อังคาร ที่ 30 มกราคม 2018
สามัคคีธรรมกับพระคำ
Fellowshipping The Word

“มิใช่เราจะคิดถือว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดจากความสามารถของเราเอง แต่ว่าความสามารถของเรามาจากพระเจ้า พระองค์จึงทรงโปรดประทานให้เราสามารถเป็นผู้ปฏิบัติได้ตามพันธสัญญาใหม่ มิใช่ตามตัวอักษร แต่ตามพระวิญญาณ ด้วยว่าตัวอักษรนั้นประหารให้ตาย แต่พระวิญญาณนั้นประทานชีวิต” (2 โครินธ์ 3:5-6)

   พระคำของพระเจ้าเป็นวิญญาณและเป็นชีวิต เป็นมากกว่าตัวหนังสือ “พระองค์จึงทรงโปรดประทานให้เราสามารถเป็นผู้ปฏิบัติได้ตามพันธสัญญาใหม่ มิใช่ตามตัวอักษร แต่ตามพระวิญญาณ ด้วยว่าตัวอักษรนั้นประหารให้ตาย แต่พระวิญญาณนั้นประทานชีวิต” (2 โครินธ์ 3:6) พระเยซูตรัสว่า “พระวิญญาณเป็นผู้ให้ชีวิต เนื้อหนังนั้นไม่มีประโยชน์อะไร ถ้อยคำที่เรากล่าวกับพวกท่านมาจากพระวิญญาณและเป็นชีวิต” (ยอห์น 6:63) พระคำสร้าง ยกชู และเปลี่ยนแปลงเราให้มีสง่าราศีมากขึ้นเป็นลำดับขึ้นไป นี่เป็นเหตุผลที่เราเน้นย้ำการภาวนาพระคำของพระเจ้า

พระเจ้าต้องการให้คุณภาวนาพระคำ เพราะว่าพระองค์ทรงทราบว่าเมื่อคุณทำเช่นนั้น พระคำจะเข้าไปในวิญญาณของคุณและกลายเป็นสิ่งที่เป็นส่วนตัวสำหรับคุณ พระคำจะกลายเป็น “rhema” สำหรับคุณ ซึ่งเป็นพระคำของพระเจ้าที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคุณ สำหรับเวลาที่เฉพาะ และวัตถุประสงค์ที่เฉพาะ เมื่อคุณศึกษาหรือได้ฟังพระคำของพระเจ้า ทุกครั้งจะมีการเร้าใจในวิญญาณของคุณที่จะกล่าวพระคำนั้นออกไปบนพื้นฐานของสิ่งที่คุณกำลังศึกษาหรือกำลังเรียนรู้อยู่ อย่ากดมันไว้ ให้พูดออกไป นั่นคือถ้อยคำ “rhema” ที่คุณต้องการเมื่อมาถึงสงครามฝ่ายวิญญาณ

เมื่อคุณได้ยินพระคำ นั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้ากำลังตรัสกับคุณ แต่พระองค์ต้องการให้คุณตอบสนองเสมอ นั่นคือวิธีที่จะสามัคคีธรรมกับพระคำ การสามัคคีธรรมกับพระคำเป็นเรื่องของการตอบสนองของคุณต่อพระคำเมื่อคุณได้ศึกษาหรือเรียนรู้ คริสเตียนบางคนไม่ได้ตระหนักว่าพวกเขาต้องตอบสนองต่อพระคำ พวกเขาศึกษาพระคำของพระเจ้าเหมือนกับการอ่านหนังสือพิมพ์หรืออ่านนิยาย ไม่ใช่! คุณจะต้องสามัคคีธรรมกับพระคำ นั่นคือที่ซึ่งพระสิริอยู่!

จนกว่าคุณจะสามัคคีธรรมกับพระคำของพระเจ้า พระคำก็ยังคงเป็นสิ่งที่ “แปลกหน้า” สำหรับคุณ ใครคือพระคำ? พระคัมภีร์กล่าวว่า “ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยู่กับพระเจ้า และพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า ในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่กับพระเจ้า พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่งที่เป็นอยู่นั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นอยู่นอกเหนือพระวาทะ” (ยอห์น 1:1-3) พระคำทรงเป็นบุคคล สังเกตคำที่บอกว่า “พระองค์” ในข้อพระคำตอนต้น พระนามของพระองค์คือพระเยซู! พระองค์ทรงเป็นพระคำ พระคำในร่างกายของมนุษย์

คำอธิษฐาน

   ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานพระคำแก่ข้าพระองค์เพื่อให้ข้าพระองค์ใช้ในการดำเนินชีวิต พระคำของพระองค์ทรงเป็นความสว่างที่นำข้าพระองค์ไป และส่องสว่างแก่ทางของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่ต้องเดินในความมืดเลย ในขณะที่ข้าพระองค์ศึกษาพระคำและตอบสนองต่อพระคำ พระคำนั้นก็จะทำให้เกิดผลในชีวิตของข้าพระองค์ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: กิจการ 20:32; ฮีบรู 13:5-6; 2 ทิโมธี 3:16-17


Comments are closed