“ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่หวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่มองไม่เห็น” (ฮีบรู 11:1)

     การเชื่อคือการแสดงออกถึงความเชื่อของคุณ ความเชื่อเป็นการตอบสนองของวิญญาณจิตของมนุษย์ที่มีต่อพระคำพระเจ้า เมื่อคุณแสดงความเชื่อของคุณ คุณก็ได้รับและมันก็ถูกรับรองแล้วดังนั้นคุณก็ไม่ต้องการหลักฐานอะไรอีก

มันเหมือนคำพิพากษาของศาลที่ตัดสินหลังจากได้พิจารณาหลักฐานทั้งหมดแล้ว เมื่อตัดสินแล้วคุณก็ไม่ต้องกลับมาพร้อมกับหลักฐานเพิ่มเติมอีก หลักฐานที่ให้ไปเพียงพอแล้ว จึงมีคำพิพากษาออกมา เช่นเดียวกันเมื่อคุณเชื่อ คุณก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าสิ่งนั้นเป็นความจริง แล้วผลก็คือ มีบางอย่างเกิดขึ้นและคุณได้รับ เราเชื่อบางสิ่งและผู้เชื่อคือผู้ที่มี ผู้ที่ได้ยกตัวอย่าง พระคัมภีร์กล่าวว่า “คนที่วางใจในพระบุตรก็มีชีวิตนิรันดร์…” (ยอห์น 3:36) เมื่อคุณเชื่อในพระเยซูคริสต์คุณก็ได้รับชีวิตนิรันด์ “เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่วางใจก็มีชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 6:47) ด้วยเหตุนี้ยอห์นจึงกล่าวว่า “ข้อความเหล่านี้ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลายที่วางใจในพระนามของพระบุตรของพระเจ้า เพื่อให้ท่านรู้ว่าท่านมีชีวิตนิรันดร์” (1 ยอห์น 5:13)

ชีวิตนิรันดร์ไม่ใช่ความหวังที่อยู่ในสวรรค์ บางอย่างที่คุณรอคอยพระเจ้าที่จะทำให้กับคุณ ไม่ใช่ มันเป็นสิ่งที่คุณได้รับแล้วเมื่อคุณเชื่อ เป็นของคุณแล้วในเวลานี้ ให้พิจารณา มาระโก 11:24 “เพราะเหตุนี้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เมื่อพวกท่านอธิษฐานขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ แล้วพวกท่านจะได้รับสิ่งนั้น” มันไม่ใช่ว่าเมื่อคุณถือไว้ในมือหรือเมื่อคุณเห็นด้วยตาธรรมดาของคุณแล้วจึงทำให้คุณรู้แน่ว่าคุณได้รับสิ่งที่คุณต้องการแล้ว แต่วิญญาณของคุณได้ครอบครองแล้วเมื่อคุณอธิษฐานด้วยความเชื่อว่าคุณได้รับ

คำอธิษฐาน