อังคาร ที่ 27 มิถุนายน 2017
ความรักเป็นจริง
Love So Real

“ลองคิดดู พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราเพียงไรที่เราได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า และเราก็เป็นอย่างนั้น เหตุที่ชาวโลกไม่รู้จักเรา ก็เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์” (1 ยอห์น 3:1)

     คำอุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหายในลูกา 15:11-32 แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระบิดาที่มีให้แก่เรา ความรักเป็นจริง เต็มเปี่ยม และสุดยอด ในเรื่องราวนี้ หลังจากชีวิตที่เหลวแหลก บุตรน้อยหลงหายรู้สึกตัวและได้ตัดสินใจเดินทางกลับไปหาบิดาของเขา (ลูกา 15:17-18)

ทันทีที่บิดาของเขามองเห็นเขาแต่ไกล พ่อได้วิ่งไปหาลูกของเขาและสวมกอดเขาสิ่งแรกที่เขาบอกพ่อของเขาคือ “ยกโทษให้ลูกด้วย” และพ่อของเขาได้ยกโทษ! สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติความรักของพระบิดาในสวรรค์ของเราที่มีต่อเรา เมื่อคุณสารภาพ พระองค์ไวที่จะยกโทษให้แก่คุณ เพราะว่าพระองค์ทรงเต็มด้วยพระกรุณา ความรัก และพระเมตตา

เมื่อผู้เชื่อคนหนึ่งที่ได้หลงหายไปจากความจริงและหันกลับมาหาพระเจ้า พระองค์ต้อนรับเขาด้วยความยินดี และสถานปนาเขาไว้บนทางที่ถูกต้อง พระองค์ไม่เคยโกรธลูกของพระองค์ พระองค์ทรงรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไข พระองค์ประทานความรักของพระองค์แก่เรา นั่นคือสิ่งที่เราอ่านพบในข้อพระคำตอนต้น พระองค์ยอมรับเราเหมือนว่าเราเป็นลูกที่รักของพระองค์ เราเป็นลูกของพระเจ้าแล้วตอนนี้! พระบิดาทรงรักคุณมากเท่าที่พระองค์ทรงรักพระเยซู

คุณอยู่อย่างปลอดภัยในความรักของพระบิดา ใช้โอกาสแห่งความรักนิรันดรณ์ของพระองค์สำหรับคุณ พระองค์ทรงรักคุณถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนเพียงคนเดียวในโลกนี้! พระคำกล่าวว่า “ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา” (1 ยอห์น 4:10) พระเจ้าทรงแสดงความรักที่ไม่มีขีดจำกัดสำหรับเรา ในขณะที่เรายังเป็นคนบาป จงมีความเชื่อในความรักนั้น เพราะว่าเป็นความรักที่ไม่มีขีดจำกัด ไม่มีรอยด่างพร้อย และจริงใจ

คำอธิษฐาน

     ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักและพระเมตตาของพระองค์ และความงามของพระองค์ในชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์สำหรับที่ทรงอวยพรข้าพระองค์ในทุกสิ่ง และทำให้ชีวิตของข้าพระองค์เบ่งบานอย่างมาก ข้าพระองค์ปลอดภัยในความรักของพระองค์ และยินดีอย่างมากในความอบอุ่นและพระสิริของอ้อมกอดของพระองค์ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม: 1 ยอห์น 3:1; โรม 5:8


Comments are closed