พุธที่ 23 มกราคม 2019
วิธีใหม่ในการอธิษฐาน
A New Way To Pray

“ในวันนั้นพวกท่านจะไม่ขออะไรเราอีก…” (ยอห์น 16:23)

     คำอธิษฐานในพันธสัญญาใหม่แตกต่างจากสิ่งที่อยู่ในพันธสัญญาเดิม ในพระคัมภีร์เดิมคนทั้งหลายต้องทูลขอจากพระเจ้าเพื่อจะได้รับจากพระองค์ พวกเขาต้องขอ เพราะพระเจ้าสัญญาว่าจะอวยพรพวกเขา พระองค์สัญญาที่จะจัดเตรียมเพื่อความต้องการของพวกเขา ดังนั้นด้วยหลักฐานหรือพื้นฐานแห่งสัญญาของพระองค์ พวกเขาจึงต้องอธิษฐานและขอ

พระองค์ทรงเป็นเยโฮวาห์ยิเรห์ พระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้รักษาโรคของพวกเขา พระองค์ทรงเป็นธงของพวกเขา พระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นความชอบธรรมของพวกเขา พระเจ้าผู้ทรงพระสิริผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้ทำสัญญาไว้ดังนั้นพวกเขาเข้าหาพระองค์เพื่อขอตามพระสัญญาของพระองค์

เมื่อพระเยซูเสด็จมา เนื่องจากพระองค์ทรงดำเนินชีวิตอยู่ในพันธสัญญาเดิม คำสอนของพระองค์ก็อยู่บนพื้นฐานของพันธสัญญาเดิมด้วย เมื่อพระองค์ทรงสอนเกี่ยวกับการอธิษฐาน พระองค์ทรงสอนเรื่องความเชื่อให้แก่คนที่อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติของโมเสส แต่นั่นไม่ใช่ช่วงเวลาที่คุณดำเนินชีวิตอยู่ ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถอธิษฐานอย่างที่พวกเขาทำและคาดหวังผลลัพธ์ที่คุณควรจะได้รับในฐานะคนของพันธสัญญาใหม่ คำอธิษฐานได้เปลี่ยนไป

ในพันธสัญญาเดิมพวกเขาอธิษฐานด้วยการคาดหวังว่าพระเจ้าจะทำให้พันธสัญญาของพระองค์สำเร็จ แต่ในพันธสัญญาใหม่ พระสัญญาทั้งหมดของพระเจ้าได้ถูกทำให้สำเร็จแล้วในพระคริสต์ 2 โครินธ์ 1:20 กล่าวว่า “เพราะว่าพระสัญญาต่างๆ ของพระเจ้าล้วนแต่เป็นจริงโดยพระเยซู เพราะเหตุนี้เราจึงพูดว่าอาเมนโดยพระองค์ ซึ่งเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า” วันนี้คุณไม่ต้องขอสิ่งต่างๆ จากพระเจ้าเหมือนสิ่งที่พวกเขาทำในพันธสัญญาเดิม คุณต้องรับ เพราะว่าทุกสิ่งเป็นของคุณแล้ว (1 โครินธ์ 3:21-23) เพียงแค่เดินในความเป็นจริงของมรดกและชีวิตที่ได้รับการอวยพรของคุณในพระคริสต์

2 เปโตร 1:3 กล่าวว่า “ฤทธิ์เดชของพระเจ้าได้ให้ทุกสิ่งแก่เรา ที่จำเป็นต่อชีวิตและต่อการดำเนินตามทางพระเจ้า โดยการรู้จักพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกเราด้วยพระสิริและคุณธรรมของพระองค์เอง” เนื่องจากพระเจ้าได้ประทานทุกสิ่งที่เราจำเป็นในการดำเนินชีวิต และเพื่อที่จะดำเนินชีวิตด้วยความชอบธรรมต่อพระองค์แล้ว เราจะต้องขออะไรอีกในคำอธิษฐาน?

ดังนั้นคำอธิษฐานในพันธสัญญาใหม่จึงไม่ได้หมายความถึงการขอสิ่งต่างๆจากพระเจ้า แต่เป็นช่องทางในการสามัคคีธรรมกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคือจุดประสงค์ที่สูงสุดของการอธิษฐาน

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

     ฉันเป็นทายาทของพระเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ โลกนี้เป็นของฉัน ฉันเกิดผลดีในทุกสิ่ง เพราะฉันรักองค์พระผู้เป็นเจ้าและฉันถูกเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ ฉันครอบครองและปกครองร่วมกับพระคริสต์ตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 1 โครินธ์ 3:21-23; 2 เปโตร 1:3-4


Comments are closed