อาทิตย์ ที่ 21 กันยายน 2014

สำแดงพระคริสต์
Revealing Christ

“เพราะว่าพวกเราที่มีชีวิตอยู่นั้น ต้องถูกมอบไว้แก่ความตายอยู่เสมอ เพราะเห็นแก่พระเยซู เพื่อว่าพระชนม์ชีพของพระเยซูจะได้ปรากฏในเนื้อหนังของเรา ซึ่งจะต้องตายนั้น” (2 โครินธ์ 4:11)

    คริสเตียนคือการเปิดเผยพระคริสต์ในคุณ เป็นการสำแดงชีวิตพระคริสต์ในคุณ เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเข้าใจสิ่งนี้ ยกตัวอย่าง ในฐานะคริสเตียนคนหนึ่ง เมื่อคุณแสดงความถ่อมใจ ไม่ใช่เพียงเพราะว่าคุณพยายามที่จะถ่อมใจ เมื่อคุณแสดงความรัก ความห่วงใย และความเมตตากับคนอื่น เป็นมากกว่าที่คุณพยายามเป็นคนดีหรือทำสิ่งที่ดี แต่เป็นการสำแดงชีวิตของพระคริสต์ภายในคุณ นั่นเพราะว่าความถ่อมใจของพระคริสต์อยู่ในวิญญาณของคุณ

การแสดงออกภายนอกของความรัก ความเมตตา ความถ่อมใจ ฯลฯ ที่คนอื่นได้รับจากคุณคือการสำแดงของชีวิตพระคริสต์ในวิญญาณของคุณ ทุกสิ่งที่พระเจ้าต้องการสำแดงในคุณคือพระคริสต์ พระคริสต์มีชีวิตในคุณ ทำงานผ่านคุณ สัมผัสและเปลี่ยนแปลงชีวิตมากมายผ่านทางคุณ การเข้าใจในความจริงข้อนี้จะเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและการสื่อสารของคุณ รวมถึงมุมมองของคุณที่มีต่อพระคริสต์และตัวคุณเอง เมื่อคุณสามารถเข้าใจวิธีในการให้พระองค์สำแดงพระองค์เองในชีวิตของคุณ เมื่อนั้นการต่อสู้ของคุณในการพยายามทำสิ่งต่างๆ ด้วยกำลังของตัวเองก็จะหยุดลง

การเป็นคริสเตียนหมายความว่าพระคริสต์ได้ครอบครองวิญญาณของคุณ คุณได้กลายเป็นศูนย์บัญชาการของพระองค์ ไม่ว่าพระองค์ต้องการทำอะไรในโลกนี้ก็ทำโดยผ่านตัวคุณ คุณคือความงดงามของพระองค์ ถ้วยรางวัลของพระองค์ และแขนที่ยื่นออกไป พระเยซูตรัสไว้ในยอห์น 15:5 ว่า “เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง…” แขนงคือส่วนที่ออกผลของเถาองุ่น ดังนั้นคุณเปิดเผยพระสิริและความงดงามของพระคริสต์

สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้คุณตระหนักก็คือพระสิริภายใน พระคริสต์ในคุณ คือสิ่งที่ทำให้เกิดพระสิริที่สามารถมองเห็นได้ภายนอก พระสิริภายในนั้นยิ่งใหญ่กว่า ถ้าคุณมองเพียงภายในเท่านั้น ภายในวิญญาณของคุณ คุณจะประหลาดใจในสิ่งที่อยู่ภายในและเปิดเผยสิ่งเหล่านั้นแก่โลกของคุณ

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระคริสต์ที่ทรงครอบครองวิญญาณของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้กลายเป็นศูนย์บัญชาการของพระองค์ ผ่านทางข้าพระองค์ พระสิริ ความงดงาม สติปัญญา ความสมบูรณ์แบบ และความชอบธรรมได้ถูกเปิดเผยแก่โลกนี้ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: โคโลสี 3:3-4; 1 เปโตร 4:13


Comments are closed