กิจการ 19:11-12 บอกเราว่า “…พระเจ้าทรงทำอิทธิฤทธิ์ใหญ่หลวงด้วยมือของเปาโล จนเขานำผ้าเช็ดหน้ากับผ้ากันเปื้อนที่ถูกต้องตัวเปาโลไปวางบนตัวของบรรดาคนเจ็บป่วย แล้วโรคก็หายและผีร้ายก็ออกจากเขา” ถึงแม้ว่าผ้าเช็ดหน้าเป็นสิ่งที่ส่งผ่านการเจิม มันก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง จะต้องมีคนเอามันไปยังที่ซึ่งมีคนเจ็บป่วยและวางลงบนพวกเขา เมื่อแตะต้องคนเจ็บป่วย การอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น “โรคก็หายและผีร้ายก็ออกจากเขา”

ถ้าผ้าเช็ดหน้าหรือผ้ากันเปื้อน ซึ่งไม่มีสติปัญญาอะไร ยังสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะว่าการเจิมชั่วคราวได้ไปอยู่บนผ้านั้น ร่างกายของมนุษย์ซึ่งได้รับการออกแบบให้สามารถรับการเจิมได้ จะทำได้มากกว่านั้นสักเท่าใด ด้วยสติปัญญาที่มีและความสามารถในการเคลื่อนที่ไปยังที่ต่างๆ ร่างกายของมนุษย์ที่ได้รับการเจิมก็จะกลายเป็นเครื่องมือของพระเจ้าที่มีพลังทำลายล้างภาระหนัก ทำลายแอกที่หนัก และทำให้ความเจ็บป่วย โรคร้าย และความผิดปกติสูญสิ้นไป สรรเสริญพระเจ้า!

วันหนึ่ง ขณะที่เปโตรเดินตามถนนในกรุงเยรูซาเล็ม ผู้คนได้นำคนเจ็บป่วยมายังถนนนั้นและวางไว้ที่ข้างถนนเพื่อที่เงาของเปโตรจะผ่านไปบนตัวของพวกเขา เพราะเขารู้ว่าเปโตรเต็มไปด้วยฤทธิ์เดช ดังนั้นพวกเขาจึงวางคนเจ็บป่วยไว้ตามทางที่เปโตรเดินไป และทุกคนที่เงาของเขาสัมผัสเขาก็หายโรค (กิจการ 5:14-16)

ฤทธิ์เดชและการไหลของการเจิมในร่างกายไม่สามารถปกปิดไว้ได้ ในที่สุด ผู้คนก็จะสามารถมองเห็นได้ เพราะว่าฤทธิ์เดชนั้นจะตอบสนองทุกครั้งที่มีความต้องการ เปโตรไม่ต้องเชิญให้คนมายังเงาของเขา ผู้คนตระหนักถึงการสถิตอยู่ของการเจิมในเงานั้นเมื่อพวกเขาได้เห็นผลลัพธ์ที่เหนือธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้น

สรรเสริญพระเจ้า! เราเต็มไปด้วยการเจิม เพราะว่าเรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์! โดยผ่านทางเรา พระเจ้าได้สื่อสารและส่งต่อฤทธิ์เดชของพระองค์อย่างที่พระองค์ต้องการ เมื่อเรายื่นมือของเราออกวางมือบนใครก็ตาม จะมีการถ่ายทอดการเจิมเกิดขึ้น เมื่อเราพูดพระคำ จะมีการไหลผ่านของการเจิม เราเป็นผู้แจกจ่ายการเจิม เพราะว่าเราเป็นภาชนะของพระเจ้า “แต่เรามีของล้ำค่านี้อยู่ในภาชนะดิน เพื่อให้เห็นว่า ฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง” (2 โครินธ์ 4:7)

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ