อาทิตย์ ที่ 1 ธันวาคม 2013

วางใจในความสัตย์ซื่อของพระองค์!
Trust In His Faithfulness!

“ขอให้เรายึดมั่นในความหวังที่เราทั้งหลายเชื่อและรับไว้นั้น โดยไม่หวั่นไหว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงประทานพระสัญญานั้นทรงสัตย์ซื่อ” (ฮีบรู 10:23)

    พระเยซูคริสต์ได้สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตของยุคสุดท้ายโดยเตือนไว้ว่า “ความรักของคนส่วนมากจะเยือกเย็นลง เพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป” (มัทธิว 24:12)มีหลายคนที่สูญเสียความหวังใจ สงสัยว่าพระเจ้ายังทรงห่วงใยและปกป้องอยู่หรือไม่ แน่นอน พระองค์ยังทรงห่วงใย และปกป้อง ลูกๆ ของพระองค์!

สดุดี 91:3-8 ได้แสดงให้เห็นถึงการประกาศการครอบครองของพระเจ้าเกี่ยวกับความตั้งใจของพระองค์ในการปกป้องและดูแลคุณ แม้ในช่วงเวลาของปัญหาและวิกฤตมากมายในโลกนี้! พระคำกล่าวว่า “เพราะพระองค์จะทรงช่วยกู้ตัวท่านจากกับของพรานนก และจากโรคภัยอย่างร้ายแรงนั้น พระองค์จะทรงปกท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์ และท่านจะลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์ ความสัตย์สุจริตของพระองค์เป็นโล่และเป็นดั้ง ท่านจะไม่กลัวความสยดสยองในกลางคืน หรือกลัวลูกธนูที่ปลิวไปในกลางวัน หรือโรคภัยที่ไล่มาในความมืด หรือโรคซึ่งทำลายในเที่ยงวัน พันคนจะล้มอยู่ที่ข้างๆ ท่าน หมื่นคนที่มือขวาของท่านแต่ภัยนั้นจะไม่มาใกล้ท่าน…” เป็นสิ่งที่ให้เราสบายใจได้!

วางใจในพระคำของพระองค์ คุณได้รับการปกป้องจากพระเจ้าต่อการโจมตีของศัตรู ไม่ว่าในเวลากลางคืน หรือกลางวัน พระเจ้าทรงปกป้องและดูแลคุณ การตอบสนองความเชื่อของคุณจึงควรจะเป็นว่า “พระเจ้าอยู่ในข้าพเจ้า อยู่กับข้าพเจ้า และอยู่เพื่อข้าพเจ้า ดังนั้น ข้าพเจ้าปฏิเสธที่จะกลัว!”

ไม่ว่าความยากลำบากหรือความหนักหนาของสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมรอบข้างของคุณจะเป็นอย่างไร จงปฏิเสธที่จะให้ใจของคุณเป็นกังวล! จดจ่อที่พระคำของพระเจ้า พระองค์ทรงตรัสไว้ในอิสยาห์ 43:2 ว่า “เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า” ไว้วางใจและยึดพระคำของพระองค์ไว้ เพราะว่าที่นั่นคือความปลอดภัยของคุณ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ
    ความไว้วางใจของข้าพเจ้าอยู่ในพระเจ้า พระองค์คือเกราะกำบังอันเข้มแข็ง เป็นกำลัง และความปลอดภัยของข้าพเจ้า! พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเข้มแข็งในพระองค์ หยั่งรากและวางอยู่บนความรักของพระองค์ และเกิดผลในทุกส่วนของชีวิต สรรเสริญพระเจ้า!

ศึกษาเพิ่มเติม: ยอห์น 14:1; เยเรมีย์ 17:8


Comments are closed