จันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2012

เรียกมันออกมา!
Call It Forth!

“ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เราได้ให้เจ้าเป็นบิดาของมวลประชาชาติ ต่อพระพักตร์พระองค์ที่ท่านเชื่อ คือพระเจ้าผู้ทรงให้คนที่ตายแล้วฟื้นชีวิตขึ้นมา และทรงเรียกสิ่งของที่ยังมิได้มี ให้มีขึ้น” (โรม 4:17)

นึกถึงอับราฮัม เขาไม่มีบุตร และอายุเกือบจะถึงหนึ่งร้อยปี แต่พระเจ้ายังทรงตรัสกับเขาว่า “เราได้ให้เจ้าเป็นบิดาของมวลประชาชาติ” (โรม 4:17) นี่ไม่ใช่พระสัญญา แต่เป็นประโยคแห่งความจริง อับราฮัมอาจจะพูดว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงรู้ว่าข้าพระองค์เป็นคนชรามากแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่ข้าพระองค์จะมีบุตร” เขาไม่ได้พูดเช่นนั้น! แต่เขาเชื่อในพระเจ้า และจึงถือว่าเป็นความชอบธรรมของเขา จะต้องจ่ายราคาเพื่อความเชื่อ
ประสบการณ์นี้ของอับราฮัมเปิดเผยถึงหลักการที่สำคัญของความเชื่อ หลักการของการเรียกในสิ่งที่ยังไม่มี เหมือนว่ามันมีแล้ว ถึงแม้ว่าอับราฮัมจะอายุมากแล้ว พระเจ้าไม่ได้ยอมแพ้ในตัวเขา มันไม่แตกต่างว่าคุณรอการอัศจรรย์นั้นนานเพียงใด อย่ายอมแพ้ จงเรียกมันออกมา ความเชื่อเรียกสิ่งที่ยังไม่มีเหมือนหนึ่งว่ามันมี
ไม่ว่าสถานการณ์ของคุณตอนนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม มันไม่มีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้า ผู้ทรงประทานชีวิตให้แก่ผู้ที่ตายแล้ว พระคัมภีร์กล่าวว่าให้เราเป็นผู้ติดตามหรือเรียนแบบอย่างของพระเจ้า (เอเฟซัส 5:1) นั่นหมายความว่าคุณจะต้องใช้ความเชื่อแบบพระเจ้า
สิ่งที่คุณรู้สึกหรือมองเห็นในฝ่ายร่างกายนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ มีเพียงพระคำของพระเจ้าเท่านั้นที่จะคงอยู่ตลอดไป “…เพราะว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นอยู่นั้นเป็นของไม่ยั่งยืน แต่สิ่งซึ่งมองไม่เห็นนั้นก็ถาวรนิรันดร์” (2 โครินธ์ 4:18)
คำถามก็คือว่า อะไรคือสิ่งที่คุณเชื่อจริงๆ? ถ้าคุณเชื่อในพระคำ ก็จงกล่าวพระคำออกมาอย่างกล้าหาญ เราไม่ได้เชื่อเพื่อที่จะเงียบอยู่ “…เพราะเรามีใจเชื่อเช่นเดียวกับผู้ที่เขียนไว้ว่า ข้าพเจ้าเชื่อ เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูด เราก็เชื่อเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงพูด” (2 โครินธ์ 4:13)

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ
ข้าพเจ้าไม่ขาดสิ่งใด! ความรัก ความยินดี สุขภาพ สันติสุข ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองเป็นของข้าพเจ้าทุกเวลาในองค์พระเยซูคริสต์ วันนี้ข้าพเจ้าก้าวไปและเกิดผลในทุกสิ่ง ข้าพเจ้าต้องการความยอดเยี่ยม และพระสิริของพระเจ้าได้ทรงสำแดงออกผ่านข้าพเจ้าไปยังโลกของข้าพเจ้า ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: มาระโก 11:22-23; โรม 10:8-10


Comments are closed