พุธที่ 10 กรกฎาคม 2013

อยู่เพื่อพระกิตติคุณ
Living For The Gospel

“เจ้าทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” (มาระโก 16:15)

มัทธิว 28:19-20 กล่าวว่า “เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” นี่คือพระมหาบัญชา และเป็นคำสั่งของพระเจ้าให้กับคริสเตียนทุกคน คุณจะต้องประกาศพระกิตติคุณอันยิ่งใหญ่ของพระคริสต์ ซึ่งเป็นฤทธิ์เดชแห่งความรอดของพระเจ้าแก่ทุกคนที่เชื่อ (โรม 1:16)
ไม่ควรมีสิ่งใดในโลกนี้ที่มีความหมายกับคุณมากกว่าการนำชายและหญิงมาถึงพระคริสต์ 2 เปโตร 3:9 บอกเราว่าพระเจ้าไม่ทรงปรารถนาให้ใครพินาศเลย แต่พระองค์ทรงต้องการให้ทุกคนได้ยินและต้อนรับพระกิตติคุณและได้รับความรอด
เมื่อพระเยซูได้สั่งเราให้ประกาศและสั่งสอนชนทุกชาติ พระองค์ไม่ได้หมายถึงประเทศต่างๆเท่านั้น พระองค์กำลังหมายถึงระบบวิถีชีวิตต่างๆ กลุ่มหรือบริษัทต่างๆ ที่มีความสนใจเหมือนกัน เป้าหมายหรือลักษณะที่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น โลกของนักธนาคาร นักกฏหมาย นักเรียน นักเล่นหุ้น นักวิชาการ ฯลฯ นี่คือ “ชาติ” ของคนที่มีความสนใจเดียวกัน คุณจะต้องเป็นผู้รับใช้แห่งการคืนดีกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน และทำให้แน่ใจว่าคนเหล่านั้นที่อยู่ในโลกของคุณ และในที่ต่างๆ ได้ยิน และต้อนรับข้อความแห่งความรอด
เหมือนอาจารย์เปาโล “เพราะจำเป็นที่ข้าพเจ้าจะต้องประกาศข่าวประเสริฐ” (1 โครินธ์ 9:16) ดังนั้นจงเป็นผู้นำวิญญาณที่กระตือรือล้น ตระหนักว่าคุณคือนักประกาศในโลกของคุณ ในบ้านของคุณ สำนักงาน โรงเรียน และในบริเวณรอบบ้านของคุณ พระเจ้าได้เจิมตั้งคุณเพื่อให้ปลดปล่อยคนออกจากการจองจำ เข้าสู่อิสรภาพอันยิ่งใหญ่ของพระบุตรของพระเจ้า เปลี่ยนพวกเขาจากความมืดสู่ความสว่าง และจากความบาปเข้าสู่ความชอบธรรม! พูดกับบางคนเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์วันนี้!

คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์สำหรับโอกาสพิเศษในการประกาศพระคำของพระองค์ด้วยฤทธิ์เดชในวันนี้ ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคุณอันล้นเหลือที่พระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์เพื่อให้เป็นผู้รับใช้แห่งพระกิตติคุณที่เกิดผล ในขณะที่ข้าพระองค์สำแดงความงดงามและฤทธิ์เดชแห่งความรู้ของพระองค์ในทุกที่ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 2 โครินธ์ 5:18; 2 โครินธ์ 3:5-6


Comments are closed