ทำไมคุณจึงต้องอธิษฐาน
Why You Must Pray
“แต่เมื่อท่านอธิษฐาน อย่าใช้คำซ้ำซากไร้ประโยชน์เหมือนคนต่างชาติ เพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะทรงโปรดฟัง เหตุฉะนั้นท่านอย่าเป็นเหมือนเขาเลย เพราะว่าสิ่งไรซึ่งท่านต้องการ พระบิดาของท่านทรงทราบก่อนที่ท่านทูลขอแล้ว” (มัทธิว 6:7-8)
คุณอาจต้องการถามว่า “ในเมื่อพระเจ้ารู้แล้วว่าเราคิดอะไร และต้องการอะไร ทำไมเราจึงต้องอธิษฐานด้วย?” อันดับแรก การอธิษฐานไม่ใช่เป็นการขอจากพระเจ้าในสิ่งที่คุณต้องการเท่านั้น แต่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ การอธิษฐานคือความรักใคร่ของความชอบธรรม คือเวลาแห่งการสามัคคีธรรมในความเป็นหนึ่งของพระเจ้า
อย่างที่สอง มีความแตกต่างอย่างมากในชีวิตของโลกในธรรมชาติ และในโลกฝ่ายวิญญาณที่ซึ่งพระเจ้าอยู่ เหมือนดังที่กฏทางร่างกายและหลักการซึ่งปกครองชีวิตในโลกนี้ กฏฝ่ายวิญญาณก็ปกครองโลกฝ่ายวิญญาณด้วยเช่นเดียวกัน เอเสเคียล 36:26-36 ได้บอกให้เราเข้าใจในข้อนี้ได้ดียิ่งขึ้น พระเจ้าได้ให้พระสัญญามากมายกับชนชาติอิสราเอลในสิ่งอัศจรรย์มากมายที่พระองค์จะทำเพื่อพวกเขา อย่างไรก็ตามในข้อที่สามสิบเจ็ด พระองค์ตรัสว่า “…เราจะให้วงศ์วานอิสราเอลขอให้เรากระทำสิ่งนี้ให้ด้วย คือให้เพิ่มคนอย่างเพิ่มฝูงแพะแกะ” พระเจ้ากำลังบอกอะไรกับเราที่นี่?
พระองค์กำลังบอกเราให้รู้ว่าเราจะต้องทำงานร่วมกัน แม้ว่าพระองค์ต้องการจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณ จะต้องมีการเชื่อมต่อของความเชื่อ คุณจะต้องให้ความยินยอมกับพระองค์ในการทำสิ่งที่พระองค์ต้องการทำในชีวิตของคุณ เรารับใช้พระเจ้าที่เมตตา เปี่ยมด้วยความรัก ยิ่งใหญ่ และเต็มด้วยพระคุณ ผู้ซึ่งประทานสิ่งดีแก่เราอย่างมากมายทุกวัน (สดุดี 68:19)
ยิ่งกว่านั้น มัทธิว 18:18 กล่าวว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า สิ่งใดซึ่งท่านจะผูกมัดในโลก ก็จะถูกผูกมัดในสวรรค์ และสิ่งซึ่งท่านจะปล่อยในโลกก็จะถูกปล่อยในสวรรค์” นั่นหมายความว่า “สวรรค์” จะประทานสิทธิอำนาจและอนุญาตในสิ่งที่คุณประกาศบนโลกนี้ ถ้าคุณกล่าวว่า “ไม่!” ต่อความเจ็บป่วย และผูกมัดการทำงานของมารร้ายในครอบครัวของคุณ หรือในการงานของคุณ หรือในร่างกายของคุณเอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสนับสนุนสิ่งนั้น คุณจะต้องยืนหยัดบนความเชื่อในการอธิษฐานสำหรับสิ่งต่างๆ ที่จะเปลี่ยนแปลง นี่คือความรับผิดชอบของคุณ
ถ้อยคำแห่งความเชื่อ
ข้าพเจ้าฉวยโอกาสของฤทธิ์เดชในพระนามของพระเยซูต่อสู้กับความเจ็บป่วย ความขาดแคลน ความล้มเหลว และความพ่ายแพ้ และข้าพเจ้าประกาศว่าข้าพเจ้าเดินในความจริงแห่งมรดกแห่งอาณาจักรของข้าพเจ้า ได้รับความสุขในสง่าราศีของพระคริสต์ และได้รับการเสริมกำลังโดยพลังที่เหนือธรรมชาติของพระองค์ในมนุษย์ภายในข้าพเจ้า สรรเสริญพระเจ้า!
ศึกษาเพิ่มเติม: มัทธิว 7:7; ลูกา 18:1; เอเฟซัส 6:18
Comments are closed