เสาร์ ที่ 9 มิถุนายน 2018
ปัญญาทำให้คุณโดดเด่น
Wisdom Stands You Out

จุดเริ่มต้นของปัญญาเป็นอย่างนี้คือ จงเอาปัญญา ไม่ว่าเจ้าจะได้อะไรก็ตาม จงเอาความรอบรู้ไว้จงตีราคาปัญญาให้สูง แล้วเธอจะยกย่องเจ้า เธอจะให้เกียรติเจ้า เมื่อเจ้ากอดเธอไว้ (สุภาษิต 4:7-8)

     มีการเปิดเผยปัญญาจากพระเจ้าแก่เราเพื่อให้เราใช้ดำเนินชีวิต พระเยซูดำเนินในสติปัญญาและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ พระองค์ทำให้ผู้คนในสมัยนั้นต่างสับสนและงงงวย พระองค์มีกรอบความคิดที่แตกต่าง คำตรัสและคำสอนของพระองค์นั้นแตกต่าง โดยส่วนใหญ่จะตรงกันข้ามกับธรรมบัญญัติและความคิดเห็นโดยทั่วไปของมนุษย์

ตัวอย่างเช่น ตามธรรมบัญญัติกล่าวว่า ชีวิตที่กระทำบาปจะต้องตาย (เอเสเคียล 18:20) แต่พระเยซูทรงสำแดงความรัก พระเมตตาและพระคุณของพระเจ้า “เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงประทานธรรมบัญญัตินั้นทางโมเสส (แต่)ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์” (ยอห์น 1:17) โมเสสสอนว่า “ตาแทนตา” ชีวิตแทนชีวิต แต่พระเยซูมาเพื่อเปิดเผยชีวิตและธรรมชาติของพระเจ้าแก่เรา แนวความคิดของพระเจ้า แนวทางที่ชนะ ก็คือแนวทางแห่งความรัก

มนุษย์ถือกำเนิดในธรรมชาติของโลกที่เต็มไปด้วยความอาฆาต การดูถูกและการทำร้ายกัน แต่พระเยซูสอนว่าพวกเราควรจะรักศัตรูของเรา อธิษฐานเผื่อและอวยพรคนที่ว่ากล่าวและคนที่ข่มเหงเรา “…จงรักศัตรูของท่าน และจงอธิษฐานเพื่อบรรดาคนที่ข่มเหงพวกท่าน” (มัทธิว 5:44)

นั่นเป็นเรื่องที่แตกต่างจากธรรมชาติของมนุษย์ การรักศัตรูไม่ใช่ธรรมชาติที่อยากจะทำ แต่พระเยซูมาด้วยหลักการแห่งอาณาจักรของพระองค์ เป็นหนทางการดำเนินชีวิตแบบใหม่ พระองค์ตรัสเกี่ยวกับความรักและสำแดงความรัก คนเหล่านั้นที่ได้ยินพระองค์ พวกเขาได้ยินเสียงแห่งความรัก คนที่เผชิญหน้ากับพระองค์รู้สึกถึงการโอบกอดแห่งความรัก แม้แต่เจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งไปจับพระองค์ เมื่อได้ยินคำสอนของพระองค์ก็ยอมรับและกล่าวว่า “…ไม่เคยมีใครพูดเหมือนอย่างคนนั้นเลย!” (ยอห์น 7:44-46)

พระเยซูดำเนินด้วยปัญญาของผู้ชอบธรรม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของคุณ เป็นสิ่งที่ทำให้คุณโดดเด่น และทำให้คุณเป็นที่อัศจรรย์ใจในโลกของคุณ

คำอธิษฐาน

     ข้าแต่พระบิดา พระองค์ประทานปัญญาและความเข้าใจแก่ข้าพระองค์ เพื่อที่จะรู้จักและเดินในน้ำพระทัยอันสมบูรณ์ของพระองค์ ชีวิตของข้าพระองค์สำแดงปัญญาจากสวรรค์ ปัญญาออกมาจากคำพูดของข้าพระองค์ มองเห็นได้จากการกระทำของข้าพระองค์ในวันนี้ ในพระนามพระเยซู อาเมน
ศึกษาเพิ่มเติม : มัทธิว 5:38-48; ฟีลิปปี 4:6-7


Comments are closed