อาทิตย์ ที่ 12 กรกฎาคม 2015

ฤทธิ์เดชของพระเจ้าและพระสิริของพระเจ้า
The Power Of God And The Glory God

“คราวนั้นวันหนึ่งเมื่อพระองค์ทรงสั่งสอนอยู่ มีพวกฟาริสีและพวกบาเรียนนั่งอยู่ด้วย เป็นผู้มาจากทุกหมู่บ้านในแคว้นกาลิลี แคว้นยูเดียและจากกรุงเยรูซาเล็ม ฤทธิ์เดชของพระเป็นเจ้าก็อยู่ในพระองค์ เพื่อจะรักษาเขาให้หายโรค” (ลูกา 5:17)

    บ่อยครั้งที่คำว่าฤทธิ์เดชของพระเจ้าถูกใช้แทนคำว่าการสถิตอยู่ของพระเจ้า และคำว่าพระสิริของพระเจ้า แต่ไม่ได้มีความหมายเหมือนกันเสียทีเดียว ยกตัวอย่างเมื่อโมเสสได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้พูดกับก้อนหิน สิ่งที่พระเจ้าต้องการคือการที่พระสิริของพระองค์จะถูกสำแดงออก แต่โมเสสกลับตีที่ก้อนหินนั้น ฤทธิ์เดชของพระเจ้าถูกสำแดงออก แต่พระสิริของพระเจ้าไม่ได้สำแดงออก และพระเจ้าได้ต่อว่าโมเสส พระองค์ตรัสว่า “เพราะเจ้ามิได้เชื่อเราจึงมิได้ถวายความศักดิ์สิทธิ์แก่เราต่อหน้าคนอิสราเอล” (กันดารวิถี 20:11-12)

ถึงแม้ว่าฤทธิ์เดชของพระเจ้าถูกสำแดงออก และน้ำไหลออกมาจากก้อนหินเมื่อโมเสสตีที่ก้อนหินนั้น พระสิริของพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่นั่น เพราะว่าโมเสสได้กระทำในการไม่เชื่อฟัง พระเจ้าทรงต้องการให้เราสำแดงฤทธิ์เดชและพระสิริของพระองค์เสมอ พระสิรินั้นยิ่งใหญ่กว่าฤทธิ์เดชเพราะว่านอกจากฤทธิ์เดชแล้ว พระสิริยังรวมถึงพระคุณและความชอบธรรมของพระเจ้าอีกด้วย แท้จริงแล้วพระสิริของพระเจ้าคือสิ่งที่รวมไว้ซึ่งความงดงามและความชอบธรรมทั้งหมดของพระองค์ ความชอบธรรมของพระเจ้าคือพระสิริของพระเจ้า พระองค์ทรงสำแดงความชอบธรรมในพระสิริของพระองค์

ดังนั้นสำหรับผู้ที่ยังสงสัยว่า “เป็นไปได้หรือไม่ที่ฤทธิ์เดชของพระเจ้าจะถูกสำแดง แต่การสถิตอยู่ของพระเจ้าหรือพระสิริของพระเจ้าไม่ถูกสำแดง?” คำตอบคือได้ เพราะว่าฤทธิ์เดชของพระองค์ได้ทรงประทานเพื่อให้เราใช้ ใน 1 โครินธ์ 9:18 อาจารย์เปาโลพูดเกี่ยวกับการที่ไม่ต้องการใช้ฤทธิ์เดชของในข่าวประเสริฐของเขาอย่างผิดๆ เขาได้กล่าวถึงสิทธิอำนาจของเขาในข่าวประเสริฐ เขากำลังพูดถึงสิทธิอำนาจในข่าวประเสริฐของเขา ซึ่งถูกหนุนโดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า “แล้วอะไรเล่าจะเป็นบำเหน็จของข้าพเจ้า คือเมื่อข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐ ข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์โดยไม่คิดค่าจ้าง เพื่อจะไม่ได้ใช้สิทธิ์ในข่าวประเสริฐนั้นอย่างเต็มที่” ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่บางคนจะใช้ฤทธิ์เดชของพระเจ้าอย่างผิดๆ แต่คุณไม่มีทางใช้พระสิริของพระเจ้าผิดๆ ได้ นั่นคือสิ่งที่แตกต่าง และพระเจ้าทรงต้องการให้เราเดินในพระสิริของพระองค์เสมอ

เป็นเหมือนกับการเดินในพระคุณของพระเจ้าแต่ไม่ได้เดินในความชอบธรรมของพระเจ้า คุณสามารถเดินและมีส่วนในพระคุณของพระองค์ในขณะที่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่ได้ แต่พระเจ้าจะไม่ทรงมีความสุขกับสิ่งนั้น พระองค์ทรงห้ามคนเช่นนั้น และคาดหวังให้พวกเขากลับใจใหม่ ในการเดินในฤทธิ์เดชของพระเจ้าและในพระสิริของพระองค์ คุณจะต้องเดินในพระคุณของพระองค์และในความชอบธรรมของพระองค์เช่นเดียวกัน ทั้งหมดนั้นไปด้วยกัน

คำอธิษฐาน
    สรรเสริญพระบิดา ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระสิริของพระองค์ในชีวิตของข้าพระองค์ และฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่กำลังทำงานภายในและผ่านทางข้าพระองค์! ข้าพระองค์มีประสบการณ์กับพระสิริของพระองค์ที่เพิ่มขนาดขึ้นในขณะที่ข้าพระองค์เดินในพระคุณและในความชอบธรรมของพระองค์ในวันนี้และตลอดไป ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: สดุดี 63:1-2; อิสยาห์ 60:1


Comments are closed