พุธ ที่ 22 เมษายน 2015

พระวิญญาณ น้ำ และพระโลหิต
The Spirit, The Water, And The Blood

“เพราะมีพยานอยู่สามพยานในสวรรค์ คือพระบิดา พระวาทะ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพยานทั้งสามนี้เป็นองค์เดียวกัน มีพยานอยู่สามพยานในแผ่นดินโลก คือพระวิญญาณ น้ำ และพระโลหิต และพยานทั้งสามนี้สอดคล้องกัน”
(1 ยอห์น 5:7-8)

    พระบิดา พระวาทะ และพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพยานถึงพระเยซูในสวรรค์ ในขณะที่อยู่ในโลก พระวิญญาณ น้ำ และพระโลหิตเป็นพยาน พระคัมภีร์ได้บันทึกว่าตลอดการรับใช้บนโลกนี้ของพระองค์ พระเยซูเต็มล้นและได้รับการทรงนำโดยพระวิญญาณเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ในการศึกษาของวันนี้ เราจะดูในเรื่องของน้ำและพระโลหิต

พระธรรมยอห์นบันทึกว่าพระเยซูถูกตรึง และทหารพยายามที่จะยืนยันว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว โดยการเอาหอกแทงที่สีข้างของพระองค์ เลือดและน้ำไหลออกมา และยอห์นได้บันทึกถึงสิ่งนี้ว่าเป็นสัญญาณ (ยอห์น 19:35) คือยอห์นคนเดียวกับที่กล่าวไว้ในหนังสือพระกิตติคุณของเขาว่าพระเยซู “…ได้เสด็จออกไปกับเหล่าสาวกของพระองค์ข้ามลำธารขิดโรนไปยังสวนแห่งหนึ่ง พระองค์เสด็จเข้าไปในสวนนั้นกับเหล่าสาวก” (ยอห์น 18:1) ขิดโรนคือลำธารที่อยู่ใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม อยู่ระหว่างวิหารบนภูเขา และภูเขาโอลิเวต เป็นที่ใช้สำหรับท่อน้ำทิ้ง และในทุกเช้าและทุกเย็น เลือดและน้ำจากการถวายบูชาในพระวิหารก็จะไหลลงมาที่นี่ ยอห์นรู้ดีว่าเลือดและน้ำไหลออกมาจากวิหารนี้

โดยปกติแล้วเมื่อทหารแทงที่สีข้างของพระเยซู พระองค์ไม่ควรที่จะหลั่งเลือดอย่างที่พระองค์เป็นเพราะว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว จึงไม่แรงดันของเลือด แต่ยอห์นเป็นพยานว่าเลือดและน้ำทะลักออกมา นี่คือการอัศจรรย์! เขาจำได้ถึงการที่พระเยซูเผชิญหน้ากับพวกยิวในพระวิหารเมื่อพระองค์ตรัสว่า “…ทำลายวิหารนี้เสีย แล้วเราจะยกขึ้นในสามวัน” (ยอห์น 2:19) ซึ่งหมายถึงพระกายของพระองค์

วิหารเก่าได้สิ้นสุดไปแล้ว และวิหารใหม่อยู่ที่นี่ พระเยซูเป็นทางใหม่และชีวิตใหม่! ไม่จำเป็นต้องมีเลือดที่ไหลลงไปที่ลำธารขิดโรนอีกต่อไป เพราะว่าพระองค์คือวิหารของเรา และเป็นแกะที่ถูกฆ่าเพียงครั้งเดียวเพื่อทุกคน และเพื่อความบาปของโลกนี้!

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราอย่างยิ่งใหญ่ โดยประทานของประทานแห่งความรอดแก่เรา พระเมษโปดกของพระเจ้าถูกถวายบูชาแทนที่เราครั้งเดียวและตลอดไป เพื่อที่เราจะสามารถมีชีวิตอยู่เพื่อสรรเสริญและถวายเกียรติแด่พระนามของพระองค์ตลอดไป ฮาเลลูยา!

ศึกษาเพิ่มเติม: ยอห์น 2:19-21; เอเฟซัส 2:13-16


Comments are closed