“เพราะว่าพระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก ไม่ใช่เพื่อพิพากษาโลก แต่เพื่อช่วยกู้โลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น” (ยอห์น 3:17)

     ลองจินตนาการว่าคุณมีเพื่อนหรือญาติที่ไม่ได้บังเกิดใหม่ หรือคนที่ทำงานกับคุณที่ไม่ได้บังเกิดใหม่ อย่าปล่อยให้พวกเขาตกนรก! นี่ไม่ใช่เรื่องตลก คุณจำเป็นต้องคร่ำครวญและร้องไห้เพื่อความรอดของพวกเขา ในการอธิษฐานวิงวอนของคุณคุณจำเป็นต้องร้องครวญครางและคร่ำครวญเพื่อวิญญาณของพวกเขาว่าความสว่างแห่งข่าวประเสริฐซึ่งเปี่ยมด้วยพระสิริจะส่องสว่างในหัวใจพวกเขา คุณจำเป็นต้องอธิษฐานเผื่อพวกเขาที่จะรู้ถึงความน่ากลัวที่รอพวกเขาอยู่ จนกว่าคุณจะมั่นใจในความรอดของพวกเขา อย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่น

จงคิดถึงลุงกับป้าของคุณ คิดถึงลูกพี่ลูกน้อง คู่สมรส ลูกๆ ของคุณ อย่าปล่อยให้พวกเขาพินาศโดยปราศจากพระเจ้า! อย่าปล่อยให้พวกเขาตกนรก! คุณรู้หรือไม่ว่าการอยู่ในที่มืดมิดที่สุดชั่วนิรันดร์และไม่มีความหวังว่าจะสิ้นสุดนั้นหมายความว่าอย่างไร?

การปรากฏตัวของคุณในบ้านโรงเรียน ที่ทำงาน ละแวกบ้าน ที่ดิน เมือง หรือประเทศไม่ใช่แค่การเล่นเกม ไม่ใช่เพื่อให้คุณแค่มีความสุขและเฉลิมฉลองว่าคุณได้บังเกิดใหม่แล้ว คุณจะต้องเป็นห่วงถึงความรอดของผู้อื่น คุณเป็นผู้ช่วยโลกของคุณให้รอด คุณได้รับความรอดเพื่อช่วยผู้อื่นให้รอด

คุณอยู่บนโลกและมีชีวิตอยู่เพื่อทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะนำผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มาถึงพระเยซูคริสต์ เราต้องดึงเขาออกมาจากนรก บางคนอยู่ใกล้มากแล้ว และถ้าเราไม่ช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาจะลื่นตกไปในนั้น แต่เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาตก!

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบหมายให้เราทำพันธกิจเรื่องการคืนดีกัน และเรากำลังปฏิบัติพันธกิจนี้อย่างซื่อสัตย์ ด้วยการย้ายมนุษย์ออกจากความมืดสู่ความสว่างและจากฤทธิ์อำนาจของซาตานมาหาพระเจ้า

คำอธิษฐาน