ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น (ฮีบรู 11:1)

ความหวังเป็นคุณธรรมที่ดี แต่ไม่ได้เปลี่ยนสภาพของคุณ มีความแตกต่างระหว่างความเชื่อและความหวัง ความหวังเป็นเรื่องของอนาคต แต่ความเชื่อคือเรื่องของปัจจุบัน จงเข้าใจสิ่งนี้จากมุมมองนี้: พระเยซูถูกเผยพระวจนะว่าเป็นความหวังของประชาชาติ นั่นคือพระองค์เป็นความหวังของอิสราเอล พระองค์ถูกเรียกว่าความหวังแห่งความรอด

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือถ้ามนุษย์จะได้รับความรอด พระบุตรของพระเจ้าจะต้องเสด็จมา จะต้องมีเครื่องบูชาสำหรับความบาปของโลกนี้ และพระเยซูคือเครื่องบูชานั้น เมื่อยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาเห็นพระองค์ เขาก็ร้องอุทานว่า “จง​ดู​พระ​เมษ​โป​ดก​ของ​พระ​เจ้า ผู้​ทรง​รับ​บาป​ของ​โลก​ไป” (ยอห์น 1:29)

ตอนนี้พระเยซูเสด็จมาและทำให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จ พระองค์ถูกตรึงที่ไม้กางเขนแทนเรา พระองค์จ่ายราคาเต็มจำนวนสำหรับความบาปของมนุษย์ และหลังจากนั้นพระเจ้าก็ทรงยกพระองค์ขึ้นเพื่อประทานมรดกให้แก่เรา โคโลสี 1:12 กล่าวว่า “และ​ให้​ท่าน​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​บิดา​ผู้​ทรง​ทำ​ให้​พวก​ท่าน​สา​มารถ​มี​ส่วน​ใน​มร​ดก​ของ​ธรร​มิก​ชน​ใน​ความ​สว่าง” ตอนนี้พระเจ้าได้ทรงประทานมรดกให้แก่เราผ่านทางพระเยซูคริสต์แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะหวังในสิ่งนี้

“ความหวัง” (พระเยซู) เสด็จมาและทำให้ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงส่งพระองค์มาเพื่อประทานและทำเพื่อเราสำเร็จ ฮาเลลูยา! ทุกสิ่งที่คุณปรารถนาจากพระเจ้าได้ถูกทำให้บรรลุผลสำเร็จและมอบให้แก่คุณแล้วในพระเยซูคริสต์ ตอนนี้คุณต้องทำตามความเชื่อของคุณ

อย่าพูดว่า “ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งความเจ็บป่วยนี้จะออกไปจากร่างกายของฉัน” หยุดหวัง จงทำตามความเชื่อของคุณ ถ้าสภาพต้องเปลี่ยนแปลงก็จะต้องเกิดขึ้นโดยความเชื่อ ความเชื่อเข้าครอบครอง เดี๋ยวนี้! ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ความเชื่อของฉันทำงานและมีชัยตอนนี้! ในพระนามของพระเยซู ฉันเดินในความสว่างแห่งมรดกของฉันในพระคริสต์ในฤทธิ์อำนาจและพระคุณ ดำเนินชีวิตอยู่ในสุขภาพของพระเจ้าและความเจริญรุ่งเรืองเหนือธรรมชาติ ฉันมีชัยชนะตลอดไป เพราะว่าฉันดำเนินชีวิตอยู่ในและโดยพระคำ อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

เอเฟซัส 6:16; 1 ยอห์น 5:4; ฮีบรู 11:1


ประชาชาติทั้งสิ้นได้ล้อมข้าพเจ้า แต่โดยพระนามพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะห้ำหั่นพวกเขา (สดุดี 118:10)

คำว่า “จะ” ที่ขีดเส้นใต้ในข้อพระคัมภีร์ข้างบนไม่ได้มีอยู่ในต้นฉบับภาษาฮีบรู แต่เป็นการยืนยัน เช่นเดียวกับฉบับแปลอื่นๆ หลายฉบับ ฉบับ NIV แปลได้อย่างถูกต้องด้วยการกล่าวว่า “ประชาชาติทั้งสิ้นได้ล้อมข้าพเจ้า แต่โดยพระนามพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าห้ำหั่นพวกเขา” เขาไม่ได้กล่าวว่า “…ข้าพเจ้าจะห้ำหั่นพวกเขา”

ดาวิดกำลังทำการป่าวประกาศในพระวิญญาณก่อนที่เขาจะทำลายศัตรูของเขาด้วยดาบ เขาต้องทำลายพวกเขาด้วยคำพูดก่อน สิ่งนี้สำคัญมากเพราะมันแสดงให้เราเห็นว่าเราควรจัดการกับปฏิปักษ์อย่างไร คุณจะต้องกำจัดอิทธิพลของซาตานต่อบรรดาประเทศ ผู้นำ และรัฐบาลของโลกนี้ นั่นคือสิ่งที่คุณทำในการอธิษฐานเพื่อชาติและผู้นำ

ดาวิดเน้นที่วลีว่า “ห้ำหั่น” เพราะบางครั้งคุณต้องพูดหลายๆครั้ง เมื่อเราได้ยินเรื่องสงคราม การระบาดใหญ่ ความไม่มั่นคง เศรษฐกิจตกต่ำ ฯลฯ และเราสังเกตเห็นว่าซาตานกำลังฉวยโอกาสจากสิ่งเหล่านั้นเพื่อให้ผู้คนหวาดกลัวและนำประเทศไปในทางที่ผิด เราก็ก้าวเข้ามา เช่นเดียวกับดาวิดเราตัดอิทธิพลของซาตานออกไป

เมื่อคุณเห็นปฏิปักษ์กำลังอาละวาด ยึดจับตัวประเทศไว้ในรูปแบบใดก็ตาม อย่าเงียบ นั่นคือตัดอิทธิพลของมันออกไปด้วยคำอธิษฐานและถ้อยคำที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อของคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่า “เพราะ​ว่า​พระ​ดำ​รัส​ของ​กษัตริย์​นั้น​มี​อำ​นาจ…” (ปัญญาจารย์ 8:4) และเราเป็น​กษัตริย์และ​ปุโร​หิต​ของ​พระ​เจ้า​ (วิวรณ์ 1: 6)

แม้ในขณะนี้ด้วยสิทธิอำนาจที่ได้ถูกมอบให้แก่เราในพระนามของพระเยซูเจ้า จงเข้ามาแทนที่และกำจัด​เทพ​ผู้​ครอง ศักดิ​เทพ เทพ​ผู้​ครอง​พิภพ​ใน​โมหะ​ความ​มืด​แห่ง​โลก​นี้ และความชั่วร้ายฝ่ายวิญญาณในที่สูงออกไป จงขับไล่พวกมันออกไปจากบ้าน โรงเรียน รัฐบาล และจากสถานที่สาธารณะ สรรเสริญพระเจ้า!

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่ทรงล้ำค่า ขอบพระคุณสำหรับสิทธิอำนาจในพระนามของพระเยซูซึ่งทำให้เรามีชัยเหนือซาตานและเพื่อนพ้องของมัน โดยสิทธิอำนาจนั้นฉันตัด​เทพ​ผู้​ครอง ศักดิ​เทพ เทพ​ผู้​ครอง​พิภพ​ใน​โมหะ​ความ​มืด​แห่ง​โลก​นี้ และความชั่วร้ายฝ่ายวิญญาณในที่สูงออกไปจากทุกส่วน องค์การ และแง่มุมของรัฐบาลในประเทศของฉัน ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

สดุดี 118:10-12; เอเฟซัส 6:12


พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3:16)

พระเจ้าของเราทรงพระคุณและพระเมตตา ความรักที่พระองค์ทรงมีต่อมนุษย์นั้นเกินความเข้าใจของมนุษย์ มันคือความรักที่ไร้ขีดจำกัด ยอห์น 15:13 กล่าวว่า “ไม่​มี​ใคร​มี​ความ​รัก​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​นี้ คือ​การ​สละ​ชีวิต​เพื่อ​มิตร​สหาย​ของ​ตน”

พระเยซูเจ้าทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเราอย่างที่ไม่มีใครเคยมีใครทำมาก่อน พระองค์เป็นพระเจ้าและปราศจากบาป ถึงกระนั้นพระองค์ก็กลายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อความบาปของโลกนี้ พระองค์ได้ถูกตรึงบนไม้กางเขนตามน้ำพระทัยของพระองค์เองเพื่อแทนที่คนอื่น ลองคิดถึงสิ่งนี้ พระองค์เข้ามาแทนที่ความบาปของเราบนไม้กางเขนเพื่อที่เราจะได้รับความชอบธรรมของพระองค์ “พระ​เจ้า​ทรง​ทำ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ไม่​มี​บาป​ให้​บาป เพราะ​เห็น​แก่​เรา เพื่อ​เรา​จะ​ได้​เป็น​คน​ชอบ​ธรรม​ของ​พระ​เจ้า​ทาง​พระ​องค์” (2 โครินธ์ 5:21)

คุณจะบรรยายถึงความรักเช่นนี้ที่ทำให้พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์แทนคนบาปได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นอาชญากร ฆาตกร โจรฯลฯ ? พระองค์เสด็จมา ดำเนินชีวิต ทำการอัศจรรย์ สิ้นพระชนม์ และเป็นขึ้นมาจากความตาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะความรักที่มีต่อมนุษย์ ทุกสิ่งที่พระองค์ทำก็เนื่องจากความรักที่มีต่อมนุษย์ เมื่อพระองค์ทรงป่าวประกาศถึงพระประสงค์ในการเสด็จมาของพระองค์ใน ยอห์น 10:10 ว่าเพื่อที่มนุษย์จะได้ชีวิตและมีอย่างครบบริบูรณ์ ชีวิตที่พระองค์ได้ทรงมอบให้แก่เรานั้นเป็นชีวิตของพระพร ความชื่นชมยินดี และความโปรดปรานตลอดไป ฮาเลลูยา!

ตอนนี้ในฐานะของผลลัพธ์ที่พระเยซูทรงกระทำ เราจึงบริสุทธิ์และปราศจากตำหนิจำเพาะพระพักตร์พระองค์ในความรัก เราสามารถยืนอยู่จำเพาะพระพักตร์พระเจ้าได้อย่างกล้าหาญโดยปราศจากความรู้สึกผิด ความรู้สึกต้อยต่ำ หรือการกล่าวโทษ คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกไม่มั่นคงหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานะของคุณกับพระเจ้า จงกล้าหาญ มั่นใจ แน่ใจ และยินดีที่คุณเป็นของพระองค์ ที่พระองค์ได้ทรงนำคุณเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ฮาเลลูยา

ไม่ว่าคุณจะเคยอยู่ที่ไหน ไม่ว่าคุณจะเคยทำอะไร เคยอยู่ในความบาปลึกขนาดไหน คุณก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีไปจากพระเจ้า พระองค์กล่าวใน อิสยาห์ 1:18 ว่า “…ถึง​บาป​ของ​เจ้า​เป็น​เหมือน​สี​แดง​เข้ม ก็​จะ​ขาว​อย่าง​หิมะ ถึง​มัน​จะ​แดง​เหมือน​ผ้า​แดง ก็​จะ​เป็น​อย่าง​ขน​แกะ”

จงโอบกอดความรักของพระองค์ จงวางชีวิตของคุณไว้ที่พระองค์ บางทีคุณอาจไม่เคยบังเกิดใหม่มาก่อน นี่คือช่วงเวลาของคุณ เปิดไปที่หน้าอธิษฐานต้อนรับพระเยซูในหน้าที่ 74 แล้วอธิษฐานตามคำอธิษฐานนั้นด้วยสุดหัวใจของคุณ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับความรักที่ยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้ทรงรักข้าพระองค์ ขอบพระคุณที่ทรงเลือกข้าพระองค์ก่อนที่จะวางรากฐานของโลกนี้เพื่อที่จะบริสุทธิ์ ปราศจากตำหนิ และได้รับการยอมรับจำเพาะพระพักตร์ของพระองค์ด้วยความโปรดปรานตามน้ำพระทัยของพระองค์ ข้าพระองค์เดินในการตระหนักรู้ว่าพระองค์ทรงรักข้าพระองค์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่มีเงื่อนไข ได้รับการป่าวประกาศว่าชอบธรรม และอยู่ในสันติสุขกับพระองค์ ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

1 ยอห์น 3:1-2; 1 ยอห์น 3:16; 1 ยอห์น 4:19


ไม่ว่าพวกท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนทำต่อมนุษย์ (โคโลสี 3:23)

พวกเราแต่ละคนถูกเรียกให้ทำบทบาทที่เป็นเอกลักษณ์ในพระคริสต์ให้สำเร็จ เราทุกคนต่างก็มีงานที่ได้รับมอบหมายที่แตกต่างกันจากพระเจ้า ก็เหมือนกับในสมัยพระคัมภีร์ งานมอบหมายบางอย่างอาจยิ่งใหญ่กว่าหรือกว้างขวางกว่างานอื่นๆ แต่วิธีที่คุณปฏิบัติงานในงานที่ได้รับมอบหมายนั้นได้รับการตัดสินจากความสัตย์ซื่อของคุณ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิพากษาและให้รางวัลแก่คุณบนพื้นฐานของความสัตย์ซื่อในการรับใช้ต่องานมอบหมายที่มอบให้แก่คุณ ไม่ใช่งานที่มอบหมายให้แก่บุคคลอื่น

จงระลึกว่าพระองค์คือผู้ที่ให้ความสามารถแก่คุณในการทำสิ่งที่พระองค์ทรงมอบหมายให้แก่คุณ ถ้าพระองค์ให้คุณทำมากกว่าคนอื่น พระองค์ไม่ได้คิดว่านั่นจะทำให้คุณเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการวางตำแหน่งและการเลือกของพระองค์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะขยันขันแข็งในการทำสิ่งที่พระองค์ทรงมอบหมายให้แก่คุณ

สุภาษิต 22:29 กล่าวว่า “เจ้า​เห็น​คน​ที่​มี​ฝี​มือ​ใน​งาน​ของ​เขา​หรือ? เขา​จะ​ยืน​อยู่​เฉพาะ​พระ​พักตร์​กษัตริย์​ทั้ง​หลาย ไม่​ใช่​ยืน​ต่อ​หน้า​สา​มัญ​ชน” จงใส่ใจในคำตักเตือนของพระเจ้าในข้อพระคัมภีร์หลักของเรา นั่นคือไม่ว่าคุณจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจถวายแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่แก่เพื่อมนุษย์

ถ้าคุณรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าราวกับว่ากำลังรับใช้มนุษย์ สิ่งตอบแทนที่คุณได้รับก็จะไม่ไปไกลเกินกว่าโลกนี้ ดังนั้นไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้แก่คุณในแผ่นดินของพระองค์ ก็จงทำสิ่งนั้นด้วยความชื่นชมยินดี ความกระตือรือร้น และด้วยความเชื่อเหมือนทำถวายแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า จงฝึกฝนสิ่งนี้ และคุณจะประหลาดใจที่เห็นการสำแดงออกของพระคุณของพระเจ้าในชีวิตของคุณ อาเมน

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่ทรงล้ำค่า ขอบพระคุณสำหรับเกียรติและสิทธิพิเศษในการทำให้ลิขิตชีวิตในการรับใช้สำเร็จในฐานะคนต้นเรือนและพันธกรแห่งข่าวประเสริฐที่เปี่ยมด้วยพระสิริที่สัตย์ซื่อ ข้าพระองค์ทำทุกสิ่งถวายแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ด้วยการผลิตผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเพื่อพระสิริของพระองค์ ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม

2 พงศาวดาร 31:21; เอเฟซัส 6:6-7; โคโลสี 3:17


พระเจ้าทรงทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์

(2 โครินธ์ 5:21)

เมื่อมนุษย์ได้รับพระคริสต์ เขาได้รับชีวิตใหม่ เขาเป็นเหมือนคนที่ไม่เคยมีชีวิตมาก่อน นั่นคือคนที่ถูกสร้างใหม่ในพระคริสต์ ชีวิตใหม่นี้คือชีวิตแห่งความชอบธรรม เหนือกว่าความบาป มาร ความตาย และนรก ชีวิตใหม่นี้คือเหตุผลที่คุณสามารถดำเนินชีวิตที่ชอบธรรมได้

เหตุผลที่มนุษย์ทำบาปก็เพราะพวกเขามีธรรมชาติบาป ธรรมชาตินั้นถูกแทนที่ด้วยธรรมชาติแห่งความชอบธรรมของพระเจ้าเมื่อมนุษย์บังเกิดใหม่

มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวคุณเมื่อคุณบังเกิดใหม่ แต่เป็นการแทนที่หรือการทดแทนชีวิตและธรรมชาติบาปด้วยชีวิตแห่งความชอบธรรม คริสเตียนที่แท้จริงไม่ใช่การรวมหรือการถ่ายเทของธรรมชาติอื่น แต่เป็นการทรงสร้างวิญญาณมนุษย์ใหม่อย่างแท้จริงโดยพระเจ้า คุณได้มีชีวิตอยู่กับพระเจ้าผ่านทางการบังเกิดใหม่ ดังนั้นจึงเป็นธรรมชาติที่คุณจะดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและทำให้น้ำพระทัยของพระบิดาสำเร็จ

ศาสนาสอนว่าถ้ามนุษย์จะดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง พระเจ้าก็จะทรงถือว่าเขาเป็นคนชอบธรรม แต่นั่นเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน ไม่มีใครสามารถดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมได้จนกว่าเขาจะถูกทำให้ชอบธรรมโดยพระเจ้าก่อน ความชอบธรรมของพระเจ้าในวิญญาณของคุณคือสิ่งที่ทำให้ความสามารถดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องได้ ดังนั้นในความเป็นคริสเตียน สิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำคือการทำให้คุณชอบธรรมก่อนที่พระองค์จะคาดหวังว่าคุณจะดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง พระคัมภีร์กล่าวว่า​พระ​เยซู ​ผู้​ทรง​ถูก​มอบ​ให้​ถึง​ความ​ตาย เพราะ​การ​ล่วง​ละเมิด​ของ​เรา และ​ผู้​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​ให้​เป็น​ขึ้น​มาเพื่อ​ความ​ชอบ​ธรรมของเรา (โรม 4:25) ความชอบธรรมหมายถึงการได้รับการป่าวประกาศว่าชอบธรรม สาธุการแด่พระเจ้า!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันเกิดจากพระเจ้าและมีธรรมชาติของความชอบธรรมของพระองค์ในวิญญาณของฉัน ฉันเป็นเหมือนกับที่พระเยซูทรงเป็นในพระสิริและความชอบธรรมในโลกนี้ ฉันได้บังเกิดใหม่เข้าสู่ชีวิตใหม่ ฉันเป็นความชอบธรรมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ ได้รับการทรงเรียกให้เข้าส่วนในพระลักษณะของพระเจ้า ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม

โรม 8:1-4