จันทร์ ที่ 7 มีนาคม 2016

พระองค์ทรงเมตตา
He’s Merciful

“องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้ เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายมาช้านาน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่” (2 เปโตร 3:9)

    พระเจ้าทรงเมตตา มีความสงสาร และอ่อนโยน พระเมตตาของพระองค์ใหม่ทุกเช้า และคงอยู่ตลอดไป พระคำบอกกับเราถึงการที่พระองค์ได้ส่งโยนาห์ไปที่เมืองนีนะเวห์เพื่อเตือนประชาชนให้หันจากความบาปของพวกเขา แต่โยนาห์ปฏิเสธที่จะทำตาม เพราะว่าเขาคิดว่าพระเจ้าทรงเมตตาเกินไปในการยกโทษและเปลี่ยนความคิดในการทำลายพวกเขา ดังนั้นแทนที่จะไปประกาศกับพวกเขา เขาตัดสินใจที่จะหนีไปยังเมืองทารชิช (โยนาห์ 1:3)

ปัญหาได้ตามเขาไปในขณะที่โยนาห์อยู่ในเรือพร้อมด้วยลูกเรือคนอื่นๆ มีคลื่นลมพายุใหญ่ เมื่อเพื่อนร่วมเดินทางของเขาตระหนักว่าการที่โยนาห์ไม่เชื่อฟังพระเจ้าคือต้นเหตุของพายุ เขาจึงได้โยนโยนาห์ลงไปในทะเล พระคำกล่าวว่าพระเจ้าได้เตรียมปลาตัวใหญ่ไว้เพื่อกลืนโยนาห์ในทะเล และเขาต้องอยู่ในท้องของปลาสามวันสามคืน (โยนาห์ 1:17)

ในที่สุดโยนาห์ได้อธิษฐานต่อพระเจ้าจากท้องปลานั้น และปลาก็ได้สำรอกเขาออกมา หลังจากที่ได้รับการปลดปล่อยจากท้องปลา เขาได้ทำตามคำสั่งตั้งแต่แรกของพระเจ้าและไปประกาศในเมืองนีนะเวห์ เมื่อเขาทำเช่นนั้น ประชาชนก็กลับใจใหม่ แต่โยนาห์โกรธ เขากล่าวว่า “…ข้าแต่พระเจ้า เมื่อข้าพระองค์ยังอยู่ในประเทศของข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดแล้วว่าจะเป็นไปเช่นนี้มิใช่หรือ นี่แหละเป็นเหตุให้ข้าพระองค์ได้รีบหนีไปยังเมืองทารชิช เพราะข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระคุณ และทรงพระกรุณา ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และทรงกลับพระทัยไม่ลงโทษ” (โยนาห์ 4:2)

แต่พระเจ้าได้ดุโยนาห์ว่า “…ไม่สมควรหรือที่เราจะหวงเมืองนีนะเวห์นครใหญ่นั้น ซึ่งมีพลเมืองมากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นคน ผู้ไม่ทราบว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย…” (โยนาห์ 4:11) พระองค์รู้สึกว่าพวกเขาไม่รู้ ดังนั้นพระองค์จึงทรงต้องเมตตาพวกเขา เป็นเหตุการณ์เดียวกันในวันนี้ มีคนมากมายที่ไม่รู้ทั่วโลกนี้ และพระเจ้าทรงคาดหวังให้เราออกไปหาพวกเขาพร้อมด้วยข่าวประเสริฐ ลืมความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นคนชั่วร้าย พระเจ้าทรงรักพวกเขา และต้องการแสดงความเมตตาแก่พวกเขา

หลายคนอยู่ในหุบเขาของการตัดสินใจ ไปผิดทาง เดินในความมืด ไม่รู้ถึงความจริง แต่เราเป็นผู้อารักขาความจริง ดังนั้นเราต้องอธิษฐานต่อไปอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้พวกเขามาถึงความรู้แห่งความจริง เช่นเดียวกันกับการประกาศความจริง

คำอธิษฐาน
    ภาระใจของข้าพระองค์สำหรับวิญญาณที่หลงหายได้รับการปลุกเร้าด้วยความตั้งใจใหม่ และข้าพเจ้าประกาศว่าแสงสว่างแห่งข่าวประเสริฐอันยิ่งใหญ่ของพระคริสต์ได้ส่องออกไปที่หัวใจของคนที่หลงหายที่อยู่ทั่วโลกในวันนี้ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 2 โครินธ์ 5:18; 2 โครินธ์ 3:6


Comments are closed