วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม   2019

แทนที่ ไม่ใช่ซ่อมแซม
Supplanted, NOT Supplemented

“ฉะนั้นถ้าใครอยู่ในพระคริสต์ เขาก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” (2 โครินธ์ 5:17)

คนที่บังเกิดใหม่แล้วไม่ได้มีชีวิตหรือธรรมชาติ 2 อย่าง เขามีแค่อย่างเดียว และนั่นคือชีวิตของพระเจ้า เมื่อคุณบังเกิดใหม่ชีวิตใหม่ได้ถูกนำเข้าสู่วิญญาณของคุณ และชีวิตมนุษย์ที่คุณได้รับมาจากพ่อแม่ฝ่ายโลกของคุณหยุดลง นั่นคือสิ่งนี้ถูกแทนที่ด้วยชีวิตและธรรมชาติของพระเจ้า! นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถคิดค้นได้ในห้องทดลอง สิ่งนี้คือวิญญาณ

ยิ่งกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในสวรรค์อย่างที่บางคนคิด แต่ได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือข่าวสารของพระคริสต์ พระองค์มาเพื่อประทานให้ชีวิตของพระเจ้าให้แก่เรา เพื่อทำให้เราเป็นบุตรของพระเจ้า “…ท่าน​ที่​รัก​ทั้ง​หลาย เดี๋ยว​นี้​เรา​เป็น​ลูก​ของ​พระ​เจ้า และ​เรา​จะ​เป็น​อย่าง​ไร​ต่อ​ไป​ข้าง​หน้า​นั้น​เรา​ยัง​ไม่​รู้ แต่​เรา​รู้​ว่า​ใน​เวลา​ที่​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​มา​ปรา​กฎนั้น เรา​จะ​เป็น​เหมือน​อย่าง​พระ​องค์ เพราะ​ว่า​เรา​จะ​เห็น​พระ​องค์​อย่าง​ที่​พระ​องค์​ทรง​เป็น​อยู่​นั้น (1 ยอห์น 3:1-2) 2 โครินธ์ 5:17 ยืนยันสิ่งนี้โดยบอกว่า ฉะนั้น​ถ้า​ใคร​อยู่​ใน​พระ​คริสต์ เขา​ก็​เป็น​คน​ที่​ถูก​สร้าง​ใหม่​แล้ว สิ่ง​สาร​พัด​ที่​เก่าๆ ก็​ล่วง​ไป นี่​แน่ะ​กลาย​เป็น​สิ่ง​ใหม่​ทั้ง​นั้น”

สังเกตวลีที่ว่า “คนที่ถูกสร้างใหม่” สิ่งนี้สื่อถึงบางอย่างที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เป็นสิ่งที่ใหม่ หรือแม้กระทั่ง “แปลก” เหมือนกับการที่คุณเห็นบางอย่างแวบๆ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร และคุณสามารถอธิบายได้ดีที่สุดด้วยการพูดว่า “ฉันเห็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง มันไม่ใช่แมวหรือหมา แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร มันเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่แปลกๆ” สิ่งนี้ไม่เหมือนกับสิ่งที่คุณเคยเห็นมาก่อน

นี่เหมือนกับการอ้างถึงของเปาโลใน 2 โครินธ์ 5:17 เราเป็นสายพันธุ์ใหม่ นั่นคือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นมนุษย์ประเภทใหม่! เมื่อคุณตระหนักถึงสิ่งนี้และเข้าใจว่าสิ่งที่คุณมีไม่ได้เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติของพระเจ้าและมนุษย์ คุณก็จะหยุดต่อสู้ดิ้นรนเพื่อดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง และคุณจะพบว่าตัวเองทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณสำเร็จอย่างเปี่ยมไปด้วยพระสิริจากตำแหน่งของการพักผ่อน ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณที่ชีวิตเก่าของฉันได้ถูกแทนที่ด้วยชีวิตของพระเจ้าซึ่งเหนือกว่าความเจ็บป่วย โรค ความพ่ายแพ้ และความเสื่อมโทรมทุกอย่างที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ตามธรรมชาติ ธรรมชาติของพระเจ้าได้ทำให้ฉันเป็นเจ้านายเหนือสถานการณ์ต่างๆ ด้วยการปกครองเหนือระบบที่น่าสังเวชของโลก ธรรมชาติของความชอบธรรมได้ทำให้ฉันเดินในน้ำพระทัยที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ในวันนี้ ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 ยอห์น 5:13;  1 ยอห์น 4:17


วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2019

ข่าวประเสริฐเป็นของทุกคน
The Gospel Is For All

“พระองค์ตรัสสั่งพวกสาวกว่า วกท่านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” (มาระโก 16:15)

ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์เป็นฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าเพื่อความรอดสำหรับทุกคนที่เชื่อ ในโรม 1:16 โดยพระวิญญาณเปาโลเขียนว่า ข้าพ​เจ้า​ไม่​มี​ความ​ละอายใน​เรื่อง​ข่าว​

ประ​เสริฐ เพราะ​ว่า​ข่าว​ประ​เสริฐ​นั้น​เป็น​ฤทธา​นุภาพ​ของ​พระ​เจ้า เพื่อ​ให้​ทุก​คน​ที่​เชื่อ​ได้​รับ​ความ​รอด พวก​ยิว​ก่อน แล้ว​พวก​กรีก​ด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือข่าวประเสริฐนั้นไม่เลือกหน้าผู้ใด นั่นคือฤทธิ์อำนาจของสิ่งนี้เกิดผลสำหรับและในทุกคน ดังนั้นถ้าคุณสงสัยว่า “ฉันจะเข้าถึงคนเผ่าพันธุ์อื่นได้อย่างไร?”

ประการแรกไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “เผ่าพันธุ์อื่น” นั่นคือพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์และข่าวประเสริฐมีไว้สำหรับทุกคน อย่าอนุญาตให้ข่าวประเสริฐแห่งพระสิริที่คุณได้รับมอบหมายด่างพร้อยไปด้วยการเลือกปฏิบัติหรืออคติใดๆ จงปฏิเสธสิ่งนี้! พระคำของพระเจ้าอยู่เหนืออุปสรรคทางวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ หรือประเทศทั้งหมด ถ้าคุณทำพันธกิจด้วยพระคำของพระเจ้าในความจริง สิ่งนี้ก็จะทำลายอุปสรรคและแบ่งแยกคนที่อยู่ในความเป็นทาสและคนที่ต้องการฟังความจริงออกจากัน ความจริงไม่มีสีหรือขอบเขต ความจริงเป็นของพระเจ้า! และพระคำของพระเจ้าคือความจริง (ยอห์น 17:17)

อย่าเลือกคนที่คุณต้องการประกาศข่าวประเสริฐด้วย ยอห์น 3:16 กล่าวว่า พระ​เจ้า​ทรง​รัก​โลก​ดัง​นี้ คือ​ได้​ประทาน​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์ พระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วยโลกทั้งใบให้รอด ไม่ใช่แค่คนที่เลือกไว้ไม่กี่คน มีคนที่เจ็บปวดในทุกชาติและทุกเชื้อชาติ ดังนั้นเราจึงต้องเข้าถึงทุกคนโดยเริ่มต้นจากคนที่ใกล้ชิดกับเรา คุณจะประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่พระคำของพระเจ้าจะทำให้เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา!

อาจมีคนที่คุณประกาศด้วยซึ่งแสดงความไม่พอใจหรือแสดงอคติและเลือกปฏิบัติต่อคุณ เป็นไปได้! แต่อย่าถูกทำให้กลัวโดยคนแบบนี้!อัครทูตเปาโลเข้าใจความจริงนี้ ในโคโลสี 3:11 ฉบับ NLT เขากล่าวว่า ในชีวิตใหม่นี้​ไม่​สำคัญว่าจะเป็นกรีก​หรือ​ยิว คน​ที่​เข้า​สุหนัต​หรือ​ไม่​เข้า​สุหนัต อนารย​ชน​และ​คน​ป่า​เถื่อน ทาส​หรือ​เสรี​ชน แต่​ว่า​พระ​คริสต์​ทรง​เป็น​ทุก​สิ่งที่สำคัญ และ​พระองค์ทรง​อาศัยอยู่​ใน​พวกเราทุกคน 2 โครินธ์ 5:16 บอกเราว่า เพราะ​ฉะนั้น​ตั้ง​แต่​นี้​ไป เรา​จะ​ไม่​พิจาร​ณา​ใคร​ตาม​มาตร​ฐาน​ของ​โลก แม้​ว่า​เมื่อ​ก่อน​เรา​เคย​พิจาร​ณา​พระ​คริสต์​ตาม​มาตร​ฐาน​ของ​โลก​ก็​จริง แต่​เดี๋ยว​นี้​เรา​จะ​ไม่​พิจาร​ณา​พระ​องค์​เช่น​นั้น​อีก

จงปฏิเสธการแบ่งคนแบบโลกตามการสืบเชื้อสายทางร่างกายหรือทางโลก ข่าวประเสริฐมีไว้สำหรับทุกคน จงออกไปตลอดเทศกาลนี้และเข้าถึงทุกคนด้วยข่าวสารแห่งความรอดของพระคริสต์

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับโอกาสที่เปี่ยมด้วยพระสิริในข่าวประเสริฐที่จะเปล่งประกายและสำแดงพระสิริของพระองค์ต่อทุกคนโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ เชื้อชาติ วัฒนธรรม หรืออุดมการณ์ของพวกเขา โดยผ่านทางข้าพระองค์คนที่ยังไม่รอดจะได้ยินและรับความสว่างแห่งข่าวประเสริฐที่เปี่ยมด้วยพระสิริ และถูกย้ายออกจากความมืดไปสู่ความสว่างอันอัศจรรย์ของพระเจ้า และจากฤทธิ์อำนาจของซาตานมายังพระเจ้า ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:1 โครินธ์ 12:13;  1 ซามูเอล 16:7; กาลาเทีย 3:27-28


วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2019                                                                                          

จงโฟกัสที่วิญญาณของพระองค์
Focus On His Spirituality

“เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ไป เราจะไม่พิจารณาใครตามมาตรฐานของโลก แม้ว่าเมื่อก่อนเราเคยพิจารณาพระคริสต์ตามมาตรฐานของโลกก็จริง แต่เดี๋ยวนี้เราจะไม่พิจารณาพระองค์เช่นนั้นอีก” (2 โครินธ์ 5:16)

เมื่อบางคนพูดว่า “ฉันต้องการเป็นเหมือนพระเยซู” พวกเขาหมายความว่าการเป็นเหมือน “คนยิวคนหนึ่ง” ที่เดินไปบนท้องถนนของกาลิลีและคาเปอรนาอูม บางคนถึงกับกระตือรือร้นในการพูดคุยเกี่ยวกับรูปลักษณ์ทางกายภาพ นั่นคือรูปร่าง ความสูง ร่างกาย หน้าตาฯลฯ ซึ่งเป็นการมองไม่เห็นในสิ่งที่สำคัญกว่า นั่นคือวิญญาณของพระองค์ คุณควรโฟกัสให้ไกลเกินกว่าสภาพทางกายภาพของพระองค์ นั่นคือที่ “ พระเยซู พระวาทะ!”

ข้อจำกัดทาง “กายภาพ” ของพระเยซูคือการเป็นชาวยิว มีบางสิ่งที่พระองค์ไม่ได้ทำและมีบางสิ่งที่พระองค์ทำเนื่องจากพระองค์เป็นชาวยิว นอกจากนี้ถ้าพระองค์เป็นชาวโรมัน ก็จะมีบางสิ่งที่พระองค์ไม่ทำและจะมีบางสิ่งที่พระองค์ทำ ยกตัวอย่าง เช่นในฐานะชาวยิวพระองค์เฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา แต่ปัสกาไม่มีความหมายอะไรกับคนที่ไม่ใช่ยิว ดังนั้นในฐานะชาวยิวพระองค์จึงมีข้อจำกัด ดังนั้นเราควรโฟกัสที่พระเยซู พระบุตรของพระเจ้า นั่นคือพระเจ้าในเนื้อหนัง จงมองเห็นพระองค์ทั้งในและผ่านทางพระคำ เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นพระคำที่มีชีวิต

ในช่วงเวลาหนึ่งอัครทูตเปาโลเคยคิดถึงพระคริสต์อย่างผิดๆ อย่างนี้ราวกับว่าพระองค์เป็นเพียงแค่มนุษย์และเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีเชื้อสายยิว แต่หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักว่าถึงแม้ว่าพระเยซูจะเดินบนแผ่นดินโลกในสภาพร่างกายและดำเนินชีวิตในฐานะชาวยิว พระองค์ก็ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา

หลังจากนั้นเขาก็เขียนว่า “…แม้ว่าเมื่อก่อนเราเคยพิจารณาพระคริสต์ตามมาตรฐานของโลกก็จริง แต่เดี๋ยวนี้ [เรามีความรู้ถึงพระองค์ว่า] เราจะไม่พิจารณาพระองค์ [ในแง่เนื้อหนัง] เช่นนั้นอีก (2 โคริน 5:14 ฉบับ AMPC) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นไปเปาโลก็โฟกัสที่พระเยซู พระวาทะ และเขาก็ประสบความสำเร็จในพันธกิจของเขา!

ยอห์น 1:14 บอกเราว่าพระวาทะของพระเจ้ามาบังเกิด​เป็น​มนุษย์ และผลก็คือผู้ชายคนหนึ่ง นั่นคือพระเยซูคริสต์ “พระ​วาทะ​ทรง​เกิด​เป็น​มนุษย์​และ​ทรง​อยู่​ท่าม​กลาง​เรา…” ดังนั้นจงเห็นพระองค์ในฐานะพระวาทะที่มาเกิดเป็นมนุษย์ นั่นคือเห็นพระองค์เป็นผลรวมของความคิด การคิด ความคิดเห็น น้ำพระทัย และอารมณ์ของพระเจ้าที่อยู่ในเนื้อหนังของมนุษย์ จงโฟกัสที่พระองค์ในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า เป็นไอคอนของพระเจ้าที่มองไม่เห็น ตามที่ฮีบรู 1:3 กล่าวว่า “ผู้ทรง​เป็น​แสง​สว่างแห่ง​พระ​สิริ​ของ​พระ​เจ้า ทรง​มี​แก่น​แท้​เดียว​กับ​พระ​เจ้า…”

ตอนนี้ที่นี่มีบางสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด นั่นคือเช่นเดียวกับที่พระองค์เป็นพระวาทะที่มาบังเกิดเป็นเนื้อหนัง คุณก็เป็นเชื้อสายของพระคำด้วย 1 เปโตร 1:23 กล่าวว่า ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​บัง​เกิด​ใหม่​แล้ว ไม่​ใช่​จาก​เมล็ด​พันธุ์​ที่​เสื่อม​สลาย​ได้ แต่​จาก​เมล็ด​พันธุ์​ที่​ไม่​เสื่อม​สลาย คือ​จาก​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ที่​มี​ชีวิต​และ​ดำ​รง​อยู่

1 ยอห์น 4:17 กล่าวว่าเพราะ​ว่า​พระ​องค์​ทรง​เป็น​เช่น​ไร เรา​ใน​โลก​นี้​ก็​เป็น​เช่น​นั้น ไม่ใช่อย่างที่พระองค์เคยเป็นในกาลิลี แต่เหมือนพระองค์ในขณะนี้ที่เป็นขึ้นมาจากความตายใน

พระสิริ ฤทธิ์อำนาจ ความแข็งแกร่ง และความเป็นเลิศ คุณก็เป็นเช่นนั้นในเวลานี้ คุณมีความชอบธรรม ชีวิต และธรรมชาติของพระองค์ในตัวคุณตอนนี้ คุณเป็นความสว่างไสวแห่งพระสิริของพระองค์และภาพลักษณ์ที่ชัดเจนแห่งความเป็นบุคคลของพระองค์ ดังนั้นจงปฏิเสธที่จะถูกรู้จักตามลักษณะทางกายภาพของโลกหรือการกำเนิดของคุณ จงดูตัวเองในและผ่านทางพระคำ

ฮาเลลูยา!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณสำหรับพระคำของพระองค์ ฉันปฏิเสธที่จะถูกรู้จักตามลักษณะทางกายภาพของโลกหรือตามการกำเนิดของฉัน แต่ฉันเห็นตัวเองในและผ่านทางพระคำ ตอนนี้เช่นเดียวกับที่พระเยซูอยู่ในพระสิริ ฤทธิ์อำนาจ ความแข็งแกร่งและความเป็นเลิศ ฉันก็เป็นอย่างนั้นในโลกนี้ ฉันมีความชอบธรรม ชีวิตและธรรมชาติของพระองค์ในตัวฉัน ฉันเป็นความสว่างไสวแห่งพระสิริของพระองค์และภาพลักษณ์ที่ชัดเจนแห่งความเป็นบุคคลของพระองค์ ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม:โคโลสี 1:15-19;  1 ยอห์น 4:17


วันพุธที่ 18 ธันวาคม  2019                                                                                                 

จงดำรงอยู่ในความถ่อมใจ
Remain Humble

“เพราะว่าทุกคนที่ยกตัวขึ้นจะต้องถูกเหยียดลง และคนที่ถ่อมตัวลงจะได้รับการยกขึ้น” (ลูกา 14:11)

พระคัมภีร์แสดงให้เราเห็นตัวอย่างของคนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่ธรรมดา ขึ้นสู่ตำแหน่งของพระราชา และจากความมืดมัวไปสู่ความสว่างไสวในขณะที่พวกเขาถ่อมใจ น่าเศร้าที่คนเหล่านี้บางคนที่ถูกยกขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงส่งกลับกลายเป็นคนที่หยิ่ง ผยอง และจองหอง พวกเขากลายเป็นคนที่ “ใหญ่” ในสายตาของพวกเขาเองและถูกปลดโดยพระเจ้า เรื่องราวของกษัตริย์ซาอูลนั้นเป็นหนึ่งในกรณีนี้

ซาอูลได้รับพระคุณในการเป็นผู้นำและได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อเขา​เป็น​แต่​ผู้​เล็ก​น้อย​ใน​สาย​ตา​ของ​เขาเอง ตามที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ (1 ซามูเอล 15:17) หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ต่อต้านคำแนะนำฝ่ายวิญญาณ นั่นคือเขาถวายเครื่องเผาบูชาซึ่งผิดต่อพระบัญญัติของพระเจ้า (1 ซามูเอล 13:9) และอีกครั้งหนึ่งเขาไม่ได้ทำลายชาวอามาเลขอย่างสิ้นเชิงตามที่พระเจ้าได้สั่งไว้อย่างชัดเจน (1 ซามูเอล 15:1-11) เนื่องจากความเย่อหยิ่งของเขาพระเจ้าจึงทรงปฏิเสธไม่ให้เขาเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล (1 ซามูเอล 15:26) ช่างน่าเศร้าจริงๆ!

แต่จงมองดูที่พระเยซู! แม้ว่าพระองค์รู้ว่าพระองค์เป็นใคร นั่นคือผู้ที่ได้รับพระพร องค์อธิปไตย (ผู้ปกครอง) จอมกษัตริย์ และจอมเจ้านาย พระองค์ก็ยังถ่อมใจ ลูกา 4:16-21 แสดงให้เห็นว่าเมื่อพระองค์มาถึงนาซาเร็ธ ที่ซึ่งพระองค์ได้ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้น พระองค์เข้าไปในธรรมศาลาตามธรรมเนียมของพระองค์ในวันสะบาโต และพระองค์ยืนขึ้นเพื่ออ่านจากหนังสือม้วน พระองค์ไม่ได้ตะโกนใส่ปุโรหิตว่า “จงดูเถิดว่าจอมราชามาที่นี่แล้ว!” องค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงแต่ลุกขึ้นและอ่านตามที่พระองค์ถูกขอให้ทำ และเมื่อพระองค์อ่านเสร็จแล้ว “…แล้ว​พระ​องค์​ทรง​ม้วน​หนัง​สือ​ส่ง​คืน​ให้​แก่​เจ้า​หน้า​ที่ แล้ว​ประทับ​ลง…” (ลูกา 4:20) ช่างเป็นการแสดงออกถึงความถ่อมใจอย่างแท้จริง!

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นผู้นำหรือศิษยาภิบาล คุณเคยได้รับเกียรติอย่างมากให้พูดในที่ประชุมหรือไม่? หรือคุณกลายเป็นคนที่ใหญ่ในสายตาของตัวเองจนคุณรู้สึกขุ่นเคืองใจ ถ้าไม่ได้รับการเชิญให้พูด?

1 เปโตร 5:5 กล่าวว่า “…​จง​สวม​ความ​ถ่อม​ตัว​ เพราะพระ​เจ้า​ทรง​ต่อสู้​คน​ที่​หยิ่ง​จอง​หอง แต่​ประทาน​พระ​คุณ​แก่​คน​ที่​ถ่อม​ใจ พระคุณที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่คนที่ถ่อมใจมาพร้อมกับการส่งเสริมและเกียรติ ในชีวิตคุณอาจจะไม่ถูกมองว่าเป็นบุคคลที่สำคัญ แต่ด้วยพระคุณคุณจะได้รับการยกขึ้นสู่ระดับที่ยิ่งใหญ่

จงถ่อมใจต่อไป ความถ่อมใจที่แท้จริงคือการยอมจำนนต่อสิทธิอำนาจ อิทธิพลและผลกระทบของพระคำของพระเจ้าและคำแนะนำของพระองค์ เมื่อคุณทำเช่นนั้น คุณจะได้รับพระคุณเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่มีพลังในการเลื่อนตำแหน่ง การเพิ่มพูน และความก้าวหน้าที่เหนือธรรมชาติ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ข้าพระองค์ยอมจำนนต่อความเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า สิทธิอำนาจ และอิทธิพลของพระคำของพระองค์ด้วยความถ่อมใจทั้งหมด ดังนั้นข้าพระองค์จึงเพลิดเพลินกับผลของพระคุณที่อุดมสมบูรณ์ ท่วมท้น และไม่มีสิ้นสุดซึ่งทำให้ข้าพระองค์เดินในการส่งเสริม ความเป็นเลิศ ชัยชนะ และการครอบครอง และปกครองแบบกษัตริย์ในชีวิตนี้ ในพระนามของพระเยซู

อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:โรม 12:16; ยากอบ 4:6; ยากอบ 4:10; ฟิลิปปี 2:3


วันอังคารที่ 17 ธันวาคม  2019 

ความโกรธจะทำให้คุณต้องจ่ายราคา
Anger Will Cost You

“อย่าใจร้อน เพราะความโกรธเป็นเพื่อนของคนเขลา” (ปัญญาจารย์ 7:9 ฉบับ NLT)

เมื่อโมเสสลงมาจากภูเขาซีนายและเห็นผู้คนกำลังนมัสการวัวทองคำที่พวกเขาสร้างขึ้นเอง เขาก็โกรธ ที่นั่นเองเขาทำให้แผ่นพระบัญญัติซึ่งจารึกโดยนิ้วของพระเจ้าแตกเป็นเสี่ยงๆ (อพยพ 32:19) โมเสสต้องแกะสลักด้วยตัวเองขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นการลงโทษ

อีกครั้งหนึ่งในขณะที่ชนชาติอิสราเอลอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ทันใดนั้นพวกเขาก็รวมหัวกันต่อต้านโมเสสและอาโรน เพราะว่าไม่มีน้ำให้พวกเขาดื่ม หลังจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสั่งให้โมเสสรวบรวมที่ประชุมและบอกให้หินหลั่งน้ำออกมาต่อหน้าต่อตาพวกเขาเพื่อให้พวกเขาดื่ม

เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าโมเสสโกรธต่อการกระทำของประชาชน เขาจึงตั้งข้อหาและกล่าวโทษพวกเขาด้วยการเรียกพวกเขาว่าพวกกบฏ! ด้วยความโกรธแค้นเขาจึงหันไปและตีหิน แทนที่จะพูดตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าสั่ง อันที่จริงแล้วเขาตีถึงสองครั้ง (กันดารวิถี 20:11) น้ำไหลออกมาเพื่อให้ผู้คนได้ดื่ม แต่การกระทำของโมเสสทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่พอพระทัย

ในขณะที่โมเสสถูกกล่าวถึงว่า“…เป็น​คน​ถ่อม​ใจ​ยิ่ง​กว่า​คน​ทั้ง​หมด​บน​พื้น​แผ่น​ดิน (กันดารวิถี 12:3) เขาก็ยังอนุญาตให้ความโกรธส่งผลต่อพันธกิจและการเดินกับพระเจ้าของเขา จนเขาไม่ได้รับอนุญาตให้นำคนอิสราเอลเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตั้งใจไว้ แน่นอนว่าเขาซื่อสัตย์ในการบริหารจัดการทุกอย่างในบ้านของพระเจ้า (ฮีบรู 3:5) แต่ความโกรธของเขาทำให้เขาถูกปลด

ความโกรธเป็นตัวทำลายที่รวดเร็ว อย่าแม้แต่พยายามที่จะทำให้มัน “เชื่อง” จงหลีกเลี่ยงมัน ถ้าคุณถูกเรียกหรือบรรยายว่าเป็นคนที่โกรธเร็ว จงนำมาถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยการอธิษฐานและทุ่มเทตัวเองในการใคร่ครวญพระคำ

มีคนที่ไม่สามารถทำให้การทรงเรียกของพวกเขาสำเร็จได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์เนื่องจากความโกรธ และในกรณีเช่นนี้สิ่งที่พระเจ้าทำก็คือมีแผนใหม่ อย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นกับคุณ ทำไมคนจึงต้องการที่จะพลาดจากพระเจ้า ล้มเหลวในลิขิตชีวิตของพวกเขา เพราะทัศนคติเชิงลบที่สามารถถูกควบคุมและล้มล้างได้ง่ายด้วยพระคำของพระเจ้า? สดุดี 37:9 (ฉบับ NIV) กล่าวว่า จงระงับความโกรธและหันหนีจากความโกรธเคือง…” จงปฏิบัติตามพระคำของพระเจ้า จงปฏิเสธที่จะให้ความโกรธปกครองคุณ

คำอธิษฐาน

พระบิดาที่รัก ข้าพระองค์ปิติยินดีในพระคำของพระองค์และในการทำตามน้ำพระทัยของพระองค์  พระคำของพระองค์อยู่ในหัวใจของข้าพระองค์ ทำให้ข้าพระองค์เดินในความชอบธรรมและทำให้ลิขิตชีวิตของข้าพระองค์ ในพระองค์สำเร็จ! ข้าพระองค์จะไม่มอบตัวเองให้แก่ความโกรธ ความโมโหหรือความเดือดดาล เพราะว่าความปรารถนาของข้าพระองค์คือการทำให้พระองค์พอพระทัย ในทุกสิ่งขณะที่ข้าพระองค์ดำเนินชีวิตตามพระคำของพระองค์ ในพระนามของพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:สุภาษิต 22:24; โคโลสี 3:8; ยากอบ 1:20