ศุกร์ ที่ 26 มิถุนายน 2015

“อย่าเชื่อทุกๆ วิญญาณ”
“Believe Not Every Spirit”

“ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆ วิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากจาริกไปในโลก” (1 ยอห์น 4:1)

    ใน 2 โครินธ์ 18:21 พระคัมภีร์บอกเราว่าวิญญาณแห่งการมุสาอยู่ในปากของผู้เผยพระวจนะเพื่อทำให้พวกเขาพูดคำโกหก วิญญาณนั้นยังไม่ตาย และเนื่องจากสิ่งที่วิญญาณนั้นทำได้ผล ทำให้มีวิญญาณอื่นๆ อีกที่ทำอย่างเดียวกันในทุกวันนี้ วิญญาณเหล่านั้นครอบงำผู้คนและทำให้พวกเขาพูดคำโกหกโดยไม่มีการบังคับตน

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องพิสูจน์ทุกวิญญาณ ไม่ใช่เชื่อทุกสิ่ง เชื่อเพียงแต่สิ่งที่จริง สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ดีงาม ทุกสิ่งที่สมควรสรรเสริญ อย่าเชื่อในข่าวลือ เหมือนที่บางคนกล่าวว่า “ในทุกข่าวลือ มีส่วนของความจริง” จะมีส่วนของความจริงในข่าวลือที่เป็นเท็จได้อย่างไร? ส่วนของความจริงอะไรที่มีในเวลาที่พวกเขาโกหกเกี่ยวกับพระเยซู? พระคัมภีร์กล่าวว่าพวกเขาเกลียดชังพระองค์โดยปราศจากเหตุ และโกหกเกี่ยวกับพระองค์ (มัทธิว 26:59)

สิ่งเหล่านั้นยังคงเกิดขึ้นในวันนี้! ยังคงมีวิญญาณแห่งการมุสา เป็นมารร้ายเดียวกัน มันไม่มีวิธีใหม่ แผนการของมันยังเหมือนเดิม ถ้ามันสามารถเป็นวิญญาณแห่งการมุสาในปากของผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เดิม คุณสามารถจินตนาการได้ว่าพวกมันจะสามารถทำอย่างไรกับคนที่ยอมให้มันทำได้บ้าง

มันสามารถเป็นวิญญาณแห่งการมุสาในปากของเด็กๆ ที่พูดโกหกต่อพ่อแม่ หรือในทางตรงกันข้าม มันสามารถเป็นวิญญาณแห่งการมุสาในปากของเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัว ต่อเพื่ออีกคนหรือกับสมาชิกคนอื่นในครอบครัว มันเป็นอย่างนั้น มันคือซาตาน เป็นผู้หลอกลวงและผู้เปลี่ยนแปลงที่ฉ้อฉล อย่างไรก็ดีเราไม่ได้ปราศจากความรู้ในอุบายของมัน

ติดตามพระคำของพระเจ้า และยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำคุณในทุกสิ่ง พระองค์คือวิญญาณแห่งความจริง และพระองค์เท่านั้นที่สามารถนำคุณไปในทางแห่งความจริงได้เสมอ

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับสติปัญญาของพระองค์ที่ทำงานในข้าพระองค์ ทำให้ข้าพระองค์ได้รับการนำไปในทางแห่งความจริง ข้าพระองค์เกลียดชังการหลอกลวง และข้าพระองค์ถูกสถาปนาอย่างมั่นคงในพระคำของพระองค์ ซึ่งทำให้ความชอบธรรมสำแดงออกในวิญญาณของข้าพระองค์ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: สุภาษิต 13:5; สดุดี 101:7; 1 ยอห์น 2:20


Comments are closed