อาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013

ส่งเสียงออกไป!
Noise It Abroad!

“ให้ผู้ที่พระเจ้าทรงไถ่ไว้แล้ว กล่าวดังนั้นเถิด คือผู้ที่พระองค์ทรงไถ่ไว้จากมือของปรปักษ์” (สดุดี 107:2)

ข้าพเจ้าชอบข้อพระคัมภีร์ข้อนี้มาก ข้อพระคำนี้ได้บอกเราให้รู้ว่าเราจะต้องไม่เงียบเกี่ยวกับพระพรและสิ่งดีที่ของพระเจ้าในชีวิตของเรา เราจะต้องส่งเสียงออกไป ทั้งโลกควรจะรู้ถึงสิ่งดีที่พระเจ้าได้ทรงทำเพื่อคุณ หลายคนในคริสตจักรประเมินค่าพลังแห่งคำพยานของพวกเขาต่ำเกินไป ลืมไปว่าพระคำกล่าวไว้ว่า “…เขาเหล่านั้นชนะพญามารด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก และเพราะคำพยานของพวกเขาเอง…” (วิวรณ์ 12:10-11)
เราควรป่าวประกาศออกไปถึงสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำ และกับชีวิตของเราและในชีวิตของคนเหล่านั้นอยู่รอบตัวเรา คุณต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับและตระหนักเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำและสรรเสริญพระองค์ คุณจะสรรเสริญพระองค์ได้อย่างไร? ก็โดยการเป็นพยานถึงความดีของพระองค์ บอกกับคนอื่นถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อคุณ เมื่อคุณขอบพระคุณพระองค์ด้วยความยินดีจากใจของคุณ และเป็นพยานให้คนอื่นฟัง พระเจ้าจะทรงกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าให้กับคุณ ทุกครั้งที่คำพยานได้ถูกแบ่งปันออกไป ความเชื่อจะถูกปลุกเร้าในใจของผู้ที่ได้ยิน พวกเขาจะสามารถเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด และรู้ว่าพระองค์ทรงประทานบำเน็จให้กับความเชื่อของทุกคนที่ทำตามพระคำของพระองค์
เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในการที่ได้รับการรักษาให้หายโรค หรือการอัศจรรย์อื่นๆ และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่! ประกาศออกไปทุกที่ ส่งเสียงออกไป! บอกให้ทุกคนรู้ว่าพระเยซูทรงเหมือนเดิมเมื่อวานนี้ วันนี้ และตลอดไปเป็นนิจ ทำให้วิทยุ อินเตอร์เน็ต และสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เต็มไปด้วยความจริงของพระคริสต์ แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่และเกี่ยวข้องกับทุกวันของพวกเรา พระเจ้ามีจริง ถ้อยคำของพระองค์เกิดผล! พระองค์ยังทรงกระทำการอัศจรรย์อยู่ในทุกวันนี้เหมือนครั้งที่พระองค์ได้กระทำในสมัยพระคัมภีร์ จงส่งเสียงออกไป

คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ด้วยจิตใจที่ขอบพระคุณ ยกชูมืออันบริสุทธิ์ต่อพระองค์ด้วยการนมัสการ เพราะความรัก พระคุณ และพระพรอันอัศจรรย์ของพระองค์ในชีวิตของข้าพระองค์ ความสัตย์ซื่อและความรักมั่นคงที่ไม่เคยหยุดยั้งนั้นยิ่งใหญ่! ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักและความเมตตาที่ใหม่ทุกเช้า อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: สดุดี 103:2; ยอห์น 3:11