อาทิตย์ ที่ 19 มีนาคม 2017
ให้พระคำมีอำนาจเหนือชีวิตของคุณ
Let The Word Have Power Over Your Life
“จงปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้และทุ่มเทตัวเองให้กับหน้าที่ดังกล่าว เพื่อให้ทุกคนเห็นความก้าวหน้าของท่าน”
(1 ทิโมธี 4:15)

    พระคำของพระเจ้ามีการปรนนิบัติเหนือในชีวิตของเรา และนี่เป็นบางสิ่งที่จำเป็นต้องเน้นย้ำในพระกายของพระคริสต์ คริสเตียนควรที่จะไม่รู้จักพอสำหรับพระคำ คุณต้องเปิดใจและความคิดของคุณอยู่เสมอต่อพระคำที่จะสร้าง ประทานกำลัง และสถาปนาคุณอย่างถาวรในการชื่นชมกับทุกสิ่งที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่คุณในพระคริสต์ เราได้อ่านข้อความที่อาจารย์เปาโลเขียนถึงทิโมธี กล่าวว่า “จงปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้และทุ่มเทตัวเองให้กับหน้าที่ดังกล่าว…” เขากำลังหมายถึงอะไร?

ในบทต่อมา เปาโลได้แบ่งปันความจริงที่สำคัญและเฉพาะเจาะจงจากพระคำของพระเจ้าแก่ทิโมธี เป็นการสำแดงที่เปาโลหนุนใจให้ทิโมธีคิดคำนึงถึง ถ้าพระวิญญาณคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมในการให้คำปรึกษาที่สำคัญเช่นนั้นแก่ทิโมธีผ่านทางเปาโล สิ่งนี้ก็เหมาะสมสำหรับเราในวันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เราจะต้องภาวนาการสำแดงของพระคำพระเจ้าที่เราได้รับอยู่เสมอ

สังเกตเช่นกันว่าเปาโลบอกกับทิโมธีว่า “…ทุ่มเทตัวเองกับหน้าที่ดังกล่าว…” นั่นหมายความว่าให้พระคำมีอำนาจเหนือชีวิตของคุณ ให้พระคำครอบครองความคิดของคุณ มีอิทธิพลต่อคำพูดและการกระทำของคุณ นี่เป็นสิ่งที่คุณทำด้วยความตั้งใจ เป็นการตอบสนองอย่างไตร่ตรองดีแล้ว มาจากวิญญาณของคุณต่อพระคำของพระเจ้า ผลก็คือว่าทุกคนจะได้เห็นความก้าวหน้าของคุณ นี่หมายความว่าความก้าวหน้าของคุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อคุณให้พระคำครอบครองชีวิตของคุณ

ยิ่งกว่านั้น ประโยคที่ว่า “เห็น” ในข้อพระคำตอนต้น มีความหมายมากกว่าบางสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น ในภาษากรีกคือคำว่า “Phaneros” ซึ่งหมายความว่า “กระจายออกไป” ความสำเร็จและความรุ่งเรืองของคุณจะ “กระจายออกไป” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อคุณภาวนาพระคำของพระเจ้า เป็นพระพรที่ยอดเยี่ยม!

คำอธิษฐาน

    ข้าแต่พระบิดา ความก้าวหน้าของข้าพระองค์เป็นที่ประจักษ์และไม่สามารถหยุดยั้งไว้ได้ ข้าพระองค์ก้าวหน้าในทุกสิ่งที่ข้าพระองค์ทำ เพราะว่าข้าพระองค์ดำเนินชีวิตในพระคำและโดยพระคำ มีกำลังใจเสมอโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะทำสิ่งที่ยอดเยี่ยม ขอบพระคุณพระองค์สำหรับสติปัญญาที่ช่วยให้ข้าพระองค์ทำตามพระคำของพระองค์เสมอ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: สดุดี 1:1-3; โยชูวา 1:8


Comments are closed