พุธ ที่ 4 พฤษภาคม 2016

พันธกิจของคุณในชีวิต
Your Mission In Life

“ฝ่ายพระองค์จึงตรัสสั่งพวกสาวกว่า “เจ้าทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมาแล้วผู้นั้นจะรอด แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ ” (มาระโก 16:15-16)

    ในฐานะคริสเตียน เรามีพันธกิจบนโลกนี้ และความชัดเจนของพันธกิจของเรานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก หลายคนดำเนินชีวิตโดยไม่มีวัตถุประสงค์ ความชัดเจน หรือทิศทาง แต่เมื่อคุณได้มอบหัวใจของคุณแด่พระเยซูคริสต์ พระเยซูไม่เคยกำกวมเกี่ยวกับพันธกิจของเรา พันธกิจนั้นคือการที่เราจะออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน ดังนั้นจงให้ชีวิตของคุณอยู่เพื่อข่าวประเสริฐ

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไร หรือทำสิ่งนั้นที่ไหน งานและวัตถุประสงค์หลักสำหรับการดำเนินชีวิตของคุณคือการประกาศพระคำของพระเจ้าให้แก่คนเหล่านั้นที่อยู่ในโลกของคุณ พันธกิจของคุณคือการออกไปหาผู้หลงหายและนำวิญญาณเหล่านั้นเพื่อพระเยซู การเป็นคริสเตียนนั้นคือการนำวิญญาณ ดังนั้นจงพูดกับคนอื่นถึงพระเยซูอยู่เสมอ และให้การดำเนินชีวิตของคุณเป็นแรงบันดาลใจมากพอที่จะทำให้คนบาปที่อยู่รอบตัวคุณปรารถนาที่จะรู้จักพระเยซู

ให้ทุกสิ่งเกี่ยวกับชีวิตของคุณเป็นเหตุให้ชายและหญิงมากมายได้มาถึงความชอบธรรม จดจ่อและมีเป้าหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับพันธกิจของคุณ ซึ่งก็คือการนำวิญญาณ พระเยซูตรัสไว้ในยอห์น 4:34 “…อาหารของเราคือการกระทำตามพระทัยของพระองค์ ผู้ทรงใช้เรามา และทำให้งานของพระองค์สำเร็จ” และในยอห์น 20:21 พระองค์ตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงใช้เรามาฉันใด เราก็ใช้ท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” คุณถูกส่งให้ออกไปหาทุกคนด้วยข่าวประเสริฐแห่งชีวิต ให้ชีวิตทั้งหมดของคุณเป็นชีวิตที่อยู่เพื่อแสวงหาวัตถุประสงค์นี้! จงมีความร้อนรนในการขยายแผ่นดินของพระเจ้า และการประกาศข่าวประเสริฐแห่งความรอดของพระคริสต์ไปจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก

คำอธิษฐาน
    ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่มีพันธกิจ ได้รับหน้าที่จากพระเจ้าให้ไปหาคนที่อยู่ในโลกนี้ด้วยแสงสว่างแห่งข่าวประเสริฐ ความร้อนรนของข้าพเจ้าและการอุทิศตนเพื่อการขยายแผ่นดินของพระเจ้าถูกกระตุ้นในวันนี้ แสงสว่างแห่งข่าวประเสริฐของพระคริสต์ส่องสว่างในใจของมนุษย์ในวันนี้ นำเอาความมืด ความเจ็บปวด และความเศร้าโศกออกไป และนำความชอบธรรม แสงสว่าง และพระสิริไปให้พวกเขา ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 2 โครินธ์ 5:18; 2 โครินธ์ 3:6; มัทธิว 28:19-20


Comments are closed