสียง​ใหญ่​โต แล้ว​เจ้า​จะ​เป็น​พร” (ปฐมกาล 12:2) แทนที่จะเรียกร้องความสนใจและคาดหวังว่าบางคนจะทำให้คุณมีความสุข พระองค์ต้องการให้คุณเป็นคนที่ดูแลคนอื่น

มีคนที่ผิดหวังเพราะพวกเขาคิดว่าคนอื่นไม่สนใจพวกเขา ยิ่งพวกเขาเรียกร้องความสนใจมากเท่าไร ก็ดูเหมือนกับว่าพวกเขาก็ยิ่งเพิกเฉยมากขึ้นและทำให้พวกเขาไม่พอใจมากขึ้น อย่าเป็นอย่างนั้น ฟิลิปปี 2:4 ฉบับ TLB กล่าวว่า อย่าคิดถึงแต่เรื่องของคุณเอง แต่จงสนใจคนอื่นด้วย…” แม้ในการอธิษฐาน อย่าเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง นั่นคือตระหนักถึงแต่ความต้องการของคุณเท่านั้น จงตระหนักถึงความต้องการของคนอื่นด้วย

ฉันจำพี่ชายที่รักคนหนึ่งซึ่งถูกพาเข้ามาร่วมการประชุมของเรา ป่วย และอ่อนแอมาก ในขณะที่เขายังคงพยายามรักษาร่างกายที่ไม่มั่นคงของเขาไว้บนเก้าอี้ ผู้ป่วยอีกคนที่อยู่ในสภาพที่แย่กว่าก็ถูกพาตัวไปวางไว้ข้างเขา สภาพทรุดโทรมของเขาทำให้พี่ชายคนนี้หลั่งน้ำตา และหลังจากนั้นเขาก็พูดว่าเมื่อเขาเห็นชายที่ป่วยคนนี้และสภาพที่น่ากลัวของเขา เขาก็ลืมเกี่ยวกับตัวเองและเริ่มอธิษฐานให้เขาได้รับการรักษา

ชายคนนั้นได้รับการรักษา และเขาก็หายเป็นปกติ! เมื่อคุณเป็นห่วงคนอื่น พระเจ้าจะดูแลความต้องการของคุณ บางทีคุณอาจกำลังอธิษฐานและของานใหม่จากพระเจ้าซักพักนึงแล้ว ทำไมคุณไม่อธิษฐานเผื่อคนอื่นที่ตกงานด้วยล่ะ? แทนที่จะจมอยู่กับปัญหาในครอบครัวของคุณ จงเริ่มอธิษฐานเผื่อครอบครัวอื่นๆรอบตัวคุณ เมื่อคุณดำเนินชีวิตอยู่กับการตระหนักรู้นี้ การอัศจรรย์จะเกิดขึ้นในชีวิตของคุณโดยที่คุณไม่ต้องขอ ฮาเลลูยา!

จงเต็มไปด้วยพระคุณมากพอที่จะช่วยเหลือคนอื่นเสมอและรักมากพอที่จะดูแลพวกเขา คุณเป็นแขนแห่งพระพร ความรัก และการเอาใจใส่ของพระเจ้าที่ยื่นออกไปต่อโลกของคุณ จงคิดถึงตัวคุณเองแบบนี้ในวันนี้ เพราะว่านั่นคือความคิดที่พระเจ้าทรงมีต่อคุณ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

พระเจ้าสามารถทำให้พระคุณทั้งหมด ความโปรดปรานและพระพรฝ่ายโลกทุกประการ มาถึงฉันอย่างบริบูรณ์ เพื่อฉันจะมีสิ่งที่จำเป็นอย่างเพียงพอสำหรับตนเสมอในทุกสถานการณ์ มีอย่างเพียงพอจนไม่ต้องการความช่วยเหลือ หรือการสนับสนุน และถูกตกแต่งอย่างบริบูรณ์สำหรับงานที่ดีทุกอย่างและการบริจาคเพื่อการกุศล ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม

2 โครินธ์ 9:8; 1 เปโตร 4:11


วันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ (ปฐมกาล 2:2)

อ่านเรื่องราวแห่งการทรงสร้างในพระธรรมปฐมกาล: หลังจากที่พระเจ้าทรงเห็นว่าทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างนั้นดีมาก น่าพึงพอใจ และยอดเยี่ยมในทุกๆด้าน พระองค์ก็หยุดจากการงานของพระองค์และพักในวันที่เจ็ด วันที่เจ็ดนั้นเป็นวันแรกของมนุษย์ เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็เขาพบว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว ไม่มีอะไรเหลือให้มนุษย์ทำนอกจากเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ทรงสร้าง ดูแลสิ่งเหล่านั้น และชื่นชมพระผู้สร้างของเขา นี่เป็นเงาของวันสะบาโตและการพักผ่อนสำหรับประชากรของพระเจ้า คุณบังเกิดเข้าสู่การหยุดพักของพระองค์ (ฮีบรู 4:9-10)

ทันทีที่คุณตระหนัก ยอมรับ และเริ่มทำงานในความจริงนี้ ชีวิตของคุณก็จะมีความหมายใหม่อย่างอัตโนมัติ การต่อสู้ดิ้นรนทั้งหมดของคุณจะจบลง การบาดเจ็บและความยุ่งยากที่ผู้คนพบเจอในแต่ละวันจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณอีกต่อไป

มีผู้คนที่ดำเนินชีวิตอย่างต่อสู้ดิ้นรนตลอดไป พวกเขาไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยไม่ต้องทะเลาะกับมาร พวกเขาต้องต่อสู้เสมอตลอดชีวิต อธิษฐาน และอดอาหารเป็นเวลาหลายวัน และขับผีทุกชนิด นี่เป็นประสบการณ์ของพวกเขาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ พวกเขาต้องต่อสู้ใน “สงครามฝ่ายวิญญาณ” ที่เข้มข้นก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยได้ เมื่อถึงเวลาที่จะสำเร็จการศึกษา เงื่อนไขต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ยากพอกัน และพวกเขาต้องต่อสู้กับสงครามแบบเดียวกัน การหางานหลังจบการศึกษาก็เช่นเดียวกัน การหาคู่สมรสและเลี้ยงดูลูกก็ไม่แตกต่างกัน ชีวิตของพวกเขาคือสายแห่งความลำบากและความยากเข็ญที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง

ถ้าคุณบังเกิดใหม่แล้วและเต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณควรจะดำเนินชีวิตแห่งความชื่นชมยินดีและการพักผ่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่ซึ่งคุณสะสมความสำเร็จซ้อนทับความสำเร็จผ่านทางฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจวิธีการใช้และเพลิดเพลินไปกับมรดกของพระเจ้าของคุณในพระคริสต์ คุณก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินใน “ชีวิตแห่งการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด” เหมือนกับคนที่เราเพิ่งบรรยายถึง จงปฏิเสธชีวิตแบบนั้น

จงโอบกอดชีวิตที่ปราศจากความเครียดในพระคริสต์ พระองค์ตรัสไว้ใน มัทธิว 11:28 ว่า “บรร​ดา​ผู้​เหน็ด​เหนื่อย​และ​แบก​ภาระ​หนัก จง​มา​หา​เรา และ​เรา​จะ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​หยุด​พัก” คุณได้มาถึงพระองค์แล้วในการรับความรอด และพระองค์ได้ประทานการพักผ่อนให้แก่คุณแล้ว “เพราะ​ว่า​คน​ใด​ที่​ได้​เข้า​สู่​การ​หยุด​พัก​ของ​พระ​องค์​แล้ว ก็​ได้​หยุด​พัก​จาก​งาน​ของ​ตน​เอง เหมือน​อย่าง​ที่​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​หยุด​พัก​จาก​พระ​ราช​กิจ​ของ​พระ​องค์” (ฮีบรู 4:10) นี่คือความเป็นจริงแห่งชีวิตของคุณ

พระเยซูเจ้าไม่ได้เฆี่ยนมารเพื่อปล่อยให้เรายังต้อง “ต่อสู้” และดิ้นรนในชีวิตของเรา การเสียสละแทนเราของพระองค์และการงานของพระองค์ได้ประทานชัยชนะให้แก่เราอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจงเปลี่ยนวิธีคิดที่จำเป็นต้องเปลี่ยนของคุณและยอมรับพระคำของพระองค์ในวันนี้ จงยอมรับชีวิตแห่งความชื่นชมยินดี สันติสุขและพระสิริที่พระองค์ได้ประทานให้แก่คุณ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้ชีวิตของฉันง่าย เปี่ยมด้วยพระสิริ และน่าตื่นเต้น ฉันดำเนินชีวิตที่ปราศจากการดิ้นรนและความเครียดในพระคริสต์ ฉันอยู่ในการหยุดพักของพระเจ้า ดังนั้นฉันจึงเพลิดเพลินไปกับชีวิตแห่งความชื่นชมยินดี สันติสุขกับความเจริญรุ่งเรือง! สรรเสริญพระเจ้า

ศึกษาเพิ่มเติม

มัทธิว 11:28-30; ฮีบรู 4:10


เพราะว่าพวกท่านจะพ้นผิดหรือถูกตัดสินลงโทษ ก็เพราะคำพูดของท่าน (มัทธิว 12:37) 

คำพูดแบบไหนที่ออกมาจากคุณและคุณเอาคำเหล่านั้นมาจากไหน? ทำไมคุณจึงพูดในสิ่งที่คุณพูด? นี่เป็นคำถามที่สำคัญสำหรับหัวใจของคุณ ในฐานะที่เป็นคริสเตียน คุณควรตรวจสอบชีวิตของคุณเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำพูดของคุณ เพราะว่าคำพูดของคุณชี้จุดที่คุณอยู่ สิ่งเหล่านี้เปิดเผยลักษณะนิสัยของคุณ

ถ้าคำพูดของชายคนหนึ่งนั้นทำร้ายและกัดกิน นั่นคือสิ่งที่เขาเป็นจากภายใน แต่ถ้าคำพูดของคุณเปี่ยมไปด้วยพระคุณ พระเมตตา ยกชู และหนุนใจ นั่นเป็นลักษณะแห่งบุคลิกภาพของคุณ คุณเป็นลักษณะนิสัยของคำพูดของคุณ พระเยซูตรัสใน มัทธิว 12:35 ว่า “คน​ดี​ก็​เอา​ของ​ดี​มา​จาก​คลัง​แห่ง​ความ​ดี​ใน​ตัว​ของ​เขา คน​ชั่ว​ก็​เอา​ของ​ชั่ว​มา​จาก​คลัง​แห่ง​ความ​ชั่ว​ใน​ตัว​ของ​เขา” ในฐานะที่เป็นคริสเตียนคุณมีขุมทรัพย์ที่ดีอยู่ภายในตัวคุณเนื่องจากธรรมชาติของพระเจ้าของคุณในพระคริสต์ มีความเป็นเลิศอยู่ในวิญญาณของคุณ ดังนั้นเมื่อคุณพูดก็ควรจะออกมาจากความอุดมสมบูรณ์นั้น

พระเยซูยังตรัสอีกด้วยว่า “และ​ให้​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​เรา​ดื่ม ตาม​ที่​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘แม่​น้ำ​ที่​มี​น้ำ​ดำ​รง​ชีวิต​จะ​ไหล​ออก​มา​จาก​ภาย​ใน​คน​นั้น’ ” (ยอห์น 7:38) พระคัมภีร์บอกให้เรารู้ว่าพระองค์กำลังพูดถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งผู้ที่เชื่อในพระองค์จะได้รับ (ยอห์น 7:39) ดังนั้นการทรงสถิตของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของคุณหมายความว่าคุณสามารถเปิดใช้แม่น้ำธำรงชีวิตซึ่งออกมาทางคำพูด คำพูดของพระเจ้า!

นี่หมายความว่าถ้าคริสเตียนพูดคำหยาบ ทะลึ่ง หรือขมขื่น เขาก็กำลังแสดงคุณลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติที่แท้จริงของเขา ยากอบ 3:11 บอกเราว่าน้ำจืดและน้ำเค็มไม่ได้ออกมาจากน้ำพุเดียวกัน สิ่งที่คุณมีคือน้ำจืดจากน้ำพุของพระเจ้าที่อยู่ภายในตัวคุณ คุณไม่ได้มีน้ำกร่อย คุณมีแต่สิ่งที่ดีและพระพรภายในตัวคุณ ซึ่งจะถูกเปิดเผยทุกครั้งที่คุณพูด

คำพูดของคุณเป็นตัวชี้วัดที่แท้จริงถึงวุฒิภาวะของคุณในฐานะที่เป็นคริสเตียน “…ถ้า​ใคร​ไม่​เคย​ทำ​ผิด​ทาง​คำ​พูด [ไม่เคยพูดสิ่งที่ผิด] คน​นั้น​ก็​เป็น​คน​ดี​พร้อม​และ​สมบูรณ์แบบด้วย…” (ยากอบ 3:2 ฉบับ AMPC) ผ่านทางถ้อยคำ จงปล่อยให้สิ่งดีจากภายในของคุณไหลออกมาสู่โลกของคุณอย่างมากมาย จงนำการรักษาและชีวิตมาสู่ผู้อื่น จงนำความหวัง ความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญมาให้แก่พวกเขา จงทำแผนภูมิเส้นทางของคุณในชัยชนะจากพระสิริไปสู่พระสิริด้วยถ้อยคำที่ดีที่เต็มไปด้วยความเชื่อของคุณ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ด้วยถ้อยคำที่ดีที่เต็มไปด้วยความเชื่อของฉัน ฉันทำแผนภูมิเส้นทางของฉันในชัยชนะจากพระสิริสู่พระสิริ โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฉันพูดชีวิตและพระปัญญาตลอดเวลา ฉันดำเนินชีวิตอยู่ในสุขภาพของพระเจ้า ความอุดมสมบูรณ์เหนือธรรมชาติ และในความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองที่ต่อเนื่อง ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

2 โครินธ์ 4:13; มาระโก 11:23


ท่านอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย” 

(ฮีบรู 13:5)

นี่เป็นสิ่งที่น่าทึ่งจริงๆ! องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่าพระองค์จะไม่ปล่อยให้คุณสิ้นหวังหรือทอดทิ้งคุณ ฉบับ Amplified Classic Translation ช่วยให้เรารู้ด้วยการซ้ำประโยคว่า “เราจะไม่” 3 ครั้ง (เพื่อเน้น) “… เราจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังในทางหนึ่งทางใด หรือล้มเลิกในตัวเจ้า หรือทิ้งเจ้าไว้โดยไม่สนับสนุน [เราจะ] ไม่ [เราจะ] ไม่ [เราจะ] ไม่ปล่อยให้เจ้าสิ้นหวังเลย หรือทอดทิ้ง หรือทำให้ [เจ้า] ผิดหวัง (จงผ่อนคลาย เรายึดเจ้าไว้!) [แน่นอนว่าไม่]”

พระคัมภีร์ข้อนี้เองทำให้ระลึถถึงพระคำของพระเยซูใน ยอห์น 14:18 ว่า “เรา​จะ​ไม่​ละ​ทิ้ง​พวก​ท่าน​ไว้​ให้​เป็น​ลูก​กำพร้า เรา​จะ​มา​หา​ท่าน” ใช่ พระเยซูอยู่ในสวรรค์ แต่พระองค์ไม่ได้ทิ้งเราไว้ให้ปราศจากการสนับสนุน พระองค์ไม่ได้ปล่อยให้เราโดดเดี่ยว ถูกทอดทิ้ง เปล่าเปลี่ยว หรือเกยตื้น พระองค์ทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มาให้แก่เรา ไม่ใช่แค่อยู่กับเราเท่านั้น แต่เพื่ออยู่ในเรา พระวิญญาณเดียวกันนั้นได้กลายเป็นความกล้าหาญของคุณ ความช่วยเหลือของคุณ ความพอเพียงของคุณ และทุกสิ่งทุกอย่างของคุณ

จงมอบชีวิตของคุณไว้ที่พระองค์  สามัคคีธรรมกับพระองค์ และพระองค์จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง พระองค์บอกว่าพระองค์จะไม่หยุดยึดคุณไว้ หมายความว่าพระองค์อยู่กับคุณตลอดเส้นทางในการเดินทางของชีวิตเพื่อเห็นว่าคุณจะชนะเสมอ พระองค์รู้วิธีดูแลคุณ

ความช่วยเหลือของพระองค์เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรสงสัยเลย นั่นคือเป็นสิ่งที่ถูกรับประกัน พระคัมภีร์กล่าวว่าพระองค์เป็น “​ความ​ช่วย​เหลือ​ที่​พร้อม​อยู่​ใน​ยาม​ยาก​ลำ​บาก” (สดุดี 46:1) ถ้าคุณพบว่าตัวเองอยู่ในปัญหาหรือสถานการณ์ที่ยากลำบาก จงแน่ใจว่าคุณไม่ได้อยู่ตามลำพัง พระองค์จะพาคุณออกไปหรือแสดงให้คุณเห็นว่าต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะออกมาอย่างผู้ชนะ

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นข้อได้เปรียบสูงสุด ที่ลี้ภัย และพระกำลังของคุณ จงตระหนัก และและซาบซึ้งในการงานของพระองค์ในชีวิตของคุณ และรักพระองค์ด้วยสุดหัวใจของคุณ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่รัก ฉันยอมรับรู้พระองค์ในฐานะผู้ที่นำพาฉันไปสู่ความสำเร็จและชัยชนะ ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงเป็นความได้เปรียบสูงสุด ที่ลี้ภัย และพระกำลังของฉัน ความช่วยเหลือที่​พร้อม​อยู่​ใน​ยาม​ยาก​ลำ​บากของฉัน ฉันได้รับการช่วยเหลืออย่างมากจากพระองค์ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าฉันจะก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง และเติบโตขึ้นตลอดเวลา ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

ยอห์น 14:16; ยอห์น 14:26


เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า ไม่ใช่มาจากการกระทำ เพื่อไม่ให้ใครอวดได้ (เอเฟซัส 2:8-9)

มีคนที่คิดว่าพวกเขาควรได้รับการยอมรับจากพระเจ้าหรือได้รับพระพรจากพระองค์สำหรับสิ่งดีที่พวกเขาทำ พวกเขาไว้วางใจในความชอบธรรมของพวกเขาเอง แต่สิ่งที่พระเจ้าทรงประทานรางวัลให้คือความเชื่อในการงานที่สำเร็จแล้วของพระคริสต์ นั่นคือในการงานแห่งการทดแทนของพระองค์เพื่อคุณ

อัครทูตเปาโลเปิดเผยสำแดงถึงความไร้ผลของการไว้วางใจในการทำดีหรือการรักษาธรรมบัญญัติเพื่อตอบคำถามแทนคุณต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า เขาเขียนว่า “ข้าพ​เจ้า​ถือ​ว่า​ทุก​สิ่ง​เป็น​การ​ขาด​ทุน เพราะ​เหตุ​คุณ​ค่า​อัน​สูง​ยิ่ง​ของ​การ​ได้​รู้​จัก​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​ข้าพ​เจ้า เพราะ​เหตุ​พระ​องค์​ข้าพ​เจ้า​ยอม​ขาด​ทุน​ทุก​อย่าง และ​ถือ​ว่า​สิ่ง​เหล่า​นั้น​เป็น​เหมือน​เศษ​ขยะ​เพื่อ​ว่า​ข้าพ​เจ้า​จะ​ได้​พระ​คริสต์​เป็น​กำ​ไร และ​จะ​ได้​เห็น​ว่า​ข้าพ​เจ้า​อยู่​ใน​พระ​องค์ ไม่​มี​ความ​ชอบ​ธรรม​ที่​ได้​มา​จาก​ธรรม​บัญ​ญัติ มี​แต่​ที่​ได้​มา​โดย​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์ คือ​ความ​ชอบ​ธรรม​ที่​มา​จาก​พระ​เจ้า​โดย​ความ​เชื่อ” (ฟีลิปปี 3:8-9)

จงสังเกตว่าส่วนที่ขีดเส้นใต้เปิดเผยให้เห็นบทสรุปของข่าวประเสริฐซึ่งจะพบในพระคริสต์ ไม่มีความชอบธรรมของคุณเอง แต่ยอมรับความชอบธรรมของพระเจ้าผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์

อย่าพยายามทำให้พระเจ้าประทับใจด้วย “ศาสนา” ของคุณ พระองค์ได้ทรงอวยพรคุณแล้วด้วยพระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการในสวรรคสถานในพระคริสต์ (เอเฟซัส 1:3) ไม่มีสิ่งใดที่คุณต้องการซึ่งไม่ได้เป็นของคุณแล้วในพระคริสต์ ทุกสิ่งที่พระองค์เป็นเจ้าของนั้นเป็นของคุณ

จงระลึกว่าพระองค์ได้ทรงประทานชีวิตของพระองค์ให้แก่คุณ ดังนั้นความเชื่อของคุณจึงควรยึดกับสิ่งที่พระคริสต์ได้เสด็จมาทำ นั่นคือสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำให้สำเร็จแล้วเพื่อคุณและในตัวคุณ เหตุผลสำหรับสุขภาพของพระเจ้า ความเจริญรุ่งเรืองของพระเจ้า และชีวิตแห่งชัยชนะและพระพรที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั้นคือพระคริสต์ได้ทรงทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นของคุณแล้ว การมุ่งเน้นและความไว้วางใจของคุณควรอยู่ที่พระองค์ และในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และบุคคลที่พระองค์เป็น ไม่ใช่ในการงานของคุณ

คำอธิษฐาน

สาธุการแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงยิ่งใหญ่และสมควรแก่การสรรเสริญอย่างมาก ขอบพระคุณที่อวยพรแก่ข้าพระองค์ด้วยพระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการในสวรรคสถานในพระเยซูคริสต์ และทำให้ข้าพระองค์เป็นผู้ร่วมส่วนของมรดกที่เปี่ยมไปด้วยพระสิริของธรรมิกชนในอาณาจักรแห่งความสว่าง ชีวิตของข้าพระองค์คือคำพยานถึงพระคุณและการสำแดงออกของพระสิริ ความเป็นเลิศ และความชอบธรรม ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

2 เปโตร 1:3; 1 โครินธ์ 3:21; โรม 4:14