คริสเตียนบางคนสมมุติไปเองและเชื่อว่าคำอธิษฐานทำให้เกิดฤทธิ์เดช ดังนั้นพวกเขาจึงกล่าวว่า “คริสเตียนที่ไม่อธิษฐานคือคริสเตียนที่ไม่มีฤทธิ์เดช” แต่นั่นไม่ได้พูดถึงที่ไหนเลยในพระคำ

ข้อพระคำตอนต้นกล่าวว่า “แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” (กิจการ 1:8) พระเยซูไม่ได้ตรัสว่าคุณจะได้รับฤทธิ์เดชหลังจากที่คุณอธิษฐาน ข้าพเจ้าเชื่อในการอธิษฐาน แต่การอธิษฐานไม่ได้นำมาซึ่งฤทธิ์เดช ฤทธิ์เดชมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ฤทธิ์เดชคือความสามารถที่มีพลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่าเราสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราและคนที่เรารักได้ แม้ในสถานที่ซึ่งเราต้องการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เราไม่ควรตกเป็นเหยื่อในโลกนี้ แต่คริสเตียนกลายคนตกเป็นเหยื่อ พวกเขาถูกคุมขังด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่พระเยซูตรัสว่าคุณจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาบนคุณ พระเยซูไม่เคยเป็นเหยื่อ แต่ลูกของพระเจ้าหลายคนเคยตกเป็นเหยื่อ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งมาก่อน

1 ยอห์น 3:2 กล่าวว่า “ท่านที่รักทั้งหลาย เดี๋ยวนี้เราเป็นลูกของพระเจ้า และเราจะเป็นอย่างไรต่อไปข้างหน้านั้นเรายังไม่รู้ แต่เรารู้ว่าในเวลาที่พระองค์จะเสด็จมาปรากฏนั้น เราจะเป็นเหมือนอย่างพระองค์ เพราะว่าเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอยู่นั้น” เมื่อคุณบังเกิดใหม่แล้ว คุณได้บังเกิดในฐานะลูกของพระเจ้า ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณมีฤทธิ์เดช ไม่จำเป็นต้องขอฤทธิ์เดชจากพระเจ้า เพราะว่าฤทธิ์เดชนั้นได้อยู่ภายในคุณแล้ว ทั้งหมดที่คุณต้องทำเพื่อให้ฤทธิ์เดชของพระเจ้าภายในคุณสำแดงออกมาคือโดยการปลุกเร้าขึ้นมา (2 ทิโมธี 1:6) สรรเสริญพระเจ้า!

คำอธิษฐาน