วันศุกร์ที่ 24 เมษายน 2020

การสำแดงอย่างเต็มขนาดของพระองค์
The Full Expression Of Him

ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในท่าน? (1 โครินธ์ 3:16)

คริสเตียนบางคนเข้าใจผิดเมื่อเราพูดว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่ในเรา พวกเขานึกถึงภาพของพระองค์กำลังครอบครองที่บางแห่งในร่างกายของพวกเขา ไม่ใช่! อย่าพยายามจินตนาการถึงสิ่งที่เป็นร่างกาย พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ เมื่อคุณได้รับพระคริสต์เข้ามาอยู่ในตัวคุณ คุณก็บังเกิดเข้าในพระองค์ วิญญาณของคุณถูกสร้างใหม่ตามพระฉายของพระองค์ พระองค์ทรงรวมเป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณของคุณ และคุณก็เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์อย่างไม่สามารถแบ่งแยกได้ พระเยซูตรัสว่า “เรา​อยู่​ใน​พระ​บิดา​และ​พระ​บิดา​ทรง​อยู่​ใน​เรา (ยอห์น 14:10)

ความบริบูรณ์แห่งความเป็นพระเจ้าดำรงอยู่ในพระเยซู พระองค์เป็นการสำแดงออกอย่างบริบูรณ์ของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์! ในพระองค์ความเป็นพระเจ้าทั้งสิ้นเป็นหนึ่งเดียวกัน และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในพระคริสต์ 1 โครินธ์ 6:17 กล่าวว่า คน​ที่​ผูกพัน​กับ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าก็​เป็นวิญญาณ​อัน​เดียว​กัน​​ 1 ยอห์น 4:17 กล่าวว่า “…เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ทรง​เป็น​เช่น​ไร ​เรา​ทั้ง​หลาย​ใน​โลก​นี้​ก็​เป็น​เช่นนั้น​

พระคัมภีร์กล่าวไว้ใน ยอห์น 1:16 ว่า “…และ​เรา​ทั้ง​หลาย​ได้รับ​จาก​ความ​บริบูรณ์​ของ​พระ​องค์ เป็น​พระ​คุณ​ซ้อน​พระ​คุณ​ เราได้รับทุกสิ่งที่เป็นของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์อย่างครบบริบูรณ์ ลองจินตนาการถึงพระสิริในชีวิตของคุณ ถ้าคุณดำเนินชีวิตอย่างนั้นทุกวัน จงตระหนักว่าคุณเต็มไปด้วยพระเจ้า คุณคือร่างกายของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์! นั่นคือสิ่งที่เราอ่านในข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเรา

หลังจากนั้น 2 โครินธ์ 6:16 กล่าวว่า “…เพราะ​ว่า​เรา​เป็น​วิหาร​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​ดำรง​พระ​ชนม์ ดังที่​พระ​เจ้า​ตรัส​ไว้​ว่า เรา​จะ​อยู่​ใน​เขา​ทั้ง​หลาย​และ​จะ​ดำเนิน​ใน​หมู่​พวก​เขา...” เมื่อคุณเคลื่อนไหว นั่นคือพระเจ้าในคุณกำลังเคลื่อนไหว มือของคุณคือพระหัตถ์ของพระองค์ และนิ้วมือของคุณคือนิ้วพระหัตถ์ของพระองค์ คุณจุ่มมิดอยู่ในพระองค์ และพระองค์จุ่มมิดอยู่ในคุณ พระองค์ทรงสำแดงชีวิต ธรรมชาติ และพระลักษณะของพระองค์เองผ่านทางคุณ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันเป็นคนที่ถูกสร้างใหม่ในพระคริสต์ซึ่งเต็มไปด้วยความเป็นพระเจ้า! ทุกเส้นใยแห่งความเป็นฉัน กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของฉัน ทุกเซลล์เม็ดเลือดของฉันนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพระเจ้า ฉันเป็นบ้านที่เคลื่อนที่ได้ของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ซึ่งบรรจุพระคุณ พระสิริ และความชอบธรรมของพระองค์ และฉันส่งผลกระทบต่อโลกของฉันด้วยพระสิริแห่งการทรงสถิตของพระเจ้า ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 ยอห์น 5:13; 2 โครินธ์ 6:16; 1 โครินธ์ 6:17


วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน       2020

จงใช้ความเชื่อของคุณ
Use Your Faith

โดยความเชื่อนี้เอง เราจึงเข้าใจว่าพระเจ้าได้ทรงสร้างกัลปจักรวาล ด้วยพระดำรัสของพระองค์… (ฮีบรู 11:3)

บางคนคิดว่าการร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าเสมอเป็นสิ่งที่ดีและถ่อมใจ พวกเขาคิดว่าพระเจ้าทรงชอบ “อาการพึ่งพา” ของพวกเขา แต่พระองค์ไม่ได้ชอบ แต่พระองค์ต้องการให้คุณทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตและสถานการณ์ของคุณด้วยถ้อยคำแห่งความเชื่อบนริมฝีปากของคุณ สิ่งนี้ทำให้ระลึกถึงสถานการณ์ของพระเยซูกับพวกสาวกของพระองค์ขณะที่พวกเขาล่องเรือไป องค์เจ้านายได้นอนหลับอยู่ที่ท้ายเรือ และพระคัมภีร์กล่าวว่า “…และ​บังเกิด​พายุ​กล้า​กลาง​ทะเล น้ำ​เข้า​เรือ​อยู่​น่า​กลัว​จะ​มี​อันตราย​ (ลูกา 8:23)

เหล่าสาวกวิ่งมาหาพระองค์ด้วยความสิ้นหวังและพูดว่า อาจารย์​เจ้า​ข้า อาจารย์​เจ้า​ข้า พวกเรา​กำลัง​จะ​จม​อยู่​แล้ว​หลังจาก​ห้าม​ลม​และ​คลื่นให้​สงบแล้ว พระ​องค์​จึงหันมาหาพวกเขาแล้ว​ตรัส​ว่า ความ​เชื่อ​ของพวก​เจ้า​อยู่​ที่​ไหน?” (อ่าน ลูกา 8:23-25) พระองค์ทำให้พวกเขาตระหนักว่าพวกเขาสามารถทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมาหาพระองค์ พระองค์กล่าวไว้ในมัทธิว 17:20 ว่า “…ถ้า​ท่าน​มี​ความ​เชื่อ​เท่า​เมล็ด​พืช​เมล็ด​หนึ่ง …สิ่ง​หนึ่ง​สิ่ง​ใด​ซึ่ง​ท่าน​ทำ​ไม่ได้ จะ​ไม่​มี​เลย

ด้วยความเชื่อคุณสามารถประสบความสำเร็จและมีสิ่งใดก็ได้ คุณสามารถกำหนดวิถีชีวิตของคุณให้สอดคล้องกับน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อคุณได้ ไม่สำคัญว่าอะไรได้เกิดขึ้นหรือกำลังเกิดขึ้นกับการเงิน การงาน และสุขภาพ หรือด้านต่างๆในชีวิตของคุณ อย่ากังวลหรือร้องขอความช่วยเหลือ! จงซ่อมแซม จัดการ และสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาใหม่ให้สอดคล้องกับน้ำพระทัยที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้าด้วยการกล่าวสารภาพด้วยความเชื่อของคุณ

คุณสามารถวางกรอบชีวิตของคุณในเส้นทางแห่งพระสิริและความเป็นเลิศ ด้วยความเชื่อของคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่าโลกความเชื่อของเราคือชัยชนะที่ชนะโลก “​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​นี่​แหละ​เป็น​ชัย​ชนะ​ที่​ชนะ​โลก​ (1 ยอห์น 5:4) ไม่มีสถานการณ์ใดที่ความเชื่อของคุณไม่สามารถจัดการได้ นั่นเป็นเหตุผลที่พระเยซูถามพวกสาวกของพระองค์เมื่อพวกเขาตื่นตระหนกในช่วงวิกฤตว่า “ความเชื่อของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน?”

ไม่ว่าคุณเผชิญหน้ากับอะไรในวันนี้ก็ไม่สามารถต่อสู้กับความเชื่อของคุณได้ จงเปลี่ยนแปลงเรื่องราวด้วยคำกล่าวสารภาพที่เต็มไปด้วยความเชื่อของคุณ จงพูดและพูดต่อไปเรื่อยๆ และคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณปรารถนาอย่างแน่นอนเพราะพระเยซูตรัสว่า คุณจะมีในสิ่งที่คุณพูด(มาระโก 11:23)

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ด้วยถ้อยคำแห่งความเชื่อในปากของฉัน ฉันวางกรอบชีวิตและสภาพแวดล้อมที่ฉันปรารถนา ฉันจัดการและทำให้ชีวิตของฉันและโลกของฉันสอดคล้องกับน้ำพระทัยที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า ทุกสิ่งทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของฉัน ฉันไม่เคยหมดหนทาง เพราะว่าความเชื่อของฉันเข้มแข็งและมีชัย ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม:ฮีบรู 11:6; โรม 10:8


วันพุธที่ 22 เมษายน 2020

อย่าทำให้ความเชื่อของคุณเป็นโมฆะ
Don’t Void Your Faith

 ถ้าเขาเหล่านั้นที่ถือตามธรรมบัญญัติจะเป็นทายาท ความเชื่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร และพระสัญญาก็เป็นอันไร้ประโยชน์(โรม 4:14)  

ความเชื่อสามารถถูกทำให้เป็นโมฆะได้หรือไม่? ได้อย่างแน่นอน! มีคนที่ทำให้ความเชื่อของพวกเขาเป็นโมฆะและพระสัญญาของพระเจ้าไม่เกิดผลในชีวิตของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น ในมาระโก 7:13 พระเยซูตำหนิคนยิวที่ทำให้พระคำของพระเจ้าไร้ผลโดยธรรมเนียมของพวกเขา “ธรรมเนียม” ในที่นี่หมายถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรมส่วนบุคคล และสิ่งที่คุณเชื่อ ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับพระคำของพระเจ้า คุณก็ทำให้พระคำไม่มีผลในชีวิตของคุณ และความเชื่อของคุณก็เป็นโมฆะ

บางคนพยายามทำให้ความเชื่อของพวกเขาเกิดผลที่ดี แต่ไม่ได้ผล เพราะว่าพวกเขาทำให้ความเชื่อเป็นโมฆะโดย “ธรรมเนียม” ของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาควรทำก็คือเปลี่ยน “ธรรมเนียม” ของพวกเขา นั่นคือรับความคิดใหม่ ซึ่งก็คือความคิดแห่งสติปัญญาของพระเจ้า

การไว้วางใจในการงานของคุณเองก็ทำให้ความเชื่อของคุณเป็นโมฆะด้วย ถ้าคุณคิดว่าคุณมีสุขภาพดี และประสบความสำเร็จ และได้รับพระพร เพราะว่าคุณทำบางสิ่งที่ถูกต้อง และตอนนี้คุณไว้วางใจในสิ่งเหล่านั้นมากและทำอย่างเคร่งครัดในศาสนา เพราะว่าคุณคิดว่าพิธีกรรมนั้นเป็นที่มาแห่งพระพรของคุณ ความเชื่อของคุณก็ถูกทำให้เป็นโมฆะ จงระลึกถึงคำพูดของอัครทูตเปาโลว่า พระ​องค์​ได้​ทรง​ช่วย​เรา​ให้​รอด มิใช่​ด้วย​การ​กระทำ​ที่​ชอบธรรม​ของ​เรา​เอง แต่​พระ​องค์​ทรง​พระ​กรุณา​​…” (ทิตัส 3:5)

กาลาเทีย 2:16 กล่าวว่า “​ก็​ยัง​รู้​ว่า​ไม่​มี​ผู้ใด​เป็น​คน​ชอบธรรม​ได้ โดย​การ​ประพฤติ​ตาม​ธรรม​บัญญัติ แต่​โดย​ศรัทธา​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​เท่านั้น ถึง​เรา​เอง​ก็​มี​ใจ​ศรัทธา​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​ เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​คน​ชอบธรรม​โดย​ศรัทธา​ใน​พระ​คริสต์​ ไม่ใช่​โดย​การ​ประพฤติ​ตาม​ธรรม​บัญญัติ เพราะ​ว่า​โดย​การ​ประพฤติ​ตาม​ธรรม​บัญญัติ​นั้น ไม่​มี​มนุษย์​คน​ใด​เป็น​คน​ชอบธรรม​ได้​เลย” คุณต้องไว้วางใจในการงานที่สำเร็จแล้วของพระคริสต์เสมอ นั่นคือการดำเนินชีวิตโดยความเชื่อในพระองค์(กาลาเทีย 2:20) ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

ความเชื่อของฉันได้ผลและมีชัยเสมอ สถานการณ์ต่างๆสอดคล้องกับการกล่าวสารภาพที่เต็มไปด้วยความเชื่อของฉัน และฉันปกครอง ครอบครอง และควบคุมโลกของฉันโดยความเชื่อของฉัน ฉันเดินในพระพรที่บริบูรณ์ของข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์และเพลิดเพลินไปกับความเป็นจริงนิรันดร์แห่งแผ่นดินของพระเจ้า ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 2:8-9; โรม 10:17; 2 โครินธ์ 4:13; ฮีบรู 11:1


วันพุธที่ 22 เมษายน 2020

อย่าทำให้ความเชื่อของคุณเป็นโมฆะ
Don’t Void Your Faith

 ถ้าเขาเหล่านั้นที่ถือตามธรรมบัญญัติจะเป็นทายาท ความเชื่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร และพระสัญญาก็เป็นอันไร้ประโยชน์(โรม 4:14)  

ความเชื่อสามารถถูกทำให้เป็นโมฆะได้หรือไม่? ได้อย่างแน่นอน! มีคนที่ทำให้ความเชื่อของพวกเขาเป็นโมฆะและพระสัญญาของพระเจ้าไม่เกิดผลในชีวิตของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น ในมาระโก 7:13 พระเยซูตำหนิคนยิวที่ทำให้พระคำของพระเจ้าไร้ผลโดยธรรมเนียมของพวกเขา “ธรรมเนียม” ในที่นี่หมายถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรมส่วนบุคคล และสิ่งที่คุณเชื่อ ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับพระคำของพระเจ้า คุณก็ทำให้พระคำไม่มีผลในชีวิตของคุณ และความเชื่อของคุณก็เป็นโมฆะ

บางคนพยายามทำให้ความเชื่อของพวกเขาเกิดผลที่ดี แต่ไม่ได้ผล เพราะว่าพวกเขาทำให้ความเชื่อเป็นโมฆะโดย “ธรรมเนียม” ของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาควรทำก็คือเปลี่ยน “ธรรมเนียม” ของพวกเขา นั่นคือรับความคิดใหม่ ซึ่งก็คือความคิดแห่งสติปัญญาของพระเจ้า

การไว้วางใจในการงานของคุณเองก็ทำให้ความเชื่อของคุณเป็นโมฆะด้วย ถ้าคุณคิดว่าคุณมีสุขภาพดี และประสบความสำเร็จ และได้รับพระพร เพราะว่าคุณทำบางสิ่งที่ถูกต้อง และตอนนี้คุณไว้วางใจในสิ่งเหล่านั้นมากและทำอย่างเคร่งครัดในศาสนา เพราะว่าคุณคิดว่าพิธีกรรมนั้นเป็นที่มาแห่งพระพรของคุณ ความเชื่อของคุณก็ถูกทำให้เป็นโมฆะ จงระลึกถึงคำพูดของอัครทูตเปาโลว่า พระ​องค์​ได้​ทรง​ช่วย​เรา​ให้​รอด มิใช่​ด้วย​การ​กระทำ​ที่​ชอบธรรม​ของ​เรา​เอง แต่​พระ​องค์​ทรง​พระ​กรุณา​​…” (ทิตัส 3:5)

กาลาเทีย 2:16 กล่าวว่า “​ก็​ยัง​รู้​ว่า​ไม่​มี​ผู้ใด​เป็น​คน​ชอบธรรม​ได้ โดย​การ​ประพฤติ​ตาม​ธรรม​บัญญัติ แต่​โดย​ศรัทธา​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​เท่านั้น ถึง​เรา​เอง​ก็​มี​ใจ​ศรัทธา​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​ เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​คน​ชอบธรรม​โดย​ศรัทธา​ใน​พระ​คริสต์​ ไม่ใช่​โดย​การ​ประพฤติ​ตาม​ธรรม​บัญญัติ เพราะ​ว่า​โดย​การ​ประพฤติ​ตาม​ธรรม​บัญญัติ​นั้น ไม่​มี​มนุษย์​คน​ใด​เป็น​คน​ชอบธรรม​ได้​เลย” คุณต้องไว้วางใจในการงานที่สำเร็จแล้วของพระคริสต์เสมอ นั่นคือการดำเนินชีวิตโดยความเชื่อในพระองค์(กาลาเทีย 2:20) ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

ความเชื่อของฉันได้ผลและมีชัยเสมอ สถานการณ์ต่างๆสอดคล้องกับการกล่าวสารภาพที่เต็มไปด้วยความเชื่อของฉัน และฉันปกครอง ครอบครอง และควบคุมโลกของฉันโดยความเชื่อของฉัน ฉันเดินในพระพรที่บริบูรณ์ของข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์และเพลิดเพลินไปกับความเป็นจริงนิรันดร์แห่งแผ่นดินของพระเจ้า ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:เอเฟซัส 2:8-9; โรม 10:17; 2 โครินธ์ 4:13; ฮีบรู 11:1


วันอังคารที่ 21 เมษายน 2020

เมื่อความเชื่อล้มละลาย
When Faith Is Broke

“…แต่เมื่อบุตรมนุษย์มา ท่านจะพบความเชื่อในแผ่นดินโลกหรือ? (ลูกา 18:8)

ทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ได้ยินว่าคริสเตียนพูดถึงแพทย์ของพวกเขาราวกับว่าเขาเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณจะได้ยินพวกเขาพูดประโยคทำนองนี้ว่า “ฉันปวดท้อง ดังนั้นฉันจึงไปหาหมอ และเขาบอกฉันว่าต้องทำอะไร” พวกเขารับคำแนะนำของแพทย์ราวกับว่าคำแนะนำนั้นมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ลองนึกถึงภาพของคริสเตียนที่รู้สึกปวดหัวมา 2 สัปดาห์แล้ว คุณคิดว่าสิ่งต่อไปที่เขาพูดคือวิธีที่เขายืนหยัดต่อต้านมันในพระนามของพระเยซู และมันก็หายไป แต่คำพยานของเขาคือเขาโทรหาหมอของเขาซึ่งให้ยาที่ดีมากแก่เขาซึ่งจัดการกับโรคนั้น

คำถามที่ต้องถามคนเช่นนี้คือ “ความเชื่อของคุณอยู่ที่ไหน? พระคำของพระเจ้าอยู่ที่ไหนในชีวิตของพวกเขา? พวกเขากำลังทำสิ่งต่างๆ เนื่องจากแพทย์พูดกับพวกเขา ไม่ใช่พระคำหรือพระวิญญาณ ช่างน่าเศร้าจริงๆ! คริสเตียนที่พบว่าตัวเองในสถานการณ์นี้มีปัญหาหลักก็คือความเชื่อของพวกเขาพังทลายหรือล้มละลาย

ข้อความแห่งความเชื่อสอนว่าเมื่อคุณรู้สึกว่ามีอาการในร่างกายของคุณ คุณขนาบมันในพระนามของพระเยซู คุณสั่งให้ซาตานออกไป! หลายคนกลายเป็นทาสของความรู้สึกของพวกเขาจนอาการปวดหัวหรือเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยทำให้พวกเขาไปที่ร้านขายยา แล้วชีวิตของพระเจ้าในตัวคุณล่ะ? คุณเกิดมาจากพระเจ้า และชีวิตของพระองค์ในตัวคุณป้องกันความเจ็บป่วยได้ ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน ฮาเลลูยา!

คุณอาจถามว่า“ศิษยาภิบาลคริส คุณกำลังบอกว่าเราไม่ควรไปหาหมอหรือ?” ไม่ ฉันไม่ได้กำลังพูดอย่างนั้น! แต่ความจริงก็คือคุณไปพบแพทย์ก็ต่อเมื่อความเชื่อของคุณบกพร่องเท่านั้น คุณอาจพูดว่า “แต่ฉันกล่าวสารภาพ อธิษฐาน และลองทุกอย่างแล้ว แต่ไม่มีอะไรได้ผล และฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรอีก ดังนั้นฉันจึงต้องไปหาหมอ” นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อความเชื่อล้มละลาย

คุณรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งต่างๆได้ผล? สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผลเฉพาะเมื่อคุณคิดและพูดว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผล ความเชื่อได้ผลเสมอ จงใช้สิ่งนี้เพื่อวางกรอบโลกของคุณและสร้างความเป็นจริงที่เปี่ยมด้วยพระสิริที่คุณต้องการประสบในชีวิต

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ความเชื่อของฉันซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยพระคำนั้นก็ได้ผลเสมอ! ฉันฉวยโอกาสจากฤทธิ์อำนาจพิเศษของพระเจ้าในการเอาชนะความทุกข์ยากของชีวิตโดยการสำแดงความเชื่อของฉันซึ่งเป็นชัยชนะที่ชนะโลก ระบบ เศรษฐกิจ และเศรษฐศาสตร์ของมัน ฉันเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในชัยชนะนิรันดร์ของฉันเหนือความเจ็บป่วย ความยากจน ซาตาน และโลกนี้ ดังนั้นฉันจึงชื่นชมยินดี ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:สุภาษิต 24:10; 1 ยอห์น 5:4-5; มาระโก 11:22-24