วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2020

จงยอมรับคำเตือนและการแก้ไข
Accept Rebuke And Correction

พระ​คัมภีร์ ทุก​ตอน​ได้รับ​การ​ดล​ใจ​จาก​พระ​เจ้า และเป็น​ประโยชน์​ใน​การ​สอน การ​ตักเตือน​ว่า​กล่าว การ​ปรับปรุง​แก้ไข​คน​ให้​ดี และ​การ​อบรม​ใน​ทาง​ธรรม​ (2 ทิโมธี 3:16)

บางคนเติบโตขึ้นในบ้านที่ไม่มีใครสามารถตำหนิพวกเขาสำหรับการทำผิดได้ ไม่แม้แต่พ่อแม่ของพวกเขา สิ่งนี้อธิบายว่าทำไมถึงแม้หลังจากที่มอบหัวใจของพวกเขาให้กับพระคริสต์แล้ว พวกเขาจึงพบว่ายากที่จะยอมรับเมื่อพวกเขาได้รับการแก้ไขในบ้านของพระเจ้า แต่นั่นไม่ถูกต้องสำหรับคริสเตียน อ่านข้อพระคัมภีร์หลักของเราอีกครั้ง ซึ่งบอกว่าพระคำของพระเจ้ามีไว้เพื่อการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม

คุณต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับการแก้ไขในบ้านของพระเจ้า เพราะว่านั่นเป็นหนึ่งในวิธีที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยคุณพัฒนาลักษณะนิสัยแบบพระเจ้าผ่านทางพระคำ ดังนั้นจงถ่อมใจและสนใจผู้นำของคุณเมื่อพวกเขาสอนพระคำแก่คุณ มีบางสิ่งที่ผู้คนเรียนรู้ในชีวิตตามธรรมชาติก่อนที่จะมาถึงพระคริสต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของพระคริสต์ สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ถูกความรอดเอาออกไปทันที นั่นคือเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงความคิดผ่านทางการใคร่ครวญพระคำของพระเจ้า ยกตัวอย่างเช่น เอเฟซัส 4:31 กล่าวว่า “จง​ให้​ใจ​ขม​ขื่น และ​ใจ​ขัด​เคือง และ​ใจ​โกรธ และ​การ​ทะเลาะ​เถียง​กัน และ​การ​พูด​ให้​ร้าย กับ​การ​คิด​ปอง​ร้าย​ทุก​อย่าง​อยู่​ห่างไกล​จาก​ท่าน​เถิด​” สิ่งนี้ถูกเขียนขึ้นสำหรับคนที่เป็นคริสเตียนแล้ว

เป็นสิ่งที่สำคัญที่คุณจะต้องยอมจำนนต่อพระคำเพื่อหล่อหลอมลักษณะนิสัยของคุณและให้ความคิดใหม่แก่คุณ จงปฏิเสธที่จะยอมรับและยอมให้ประสาทสัมผัสของคุณครอบงำหรือควบคุมคุณ อย่าลำพองด้วยความเย่อหยิ่ง เมื่อบางคนกำลังพูดกับคุณด้วยการพยายามแก้ไขคุณด้วยพระคำของพระเจ้า การยอมรับคำตำหนิและการแก้ไขคือความถ่อมใจ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของคุณ เพราะว่าคนที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงนั้นถ่อมใจมาก

คำอธิษฐาน

พระบิดาผู้ทรงล้ำค่า ขอบพระคุณสำหรับพระคำของพระองค์ที่เป็นประโยชน์สำหรับข้าพระองค์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม ข้าพระองค์ยอมจำนนต่อความเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระคำของพระองค์ตลอดไปเพื่อหล่อหลอมข้าพระองค์ด้วยความเป็นเลิศและความถ่อมใจ ในพระนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:สดุดี 119:9; โรม 15:4