พฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2013

ให้พระคำมีฤทธิ์เหนือคุณ
Let The Word Have Power Over You

“เหตุฉะนั้น ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสว่า วันนี้ถ้าท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระองค์ อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้นอย่างในครั้งกบฏนั้น เหมือนอย่างในวันที่ทดลองในถิ่นทุรกันดาร” (ฮีบรู 3:7-8)

อับราฮัมคือชายที่ยกชูคำสั่งสอนของพระเจ้าอย่างมาก ในปฐมกาล 22:2 พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “จงพาบุตรของเจ้าคืออิสอัค บุตรคนเดียวของเจ้าผู้ที่เจ้ารัก ไปยังแคว้นโมริยาห์ และถวายเขาที่นั่นเป็นเครื่องเผาบูชา บนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเราจะบอกแก่เจ้า” ถึงแม้ว่าคำสั่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม อับราฮัมไม่ได้สงสัย แต่เขาได้ปฏิบัติตามและพร้อมที่จะถวายลูกชายของเขา ถ้าพระเจ้าไม่ได้ห้ามเขาไว้ สิ่งที่ผลักดันเขาคือ “พระเจ้าตรัสดังนั้น!”
คุณควรจะเป็นเช่นนั้น ความพึงพอใจในชีวิตของคุณไม่ควรจะเป็นความตื่นเต้นในการได้ทำสิ่งที่คุณชอบ แต่ในการทำสิ่งที่พระเจ้าบอกให้ทำ เหมือนอย่างกรณีของอับราฮัม คำสั่งของพระเจ้าอาจดูเหมือนไม่น่าทำ ยกตัวอย่างเช่น พระองค์อาจบอกให้คุณทำงานที่คุณไม่ค่อยชอบต่อไป อย่าโต้แย้งกับพระเจ้า ทำงานนั้นต่อไปและเลือกที่จะชอบมัน และทำงานนั้นให้สำเร็จ เพราะว่าพระเจ้าทรงตรัสเช่นนั้น
พระคำของพระเจ้ามาถึงเราเพื่อเปลี่ยนแปลง แก้ไข และนำเรา เมื่อพระคำมาถึงคุณ จงอย่าเพิกเฉยหรือหาเหตุผลที่จะไม่ทำ ถ้าคุณกำลังจะตัดสินใจทำบางอย่างและพระคำของพระเจ้าบอกคุณให้ทำอีกอย่างหนึ่ง อย่าดื้อรั้น จงเลือกทำตามพระคำ พระคำของพระเจ้าจะสำแดงทางที่ดีกว่าให้เสมอ
พระเยซูร้องไห้เหนือกรุงเยรูซาเล็มเพราะว่าคนที่นั่นไม่รู้จักพระองค์ ซึ่งเป็นพระวาทะของพระเจ้า ดังนั้นพวกเขาจึงพลาดวาระแห่งการเยี่ยมเยียนของพวกเขา (ลูกา 19:44) นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่ทำให้จิตใจของเขาแข็งกระด้างต่อพระคำ พระคำก็จะผ่านพวกเขาไป เป็นคำอธิษฐานของข้าพเจ้าที่พระคำของพระเจ้าจะมีฤทธิ์เดชในชีวิตของคุณเสมอ เพื่อปั้นแต่ง แก้ไข และตรวจสอบคุณ ทำให้คุณเป็นชายหรือหญิงที่พระเจ้าทรงกำหนดให้คุณเป็น

คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ยินดีในพระคำของพระองค์เหมือนหนึ่งคนที่ได้พบทรัพย์อันล้ำค่า พระคำของพระองค์คือชีวิตของข้าพระองค์ และเป็นสิทธิอำนาจสูงสุดเหนือข้าพระองค์ และทุกสิ่งที่ข้าพระองค์ทำ ข้าพระองค์จะยอมจำนนต่อพระคำของพระองค์ตลอดไป ในการปั้นแต่ง แก้ไข และตบแต่งข้าพระองค์เข้าสู่สง่าราศีที่พระองค์ได้กำหนดให้ข้าพระองค์เป็น ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 2 ทิโมธี 3:16-17; ฮีบรู 4:12


Comments are closed