พฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน 2014

การอัศจรรย์แห่งความรักของพระองค์
The Miracle Of His Love

“และความหวังใจมิได้ทำให้เกิดความเสียใจเพราะผิดหวัง เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว” (โรม 5:5)

    ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าคิดและภาวนาถึงพระคำของพระเจ้า และใคร่ครวญถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ข้าพเจ้าเกรงขามในการตระหนักว่าพระองค์ได้ทรงใส่สิ่งนั้นไว้ในใจของมนุษย์ สิ่งทรงสร้างของพระองค์ เพื่อรักพระองค์ เป็นการอัศจรรย์ที่มหัศจรรย์ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าคุณเคยคิดเกี่ยวกับความจริงที่ว่าพระองค์ทรงสร้างคุณหรือไม่

คุณรู้หรือไม่ว่าเป็นสิ่งง่ายสำหรับเราที่จะสื่อสารกับพระองค์โดยปราศจากการรับรู้ว่าผู้ที่เรากำลังสื่อสารด้วยนั้นเป็นผู้ที่สร้างเราขึ้นมา ทุกสิ่งที่เราเป็น และรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับเรา ความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้นมากเกินกว่าที่จะบรรยายได้

เป็นเพราะความคิดของเราต้อยต่ำและสับสนเกินกว่าที่จะคิดว่า พระองค์ได้ทรงใส่ไว้ในใจของเราเพื่อที่จะติดตามพระองค์และรักพระองค์ ในการคิดว่าพระองค์ทำให้เราสามารถที่จะรู้จักพระองค์ได้ และต้องการให้รู้จักพระองค์มากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในการทำกิจภายในเรา ช่างเป็นความจริงที่มหัศจรรย์จริงๆ

เมื่อคุณคิดถึงคนเหล่านั้นที่ไม่รู้จักพระองค์ คิดว่าคุณมีโอกาสดีเช่นไรที่ได้รู้จักพระองค์ ไม่ใช่เพราะว่าคุณค้นเจอพระองค์เอง แต่เพราะว่าพระองค์ได้ทรงใส่ไว้ในใจของคุณที่จะรู้จักพระองค์ ที่ดีที่สุดคือการที่พระองค์ได้ทำให้คุณเป็นหุ้นส่วนในการนำวิญญาณผู้หลงหาย

พระองค์สามารถทำให้พวกเขารู้จักพระองค์โดยไม่ต้องให้คุณมีส่วนร่วมก็ได้ เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระองค์มีฤทธิ์อำนาจและสามารถทำได้ทุกสิ่ง อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงเลือกที่จะทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งในงานของพระองค์เพื่อนำคนอื่นมาถึงความรอด นั่นคือความอัศจรรย์และเป็นเกียรติสำหรับเรา

คำอธิษฐาน
    ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์มีความสุขที่ได้รู้ว่าพระองค์ไม่เพียงแต่รักข้าพระองค์ด้วยความรักนิรันดร์เท่านั้น แต่ยังทรงใส่ไว้ในใจของข้าพระองค์ที่จะรักพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้สร้างของข้าพระองค์ หัวใจของข้าพระองค์น้อมลงนมัสการ ในความยิ่งใหญ่ของพระองค์ และสำหรับเกียรติและโอกาสที่ได้รู้จัก รัก และรับใช้พระองค์ ข้าพระองค์เฉลิมฉลองและร้องเพลงถึงความยิ่งใหญ่และความรักของพระองค์ตลอดวันคืนของข้าพระองค์ ในนามพระเยซู อาเมน

ศึกษาเพิ่มเติม:: สดุดี 8:4; เอเฟซัส 1:5