วันอังคารที่ 17 มีนาคม 2020

ทุกอย่างยอมจำนนต่อคุณในพระนามของพระองค์
Everything Is Subject To You In His Name

สิ่งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่งนั้น เพื่อว่าพระบิดาจะทรงได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ทางพระบุตร สิ่งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่งนั้น (ยอห์น 14:13-14)

ก่อนที่จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระเยซูเจ้าตรัสว่า “สิทธิ​อำนาจ​ทั้ง​หมด​ใน​สวรรค์​ก็​ดี ใน​แผ่น​ดิน​โลก​ก็​ดี​ทรง​มอบ​ไว้​แก่​เรา​แล้ว เพราะ​ฉะนั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ออก​ไป​และ​นำ​ชน​ทุก​ชาติ​มา​เป็น​สา​วก​ของ​เรา จง​บัพ​ติศ​มา​พวก​เขา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา พระ​บุตร และ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์” (มัทธิว 28: 18-19) สิทธิอำนาจทั้งหมดในสวรรค์และแผ่นดินโลกนั้นได้ถูกมอบไว้กับพระเยซู ทุกสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้และไกลกว่านั้นยอมจำนนต่อพระนามของพระเยซู สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าทุกสิ่งยอมจำนนต่อคุณ เพราะว่าคุณดำเนินชีวิตอยู่ในพระนามของพระองค์ พระนามของพระองค์เป็นของคุณ

เมื่อคุณพูดในพระนามของพระองค์ คำพูดของคุณมีฤทธิ์อำนาจและสิทธิอำนาจราวกับว่าพระเยซูเองทรงเป็นผู้พูด พระนามของพระองค์มีฤทธิ์อำนาจในทุกที่ สิ่งนี้มีฤทธิ์อำนาจเหนือรัฐบาล พวกวิญญาณชั่ว เทพ​ผู้​ครอง และศักดิ​เทพ  ฮาเลลูยา! จงใช้พระนามนั้น

พระคัมภีร์กล่าวว่า สิ่ง​ใด​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ขอ​ใน​นาม​ของ​เรา เรา​จะ​กระทำ​สิ่ง​นั้น เพื่อ​ว่า​พระ​บิดา​จะ​ทรง​ได้รับ​เกียรติ​อัน​ยิ่งใหญ่​ทาง​พระ​บุตร​ สิ่ง​ใด​ที่​ท่าน​ขอ​ใน​นาม​ของ​เรา เรา​จะ​กระทำ​สิ่ง​นั้น (ยอห์น 14:13-14) นี่คือการพูดเรื่องการเรียกร้องในพระนามของพระเยซูและทำให้ทุกสิ่งยอมจำนนต่อคุณ เปโตรทำสิ่งนี้เมื่อเขาพูดกับชายที่พิการตั้งแต่กำเนิดว่า “ในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ ชาวนาซาเร็ธ จงลุกขึ้นและเดิน”หลังจากนั้นเขาก็จับที่มือขวาของชายที่เป็นง่อยนั้น ดึงเขาขึ้น และกระดูกข้อเท้าของเขาก็ได้รับกำลัง นั่นคือได้รับการรักษาโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า (กิจการ 3:8) คุณมีพระพรและของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล นั่นคือพระนามของพระเยซู จงใช้ทุกวันและทุกที่ เมื่อคุณทำการเรียกร้องหรือออกกฤษฎีกาสิ่งใดในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็จะทำให้เกิดขึ้น พระนามของพระองค์คือทางออกสำหรับทุกปัญหา ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด จงป่าวประกาศว่า “ในนามของพระเยซูเจ้า ฉันเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิต ทุกอย่างยอมจำนนต่อฉัน สาธุการแด่พระเจ้า!” ด้วยพระนามของพระองค์คุณจะไม่มีวันพ่ายแพ้ คุณมีอำนาจเหนือซาตานและฤทธิ์อำนาจแห่งความมืด ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันเดินในเส้นทางแห่งความสำเร็จ ชัยชนะ และความมีชัย เพราะว่าฉันทำหน้าที่และทำทุกสิ่งในพระนามของพระเยซู ชีวิตของฉันอยู่เพื่อพระสิริและความเป็นเลิศ ฉันดำเนินชีวิตอย่างมีชัยชนะและครอบครองเหนือสถานการณ์และสภาพแวดล้อมในชีวิต ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:มัทธิว 28:18-20; ลูกา 10:19; ฟิลิปปี 2:8-11


วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม      2020

พระคำของสวรรค์
Heavenly Words

เพราะเราไม่ได้กล่าวตามใจเราเอง แต่พระบิดาผู้ทรงใช้เรามาเป็นผู้บัญชาเราว่าจะกล่าวอะไรหรือพูดอะไร เรารู้ว่าพระบัญญัติของพระองค์นั้นเป็นชีวิตนิรันดร์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราพูดนั้น เราก็พูดตามที่พระบิดาทรงบอกเรา(ยอห์น 12:49-50)

พระเยซูบอกเราในข้อพระคัมภีร์ข้างบนว่าคำพูดของพระองค์เป็นพระบัญชาของพระบิดา นั่นคือทุกสิ่งที่พระองค์พูดมาจากพระบิดา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพระบิดาทรงบัญชาพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ควรจะพูดหรือสิ่งที่พระองค์ควรจะกล่าว สิ่งที่พระองค์พูดในข้อถัดไปนั่นยิ่งให้แรงบันดาลใจมากกว่าเดิม พระองค์กล่าวว่า เรา​รู้​ว่า​พระ​บัญ​ญัติ​ของ​พระ​องค์​นั้น​เป็น​ชีวิต​นิรันดร์ เพราะ​ฉะนั้น​สิ่ง​ที่​เรา​พูด​นั้น เรา​ก็​พูด​ตาม​ที่​พระ​บิดา​ทรง​บอก​เรา (ยอห์น 12:50) น่าอัศจรรย์จริงๆ!

ในยอห์น 20:21 พระเยซูตรัสว่า “…สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย พระ​บิดา​ทรง​ใช้​เรา​มา​อย่าง​ไร เรา​ก็​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​อย่าง​นั้น” สังเกตว่าพระองค์ไม่ได้กำลังพูดคุยกับยากอบ ยอห์น เปโตร หรืออัครทูตคนอื่นๆเท่านั้น แต่กับเราในทุกวันนี้ ดังนั้นเช่นเดียวกับที่พระองค์พูดพระคำของพระบิดา เราก็ต้องพูดพระคำของสวรรค์ด้วย นั่นคือพระคำของพระเจ้า เราได้รับคำบัญชาว่าเราควรพูดอะไรและเราควรกล่าวอะไร

คริสเตียนไม่ได้ดำเนินชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเอง เราดำเนินชีวิตอยู่เพื่อพระองค์ เราไม่ได้พูดเพื่อตนเองหรือจากตัวเราเอง เราพูดเพื่อพระองค์และจากพระองค์เหมือนพระเยซู เราได้รับถ้อยคำที่จะพูด ฮีบรู 13:5-6 กล่าวว่า “..เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ได้​ตรัส​ว่า ..เพราะ​ฉะนั้น​เรา​อาจ​กล่าว​ด้วย​ความ​มั่นใจ​ว่า…  จงพูดถ้อยคำของสวรรค์เหมือนพระเยซู และดำเนินชีวิตของสวรรค์บนแผ่นดินโลก

พระเจ้าทรงออกแบบให้ความเป็นพระเจ้าถูกปลดปล่อยออกมาผ่านทางคำพูด! คำพูดนั้นไม่จำกัดและเป็นนิรันดร์ สิ่งเหล่านี้เข้าไปในอาณาจักรฝ่ายวิญญาณ คุณสามารถพูดจากตู้เสื้อผ้าของคุณ และมันจะส่งผลกระทบต่อทุกที่ในโลก ดังนั้นเมื่อคุณมีสถานการณ์ที่ต้องจัดการ จงใคร่ครวญพระคำ นั่นคือจุ่มวิญญาณของคุณลงในพระคำจนกระทั่งมีเพียงพระคำเท่านั้นที่ออกมาจากปากของคุณ นั่นคือพระคำของพระเจ้าจากสวรรค์ ฮาเลลูยา!

คำอธิษฐาน

ชีวิตของข้าพระองค์คือคำพยานถึงพระคุณของพระเจ้า พระเมตตาและความเห็นอกเห็นใจของพระองค์โอบล้อมข้าพระองค์ไว้ทุกวัน! ข้าพระองค์เดินในพระสิริและความสมบูรณ์แบบของพระองค์ในวันนี้ด้วยการสำแดงให้เห็นถึงความชอบธรรมของพระองค์ และใช้การครอบครองของพระวิญญาณ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:มาระโก 11:23; สุภาษิต 6:2; โรม 10:9-10


วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม  2020

ความเป็นตัวตนใหม่ของคุณในพระคริสต์
Your New Identity In Christ

โอ นครของพระเจ้าเอ๋ย พวกเขากล่าวสรรเสริญเธอ เสลาห์ (สดุดี 87:3)

มีคำอธิบายที่งดงามและเปี่ยมด้วยพระสิริมากมายของคนที่ถูกสร้างใหม่ในพระคัมภีร์ นี่เป็นเหตุผลข้อหนึ่งที่คุณต้องศึกษาพระคัมภีร์เพื่อเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เปี่ยมด้วยพระสิริที่พูดและเขียนถึงคุณในพระคำ พระเจ้าทรงเรียกชื่อคุณว่าอย่างไร? จงตอบชื่อนั้น เพราะคุณจะโกงตัวเอง ถ้าคุณไม่ตอบชื่อนั้น

ในปฐมกาล 17:5 พระเจ้าตรัสกับอับรามและตรัสว่า “ชื่อ​ของ​เจ้า​จะ​ไม่​ใช่​อับ​รามอีก​ต่อ​ไป เจ้า​จะ​มี​ชื่อ​ใหม่​คือ​อับ​รา​ฮัม  เพราะ​เรา​ให้​เจ้า​เป็น​บิดา​ของ​ประ​ชา​ชาติ​มาก​มาย” “อับราม” หมายถึงบิดาผู้เป็นที่ยกย่อง แต่พระเจ้าทรงมีแผนการที่แตกต่างสำหรับเขาและทรงเรียกเขาว่า “บิดาแห่งบรรดาประชาชาติ”

อับราฮัมปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงและตัวตนใหม่ของเขาทันที ด้วยการแนะนำตัวเองด้วยชื่อใหม่ของเขา บางคนต้องล้อเล่นกับอับราฮัมเมื่อเขาเปลี่ยนชื่อ จงระลึกว่าซาราห์ ภรรยาของเขา นั้นเป็นหมัน นั่นเป็นความสิ้นหวังอีกอย่างหนึ่ง

แต่อับราฮัมเชื่อในพระคำของพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง และเรียกตัวเองตามสิ่งที่พระเจ้าเรียกเขา ในทำนองเดียวกันคุณต้องเรียนรู้ที่จะเห็นด้วยกับพระเจ้าและพระคำของพระองค์ จงยอมรับความเป็นตัวตนและความเป็นจริงใหม่ของคุณในพระคริสต์ พระองค์ทรงเรียกคุณว่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ชอบธรรม ผู้ชนะ ผู้เป็นยิ่งกว่าผู้พิชิตฯลฯ จงเดินอย่างเห็นด้วยกับคำบรรยายและการรับรู้ของพระเจ้าเกี่ยวกับตัวคุณ

เมื่อเปาโลต้องการพูดกับคริสเตียนที่เมืองเอเฟซัส เขาเรียกพวกเขาว่าธรรมิกชนที่ซื่อสัตย์ (เอเฟซัส 1:1) นั่นคือคำอธิบายถึงคุณเช่นกัน ถ้าคุณไม่ได้เป็นธรรมิกชนก็หมายความว่าคุณไม่ได้บังเกิดใหม่ เพราะว่าธรรมิกชนคือผู้ที่บังเกิดใหม่ในโคโลสี 1:22 พระองค์ทรงเรียกคุณว่าผู้​บริ​สุทธิ์ ไร้​มล​ทิน และ​ปราศ​จาก​ตำ​หนิ​ จงยอมรับและดำเนินชีวิตท่ามกลางความสว่างแห่งความจริงเหล่านี้ และคุณจะมีประสิทธิผลในการดำเนินชีวิตแห่งความชอบธรรมด้วยความเชื่อของคุณ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ข้าพระองค์ยอมรับความเป็นจริงและความเป็นตัวตนใหม่ของข้าพระองค์ในพระคริสต์ ข้าพระองค์เป็นธรรมิกชน ผู้​บริ​สุทธิ์ ไร้​มล​ทิน และ​ปราศ​จาก​ตำ​หนิในสายตาของพระองค์ เพราะว่าข้าพระองค์ได้บังเกิดใหม่แล้วพร้อมด้วยธรรมชาติแห่งความชอบธรรมในวิญญาณของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ดำเนินชีวิตด้วยการครอบครองเหนือสถานการณ์ทุกอย่างในชีวิต ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:2 โครินธ์ 4:13; ฮีบรู 13: 5-6


วันอังคารที่ 10 มีนาคม  2020

จงมองข้ามช่องทางต่างๆไป
Look Beyond The Channels

เพราะสัตว์ทุกตัวในป่าเป็นของเรา ทั้งสัตว์เลี้ยงบนภูเขาตั้งพันยอด เรารู้จักนกแห่งขุนเขาทุกตัว และสัตว์ในท้องทุ่งเป็นของเรา

(สดุดี 50:10-11)

เช่นเดียวกับข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่มต้นของเรา ใน ฮักกัย 2:8 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยืนยันถึงอำนาจอธิปไตยของพระองค์เหนือทรัพยากรของโลกนี้ว่า เงิน​เป็น​ของ​เรา และ​ทอง​ก็​เป็น​ของ​เรา พระ​ยาห์​เวห์​จอม​ทัพ​ตรัส​ดัง​นี้​แหละ” ดาวิดก็ไม่ได้สงวนคำพูดใดๆในเรื่องนี้เลย ในขณะที่เขายอมรับรู้องค์พระผู้เป็นเจ้าในฐานะผู้สร้างและเจ้าของทุกสิ่งอย่างมากมายว่า “โลก​กับ​สรรพ​สิ่ง​ใน​โลก​เป็น​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ ทั้ง​พิภพ​กับ​บรร​ดา​ผู้​ที่​อยู่​ใน​พิภพ​นั้น” (สดุดี 24:1)

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรต่อเรา? หมายความว่าเราเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สมบัติและความมั่งคั่งของโลกนี้เท่ากับพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ เพราะว่าเราเป็นทายาทของพระองค์ โรม 8:17 กล่าวว่า และ​ถ้า​เรา​เป็น​ลูก​แล้ว เรา​ก็​เป็น​ทา​ยาท คือ​เป็น​ทา​ยาท​ของ​พระ​เจ้า และ​เป็น​ทา​ยาท​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์..” น่าเศร้าที่คริสเตียนจำนวนมากยังพบว่าตนเองต่อสู้ดิ้นรนทางการเงิน ไม่สามารถดำเนินการตามความฝันได้ ปัญหาส่วนใหญ่คือความไม่รู้ พวกเขาไม่รู้ว่าพระเจ้าซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรของพวกเขาอาศัยอยู่ในพวกเขา และดังนั้นความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง หรือการเงินที่พวกเขาต้องการจะเกิดขึ้นจากภายในของพวกเขา

2 เปโตร 1:3 กล่าวว่า ฤทธิ์​เดช​ของ​พระ​เจ้า​ได้​ให้​ทุก​สิ่ง​แก่​เรา ที่​จำ​เป็น​ต่อ​ชีวิต​และ​ต่อ​การ​ดำ​เนิน​ตาม​ทาง​พระ​เจ้า..” ความมั่งคั่งของคุณอยู่ในตัวคุณ จงนำมันออกมา พระเยซูตรัสในมัทธิว 12:35 ว่า คน​ดี​ก็​เอา​ของ​ดี​มา​จาก​คลัง​แห่ง​ความ​ดี​ใน​ตัว​ของ​เขา..” อย่าคร่ำครวญว่าเหตุผลที่คุณไม่สามารถทำตามโครงการของคุณได้เนื่องจากการไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงและค่าตอบแทน สิ่งเหล่านั้นคือช่องทาง แต่พระเจ้าเป็นแหล่งทรัพยากรของคุณ และพระองค์ได้ทำให้คุณมีทุกสิ่งที่คุณต้องการในพระเยซูคริสต์

จงปฏิเสธที่จะจำกัดการเงินของคุณด้วยสิ่งที่คุณเห็น หรือสิ่งที่เรียกว่าแหล่งทรัพยากรทางโลก ความจริงก็คือว่าไม่มีแหล่งทรัพยากรทางโลก สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นช่องทาง และคุณต้องมองข้ามช่องทางเหล่านี้ไป! แหล่งทรัพยากรที่แท้จริงเพียงแหล่งเดียวของคุณคือพระบิดาในสวรรค์ และคุณเสียบเข้ากับการจัดเตรียมนิรันดร์ของพระองค์ที่ซึ่งคุณไม่เคยเหือดแห้ง พระองค์เป็นผู้จัดเตรียมที่ยิ่งใหญ่ และพระองค์อาศัยอยู่ในตัวคุณ ถ้าคุณต้องการเครื่องมือสำหรับธุรกิจของคุณหรือทุนสำหรับโครงการของคุณ จงนำสิ่งนี้ออกมาจากภายใน! จงมองข้ามรัฐบาล มนุษย์ และนายจ้าง และสมาชิกในครอบครัว เมื่อมาถึงเรื่องการเงินของคุณ ฮาเลลูยา! พวกเขาอาจเป็นช่องทาง แต่แหล่งทรัพยากรของคุณคือพระเจ้า

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณเพราะแม่น้ำแห่งความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองไหลออกมาจากภายในของข้าพระองค์! ข้าพระองค์ผลิตความร่ำรวย ความมั่งคั่ง ความแข็งแรง สุขภาพ และชัยชนะที่ยั่งยืนออกมาจากส่วนลึกสุดของข้าพระองค์ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:สุภาษิต 15:4; 1 โครินธ์ 8:6


วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม  2020

ผู้ลำเลียงพระพรที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว
Sanctified Conveyor Of Blessings

เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรเจ้า จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โต แล้วเจ้าจะเป็นพร (ปฐมกาล 12:2)

ในฐานะคริสเตียนคุณต้องมีการตระหนักรู้ของคนที่ได้รับพระพร จงกล่าวยืนยันเสมอว่าคุณได้รับพระพรและได้รับความโปรดปรานอย่างมากทุกที่ ทุกเวลา และทุกสถานการณ์ เมื่อคุณมีความตระหนักรู้นี้ ไม่ว่าคุณจะสมัครอะไร หรือไปที่ไหน และถูกปฏิเสธ คุณก็จะไม่กระวนกระวายใจ นั่นเป็นเพราะคุณรู้ว่าคุณเป็นใครและคนที่ปฏิเสธคุณไม่ได้รู้เช่นนั้น ถ้าพวกเขารู้จักคุณพวกเขาก็จะไม่ปฏิเสธคุณ

ลองนึกถึงภาพพระเยซูที่บ่อน้ำที่สะมาเรีย เมื่อพระองค์ขอน้ำดื่มจากผู้หญิงคนหนึ่ง เธอปฏิเสธ เธอพูดว่า “คุณไม่ควรจะขอน้ำจากฉัน เพราะว่าคุณเป็นชาวยิวและฉันเป็นชาวสะมาเรีย (ยอห์น 4:9) เธอปฏิเสธพระเยซู! ทำไม? เธอไม่รู้ว่ากำลังพูดกับพระเมสสิยาห์อยู่ แต่องค์เจ้านายก็ไม่ได้โกรธเคือง พระองค์เพียงแต่พูดกับเธอว่า ถ้า​เธอ​รู้​จัก​ของ​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน และ​รู้​จัก​ผู้​ที่​พูด​กับ​เธอ​ว่า ขอ​น้ำ​ให้​เรา​ดื่ม​บ้างก็​คง​จะ​ขอ​จาก​ท่าน​ผู้​นั้น และ​ผู้​นั้น​ก็​คง​จะ​ให้​น้ำ​ดำ​รง​ชีวิต​แก่​เธอ(ยอห์น 4:10)

พระเยซูรู้ว่าพระองค์เป็นใคร ดังนั้นพระองค์จึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับการถูกปฏิเสธ ลูกของพระเจ้าสามารถถูกปฏิเสธได้ นั่นคือธรรมชาติที่แท้จริงของเขาในพระคริสต์ไม่เป็นที่รู้จัก เขาเองก็อาจไม่รู้จักตัวเองด้วยซ้ำ แต่เมื่อคุณค้นพบว่าคุณเป็นทายาทของพระเจ้า เป็นผู้ลำเลียงความเป็นจริงของพระเจ้าที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว สิ่งต่างๆก็จะเปลี่ยนไป คุณจะไปทุกแห่งหนด้วยความกล้าหาญและถ้าที่ไหนปฏิเสธคุณ นั่นก็จะไม่มีความหมายอะไรต่อคุณ คุณจะพูดว่า “ถ้าเพียงแต่พวกเขารู้จักฉัน!”

พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “เราจะอวยพรเจ้าและทำให้เจ้าเป็นพระพร” คุณเป็นเชื้อสายของอับราฮัม นั่นหมายความว่าถ้าคุณอยู่ในสถานที่ใด สถานที่ดังกล่าวก็ได้รับพร อิทธิพลของพระเจ้าเข้าไปในสถานที่ที่คุณไปและผู้คนที่คุณมีปฏิสัมพันธ์ด้วย มีบางสิ่งบางอย่างที่ติดตามคุณไป นั่นถูกเรียกว่า “พระพร” นั่นคือพระคุณ! เมื่อคุณเดินเข้าไปในตึก ความรอดก็เข้ามาในบ้านหลังนั้น! พระพรเริ่มปรากฏขึ้น สาธุการแด่พระเจ้า!

ดังนั้นการที่คุณถูกปฏิเสธตำแหน่งงานหรือสัญญาทางธุรกิจไม่ได้ทำให้คุณเป็นผู้แพ้ ไม่ใช่เลย! งานหรือธุรกิจของคุณเป็นโอกาสที่คุณจะอวยพรโลกของคุณ เป็นประตูสู่โลกของคุณเพื่อสำแดงความเป็นตัวของคุณและความสมบูรณ์แบบที่พระเจ้าวางไว้ในระบบของคุณ ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

ฉันเป็นหีบห่อแห่งพระพรของพระเจ้า ฉันแจกจ่ายความเป็นจริงนิรันดร์แก่โลกของฉัน! ฉันเกิดผลและมีประสิทธิผลในสิ่งที่ดีทุกอย่าง ด้วยการผลิตผลแห่งความชอบธรรม ทำให้คนเข้าสู่ความรอดและส่งผลกระทบทางบวกต่อโลกของฉันด้วยความสมบูรณ์แบบของพระวิญญาณ ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร! ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:1 เปโตร 2:9; เอเฟซัส 1:3; ปฐมกาล 12:3