พุธ ที่ 7 กันยายน 2016

ความสามารถของวิญญาณมนุษย์

Abilities Of The Human Spirit

“ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด” (1 โครินธ์ 13:13)

    พระคำแสดงให้เราเห็นว่ามีสิ่งที่สำคัญสามประการที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่มนุษย์ แมวและสุนัขไม่มีสิ่งนี้ ไม่แม้แต่มารหรือทูตสวรรค์ มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่มีสามสิ่งนี้ ซึ่งได้แสดงให้เราเห็นอย่างชัดเจนในข้อพระคำตอนต้น

ความเชื่อคือความสามารถที่จะรู้ในสิ่งที่มองไม่เห็นและปฏิบัติโดยไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่มองเห็นหรือสัมผัสได้ ความหวังคือความสามารถที่จะคาดหวังและมองไปยังอนาคต ความรักคือความสามารถที่จะให้และรับคุณค่า ความไว้วางใจ และการสามัคคีธรรม ถ้าคุณสังเกตถึงความหมายเหล่านี้อย่างใกล้ชิดแล้ว คุณจะสังเกตถึงคำว่า “ความสามารถ” ในความเป็นจริง ทั้งสามสิ่งนี้คือความสามารถ และเป็นความสามารถและคุณลักษณะที่สำคัญ

พระเจ้าได้ให้ความสามารถเหล่านี้ของวิญญาณมนุษย์ให้กับเราเพื่อเป็นอุปกรณ์ ถ้าสิ่งเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ เราก็ต้องใช้มัน ยกตัวอย่างเช่นความเชื่อ: พระเยซูทรงอยู่ในเรือกับสาวกของพระองค์ และกำลังหลับอยู่ที่ท้ายเรือ เมื่อลมพายุพัดมาและน้ำเริ่มไหลเข้ามาในเรือ สาวกตื่นตระหนกและปลุกพระเยซูขึ้นมาและพูดว่า “พระอาจารย์ ท่านไม่ห่วงหรือว่าเราอยู่ในอันตราย?” แต่พระองค์ตอบสนองโดยการถามพวกเขาว่า “ความเชื่อของพวกท่านอยู่ที่ไหน?” พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ “ท่านควรใช้ความเชื่อของท่าน”

ปัญหาไม่ใช่ลมพายุ และไม่ใช่น้ำที่ไหลเข้ามา และก็ไม่ใช่สถานการณ์รอบข้างด้วย สิ่งที่พระเยซูเรียกร้องคือความเชื่อของพวกเขา พระองค์กำลังตรัสกับพวกเขาว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกท่านในโลกนี้ ไม่ว่าสถานการณ์อะไรที่พวกท่านพบว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่ สิ่งที่ท่านต้องการคือความเชื่อของท่าน ใช้ความเชื่อนั้น!

หลักการเพียงอย่างเดียวที่จะหลงเหลืออยู่ในโลกที่กำลังจะมาถึงคือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก นั่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการที่เราจะเข้าใจในสิ่งเหล่านี้และใช้สิ่งเหล่านี้ เราได้รับความสามารถที่ไม่เปลี่ยนไปมา แต่มั่นคงเสมอ เป็นสิ่งที่เกิดผลเสมอเพื่อเรา

ถ้อยคำแห่งความเชื่อ

    ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับของประทานและความสามารถอันยอดเยี่ยมที่ทำงานภายในข้าพระองค์ ในฐานะผู้อารักขาที่ดีแห่งพระคุณของพระองค์ ข้าพระองค์เกิดผลดีในทุกสิ่งเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ ทำสิ่งที่เป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 1 โครินธ์ 12:4-7


Comments are closed