อังคารที่ 3 กันยายน 2013

ความสัมพันธ์และการสามัคคีธรรม
Relationship And Fellowship

“ซึ่งเราได้เห็นและได้ยินนั้นเราก็ได้ประกาศแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ร่วมสามัคคีธรรมกับเรา แท้จริงเราทั้งหลายก็ร่วมสามัคคีธรรมกับพระบิดา และกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์” (1 ยอห์น 1:3)

    เรื่องราวของพระเยซูกล่าวไว้ในลูกา 15:11-27 เกี่ยวกับชายที่มีบุตรสองคน ได้ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นถึงความแตกต่างระหว่างความสัมพันธ์และการสามัคคีธรรม ถึงแม้ว่าลูกชายคนเล็กจะออกจากบ้าน และต้องขัดสนได้ยาก เขาก็ยังเป็นลูกของพ่อ! ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกไม่ได้ถูกทำลายไป อย่างไรก็ตาม ไม่มีการสามัคคีธรรม เมื่อเขาสำนึกได้ จึงตัดสินใจกลับบ้าน พ่อของเขาได้ต้อนรับเขาด้วยความยินดี (อ่าน ลูกา 15:11-27)

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคริสเตียนบางคน พวกเขามีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเพราะว่าเขาได้มาหาพระบิดาในนามของพระเยซูคริสต์ ได้รับความรอด และได้กลายเป็นบุตรของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้สามัคคีธรรมกับพระองค์ พวกเขาไม่มีเวลาที่จะอธิษฐาน ศึกษา และภาวนาพระคำ พวกเขาไม่ได้ “เดินกับพระเจ้า” เหมือนกับการมีลูก คุณให้กำเนิดลูกเพียงครั้งเดียว และลูกคนนั้นได้กลายมาเป็นลูกชายหรือลูกสาวของคุณ ความสัมพันธ์ได้ถูกสร้างขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่การสามัคคีธรรมต้องใช้เวลาสร้างเป็นเวลานาน

มีพระพรที่อยู่ในความสัมพันธ์ และมีพระพรที่อยู่ในการสามัคคีธรรม ยกตัวอย่างเช่นในโรม 12:3 บอกเราว่าพระเจ้าได้ประทานขนาดของความเชื่อให้กับมนุษย์ทุกคน เราทุกคนได้รับการอวยพรด้วยเมล็ดแห่งความเชื่อเมื่อเราได้รับความรอด อย่างไรก็ดีในการที่จะทำให้ความเชื่อนั้นเติบโตขึ้น ในการที่คุณจะดำเนินในระดับความเชื่อที่สูงขึ้น จะต้องมีการสามัคคีธรรม ยิ่งคุณสามัคคีธรรมกับพระคำและกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ และใช้ความเชื่อของคุณมากเท่าใด ความเชื่อของคุณก็จะเติบโตขึ้นมากเท่านั้น และคุณก็จะมีประสบการณ์กับพระเจ้ามากขึ้นอีกด้วย

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่ได้นำข้าพระองค์ให้เป็นหนึ่งกับพระองค์ ข้าพระองค์ยินดีที่ไม่เพียงแต่ข้าพระองค์มีความสัมพันธ์กับพระองค์ เนื่องจากเกิดจากพระองค์ ข้าพระองค์ยังอยู่ในการสามัคคีธรรมกับพระองค์ และความเชื่อของข้าพระองค์เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 1 ยอห์น 1:7; 1 โครินธ์ 1:9


Comments are closed