จันทร์ ที่ 15 ตุลาคม 2018

เพ่งความสนใจไปที่พระวจนะ
FOCUS ON THE WORD

… คือพระเจ้าผู้ทรงให้ชีวิตแก่คนที่ตายแล้ว และทรงเรียกสิ่งที่ยังไม่ได้มีราวกับว่ามีแล้ว (โรม 4:17)

     พระคัมภีร์ข้างต้นมีประโยชน์มาก พระคัมภีร์บอกว่าพระเจ้าเรียก “… สิ่งที่ยังไม่มีราวกับว่ามีแล้ว” สิ่งนี้แตกต่างจากการเรียก “สิ่งที่มี” ราวกับว่าไม่มี

ยกตัวอย่างเช่นบางคนรู้สึกปวดหัวไมเกรนและพูดว่า “ฉันไม่มีไมเกรน” นั่นเป็นการปฏิเสธ เขากำลังพยายามโต้เถียงกับสถานการณ์ บางคนลงเอยในหลุมฝังศพด้วยการทำอย่างนั้น พวกเขาพูดเรื่อยๆ ว่า “ฉันไม่มีโรคมะเร็ง” แต่ในที่สุดก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ความเชื่อไม่เรียก “สิ่งที่มีอยู่” ราวกับว่าไม่มี มันไม่ได้ปฏิเสธข้อเท็จจริง แต่เปลี่ยนให้สอดคล้องกับการจัดเตรียมของพระเจ้า

ใช่ คุณอาจเพิ่งถูกไล่ออกจากการงาน ใช่ มีปัญหาในร่างกายของคุณ คุณอาจรู้สึกปวดไปทั่วตัว แต่ปฏิเสธที่จะให้มันอยู่! ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ปัญหาใดๆ หรือสถานการณ์ที่คุณอาจกำลังเผชิญหน้าอยู่ควบคุมสถานการณ์ของคุณ! ปัญหาไม่ใช่สิ่งที่กำหนดว่าคุณคือใคร, คุณจะกลายเป็นอะไร, คุณกำลังไปที่ไหน หรือคุณมีอะไร สิ่งที่กำหนดคือความเชื่อ!

ใช่ คุณสามารถเห็นรายงานของแพทย์ว่าทารกของคุณมีเนื้องอกในสมอง เปลี่ยนแปลงมัน หรือฆ่าเนื้องอกนั้นด้วยคำป่าวประกาศที่เต็มไปด้วยความเชื่อของคุณ! ไม่ว่าวิกฤติการณ์จะเป็นอย่างไร เพ่งความสนใจไปที่พระวจนะ ใช้พระวจนะ เพียงเพราะมีอาการปวดในร่างกายของคุณไม่ได้หมายความว่าการรักษาของคุณไม่ชัดเจน ป่าวประกาศต่อไปว่าคุณมีสุขภาพที่ดี นั่นคือคุณมีชีวิตของพระเจ้าในตัวคุณตั้งแต่ปลายหัวไปจนถึงฝ่าเท้าของคุณ!

พระวจนะของพระเจ้าเป็นหลักฐานของคุณ นั่นคือหลักฐานเกี่ยวกับสิทธิในความเจริญรุ่งเรือง, สุขภาพของพระเจ้า, ความก้าวหน้าหน้าและความสำเร็จอย่างถาวร อย่าเพ่งความสนใจไปที่การท้าทาย นั่นคือเพ่งความสนใจไปที่ความเป็นจริงที่มองไม่เห็น เพราะสิ่งที่มองเห็นนั้นเป็นสิ่งชั่วคราว แต่สิ่งที่ไม่เห็นก็ถาวรนิรันดร์ ขอพระสิริเป็นของพระเจ้า!

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

     พระวจนะอยู่ในหัวใจและในปากของฉัน และตาแห่งความคิดและวิญญาณของฉันได้รับความสว่างเพื่อให้เข้าใจถึงความเป็นจริงฝ่ายวิญญาณดังที่ปรากฏในพระวจนะ ความเป็นจริงไม่ได้กำหนดสถานการณ์ของฉัน เพราะฉันเดินโดยความเชื่อในสุขภาพ, ความเจริญรุ่งเรือง และชัยชนะ ดำเนินชีวิตอย่างมีชัยชนะในพระนามของพระเยซู

ศึกษาเพิ่มเติมฮีบรู 11:1; 2 โครินธ์ 4:17-18


Comments are closed