เสาร์ ที่ 8 กรกฎาคม 2017
ฤทธิ์เดชอยู่ภายในคุณ
The Power Is In You
“และให้คนที่วางใจในเราดื่ม ตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า ‘แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิตจะไหลออกมาจากภายในคนนั้น’” (ยอห์น 7:38)

    โดยความไม่รู้ หลายคนคิดว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการในการทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ และทำให้เกิดผลที่ถาวรมากขึ้นนั้นคือการได้รับการเจิมที่มากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงอธิษฐานว่า “พระเจ้า ข้าพระองค์ต้องการการเจิมที่มากขึ้นเป็นสองเท่า” แต่ไม่มีที่ไหนในพระคำของพระเจ้าที่ได้สัญญาว่าจะให้การเจิมแก่เรามากขึ้น หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเจิมซึ่งมีความหมายที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พระคำได้สอนไว้

อันดับแรก การเจิมนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งการชำระให้บริสุทธิ์ เมื่อใครคนหนึ่งได้รับการเจิมด้วยน้ำมันเหมือนในสมัยพระคัมภีร์เดิม เป็นสัญลักษณ์แห่งการชำระให้บริสุทธิ์ แต่สำคัญยิ่งกว่านั้น การเจิมเป็นผลของฤทธิ์เดชและการสถิตอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้นสำหรับคริสเตียนที่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว ในการที่จะขอ “การเจิมที่มากขึ้น” นั้นเป็นการขัดแย้ง ทำไมถึงขอผลกระทบในเมื่อคุณมีสิ่งที่แท้จริงอยู่แล้ว? พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่แท้จริง พระองค์ทรงเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า และเป็นผู้ประทานฤทธิ์เดช และพระองค์ทรงสถิตภายในคุณอย่างครบถ้วน

คุณได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่เป็นของเหลว น้ำ ควัน เมฆ หรือแก็ส แต่เป็นบุคคล เมื่อพระองค์ทรงเข้ามาสถิตภายในคุณนั้น เป็นทั้งหมดของพระองค์ ดังนั้น การเจิมซึ่งเป็นผลของการสถิตอยู่ของพระองค์ภายในคุณ จึงควรจะไหลออกมาจากภายในคุณ ในยอห์น 7:38 เมื่อพระเยซูกำลังตรัสเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ไม่ได้ตรัสว่า “จะมีน้ำดำรงชีวิตไหลออกมาบนคนนั้น” แต่พระองค์ตรัสว่า แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิตจะไหลออกมาจากภายในคน

อย่าขอหรืออธิษฐานให้มีการเจิมมากขึ้นมาเหนือคุณ สิ่งที่คุณต้องการคือการไหลของพระวิญญาณ นั่นคือการทำให้สิ่งที่อยู่ภายในคุณนั้นไหลออกมา! คุณสามารถปลุกเร้าฤทธิ์เดชให้ไหลผ่านคุณมากขึ้นด้วยการพูดภาษาแปลกๆ และการภาวนาพระคำ

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

    ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระวิญญาณของพระองค์ที่ทรงสถิตอยู่ภายในใจของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เต็มล้นด้วยฤทธิ์เดชที่เหนือธรรมชาติ พระคุณ และพระสิริ ซึ่งไหลออกมาจากภายในข้าพระองค์สู่โลกของข้าพระองค์ ความชอบธรรม สันติสุข ความยินดี และความยอดเยี่ยมไหลออกมาจากข้าพระองค์ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: ยอห์น 7:38; กาลาเทีย 5:22-23


Comments are closed